ขั้นกว่าของการเล่าเรื่องจาก ยชและธัญ 2 คู่หู UC (Untitled Case) ที่มาเล่าเรื่องจากเคสจริงแบบสด ๆ จำนวน 2 รอบเต็ม ๆ ในวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา บนเวทีที่เต็มไปด้วยแสง สี เสียงและการแสดงประหนึ่งละครเวทีเรื่องเล็ก ๆ 2 เรื่อง ณ โรงละครแบงก์สยามพิฆเนศ ในบรรยากาศที่แอร์หนาวจังฮู้ ก็ทำให้เรื่องราวของคดีสะเทือนขวัญที่ได้ชมได้ฟังนั้น จับขั้วหัวใจยิ่งกว่าเดิม บรื๋อออ ..

อีกหนึ่งผลงานที่ทีมงาน Salmon เขานำเสนอและมีความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด 19 ที่ทำให้ชีวิตของใครหลายคนเปลี่ยนไป และทำให้หลาย ๆ ช่องพอดแคสต์เกิดและเติบโตตาม ๆ กัน Salmon Podcast ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ที่กำลังโตเอ๊า โตเอาในเส้นทางนี้จนทำให้วงการเล่าเรื่องยกระดับไปอีกขั้น ด้วยการมานั่งเล่ากันสด ๆ พร้อมกับแสง สี เสียง และการแสดง ที่ดูก็รู้ว่าตั้งใจทำอย่างเต็มที่เพื่อคุณผู้ฟังทั้งหลายของเขา

การเลือกเรื่องเล่าที่น่าสนใจ และการสร้างอารมณ์ร่วมได้น่าติดตาม

ใครที่เป็นแฟนคลับ Untitled Case ก็น่าจะทราบกันดีอยู่แล้วนะคะว่าสองคู่หู ยชและธัญ เขาก็มักจะมีเคสสะเทือนขวัญมาเล่าให้บีบหัวจิตหัวใจคนฟังกันเล่น ๆ อยู่ทุกเทปของเขานั่นแหละ และเมื่อทีมงานคิดจะทำ โชว์ (เกือบจะ) ละครเวทีพอดแคสต์ขึ้นมา การเลือกเรื่องมาเล่าก็น่าจะเป็นหัวข้อที่ต้องทำการบ้านกันอย่างหนัก ซึ่งครั้งนี้เราก็เห็นแล้วว่าเขาทำการบ้านกันมาดีทีเดียว เพราะเรื่องที่นำมาเล่าก็น่าสนใจและสร้างความสงสัยให้กับคนฟัง เอ๊ะ หรือควรจะเรียกว่าคนดู อยู่ไม่น้อย

โครงเรื่องที่เลือกมีความน่าสงสัยใคร่รู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยช ที่เป็นคดีการลักพาตัวเด็กชายทารกลูกเศรษฐีคนหนึ่ง ที่มีความน่าสงสัยในรูปคดีอยู่แปลก ๆ จนสร้างคำถามให้กับคนดูได้ว่า ใครเป็นคนฆ่าเด็ก หรือเรื่องของธัญที่สร้างความสะเทือนใจให้ผู้ฟัง และสัมผัสได้ถึงความเห็นอกเห็นใจที่ผู้เล่ามีต่อผู้หญิงโชคร้ายในคดีนั้น จุดนี้สามารถทำให้ผู้ฟังคล้อยตามได้ดี บวกกับการแสดงประกอบที่มีความเป็นละครเวทีผสมแฮปเพนนิงอาร์ต ก็ยิ่งทำให้เกิดอารมณ์ร่วมของผู้ชมได้อีกระดับ

ฉากเด็ดในเรื่องของยช

โดยเฉพาะฉากนี้ในเรื่องของยช ที่ต้องขอชื่นชมการออกแบบการแสดงที่จูงความรู้สึกได้ดีเอามาก ๆ เลิฟเลยค่ะ เพราะในขณะที่ยชและธัญกำลังพูดคุยถึงคดีนี้อยู่ ในจังหวะที่ทุกคนในคดีสามารถเป็นผู้ต้องสงสัยได้หมดในความคิดของผู้เล่า ตัวแสดงที่เกี่ยวข้องในคดีก็จะออกมาสร้างความสงสัยให้มากขึ้นไปอีกด้วยการส่งเสียงแทรกการสนทนาเบา ๆ ราวกับกำลังบีบจิตคนดูและผู้เล่าไปในเวลาเดียวกัน เป็นโทนเสียงที่เราอยากจะได้ยินในหูข้างซ้าย ในขณะที่หูข้างขวาก็ต้องการฟังยชและธัญ

ฉากเด็ดจากเรื่องของธัญ

และเมื่อมาถึงเรื่องของธัญ จากที่คิดว่าเรื่องของยชออกแบบการแสดงได้น่าสนใจแล้ว เรื่องของธัญก็กลับออกแบบการแสดงได้ดีไม่แพ้กัน ด้วยการให้ยชและธัญเข้าไปเผือกอยู่ในเนื้อเรื่องด้วยตัวเองซะเลย ก็ยิ่งสร้างบรรยากาศของการใส่ใจให้กับคดีนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก ก็ไม่ทราบว่าทีมงานคาดหวังความรู้สึกของผู้ชมขนาดนี้ไหม แต่ถ้าไม่หวังผู้เขียนอย่างดิฉันก็อยากจะบอกว่า คุณได้สร้างความรู้สึกนี้ให้กับผู้ชมแล้ว อย่างน้อยก็ผู้เขียนคนหนึ่งละ

มากกว่านี้ทีมงานยังมีการคิดหาวิธีให้คนดูร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านไลน์โอเพนแชต ที่บอกได้เลยว่าหลังจากที่แอด Qr เข้าไป ดิฉันไม่ได้เข้าไปคุยอะไรกับน้อง ๆ ในห้องนั้นเลยค่ะ แต่เจ้าโอเพนแชตนี่ก็สั่นเป็นเจ้าเข้าตลอดเวลา เพราะบรรดา Introvert ทั้งหลายที่เป็นแฟนคลับส่วนใหญ่ของ Untitled Case ต่างร่วมกันแสดงความเห็นกันอย่างคึกคัก แรงตอบรับดีเวอร์ จุดนี้ทีมงานน่าจะยิ้มกันแก้มบาน

แสง สี เสียงและการวางคอมโพสต์ที่จัดว่าเด็ด

ก็อยากชื่นชมกันเต็ม ๆ ไปเลยว่าการวางคอมโพส การจัดแสง การให้สีของช่วงเล่าเรื่อง สวยงามเอามาก ๆ เอาเป็นว่าขอยกตัวอย่างคอมโพสสวยงามที่ผู้เขียนชื่นชอบมาให้ดูก็แล้วกันค่ะ เริ่มจากเรื่องของยชที่มีการวางตำแหน่งผู้เล่า และตำแหน่งผู้แสดงได้อย่างถูกจังหวะ ไม่ว่าผู้ชมจะนั่งอยู่ฝั่งซ้าย ตรงกลาง หรือฝั่งขวาของเวที คอมโพสต์ที่ถูกจัดวางเอาไว้แบบนี้จะไม่ทำให้หลุดจากอารมณ์น่าติดตามไปได้เลย รวมถึงการจัดแสง การใช้เงาที่คิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว

คอมโพสต์งาม ๆ จากเรื่องของยช

จนมาถึงเรื่องของธัญที่เมื่อม่านการแสดงถูกเปิดขึ้น ผู้เขียนอดปรบมือไม่ได้กับการทิ้งสเปชที่ได้จังหวะไม่ได้ แค่นั้นยังไม่พอ เมื่อการเล่าเรื่องเริ่มต้นขึ้น ก็ส่งให้ฉากนี้สมบูรณ์ขึ้น บวกกับการให้แสงที่สร้างความหดหู่ใจ ซึ่งสามารถเสริมอรรถรสของเรื่องราวให้น่ารันทดในชะตากรรมของเหยื่อมากขึ้นไปอีก เรื่องราวของถังน้ำมันที่ถูกทิ้งไว้ในชั้นล่างสุดของบ้าน เป็นชั้นที่รวมไปด้วยของถูกทิ้ง ไม่ต้องการใช้ ไร้คนเหลียวแล แต่ภายในบรรจุไปด้วยร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวที่มีใจรักจริงกับสิ่งของที่เปรียบเสมือนเส้นทางพบรักที่ทำให้เธอต้องจบชีวิจอย่างน่าสังเวช ไม่เศร้าไงไหวล่ะแบบนี้

คอมโพสงาม ๆ จากเรื่องของธัญ

ผู้เขียนสงสารผู้หญิงคนนี้สุดขั้วหัวใจ และอดชื่นชมไม่ได้กับการออกแบบการแสดงของแต่ละตัวละคร โดยเฉพาะการให้แสง การทิ้งสเปซและภาพประกอบการแสดงที่สร้างอารมณ์ร่วมให้ผู้ชมได้มากมาย การเลือกซีนที่ทำให้เราเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดด้วยภาพ คล้อยตามง่าย ๆ โดยผู้เล่าไม่ต้องสาธยายให้มากความ เพียงแต่แสดงความคิดเห็นในคดีอย่างที่ทำอยู่เป็นประจำ ก็ทำให้เรื่องเล่าเรื่องนี้มีเสน่ห์และน่าสนใจเอามาก ๆ

และเสน่ห์อย่างหนึ่งของโชว์ครั้งนี้ก็ไม่ได้มีอยู่แค่นี้นะคะ เพราะก่อนที่ม่านจะเปิด ทีมงานก็จัดให้มีจำอวดหน้าม่านเกิดขึ้น ด้วยการให้สองคู่หู 15 Minutes Wasted แก๊บโบ้และไข่มุก ออกมาพล่ามความฮาที่เข้าคู่กันอย่างดี เอาจริง ๆ สองคนนี้เป็นจำอวดหน้าม่านได้ดีเลยละ เอาเป็นว่าโชว์ (เกือบจะ) ละครเวทีพอดแคสต์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จแล้วละค่ะ เพราะองค์ประกอบต่าง ๆ ครบถ้วนไปหมดแล้ว

ทั้งการเล่าเรื่องและการแสดงที่ไม่มีที่ติ การให้แสง การจัดวางคอมโพสต์บนเวทีที่สวยงาม ลงตัว ถูกจังหวะ จนขับให้เนื้อเรื่องน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อะไรดีก็ว่าดีค่ะ และคาดหวังว่าจะมี โชว์ (เกือบจะ) ละครเวทีพอดแคสต์ แบบนี้อีกเรื่อย ๆ เพราะว่าครั้งนี้พวกคุณทำออกมาได้ดีมาก ๆ แล้ว ครั้งต่อไปทำไมจะไม่มีล่ะ จริงไหม

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส