การประสบความสำเร็จของ ‘Game of Thrones’ นั้น ส่งผลให้ซีรีส์กลายเป็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงปี 2010 ของ HBO สามารถสร้างฐานผู้ชมได้มหาศาลอย่างต่อเนื่องจวบจนถึงซีซันสุดท้ายในปี 2019 แฟน ๆ ของซีรีส์ต่างยกย่องชื่นชมเนื้อหาของซีรีส์ในซีซันแรก ๆ แต่แล้วก็เริ่มกลายเป็นเสียงบ่นในซีซันหลัง ๆ
จนเมื่อมาถึงซีซันสุดท้าย ผู้สร้างก็ต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งผู้ชมและนักวิจารณ์อย่างหนักถึงบทลงเอยของเรื่องราวที่น่าผิดหวัง แต่แล้ว HBO ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าชื่อเสียงของ ‘Game of Thrones’ ยังมีความแข็งแกร่งพอ กับการสร้างซีรีส์ภาคแยก ‘House of the Dragon’ หลังจากจบซีซันแรกไป ซีรีส์ก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า สามารถกอบกู้ชื่อเสียงของ ‘Game of Thrones’ ได้จริง
ย้อนไปในวันที่ซีรีส์ ‘Game of Thrones’ อวสานในซีซันที่ 8 นั้น HBO ได้ประกาศแผนการว่าจะสานต่อแฟรนไชส์นี้ ด้วยการขยายเนื้อหาให้กว้างออกไปเป็นจักรวาลด้วยการซีรีส์ภาคแยกเรื่องต่าง ๆ มากมาย แต่นับถึงวันนี้เราก็เห็นแค่เพียง ‘House of the Dragon’ ออกมาแค่เรื่องเดียว ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้นยังไม่เห็นวี่แววว่าจะเข้าสู่ขั้นตอนเตรียมสร้าง ซึ่งหนึ่งในซีรีส์ภาคแยกที่ HBO เคยวางแผนการจะสร้างไว้นั้นก็มีเรื่อง ‘Jon Snow’ อยู่ด้วย เนื้อหาของซีรีส์จะเล่าเรื่องราวต่อเนื่องจากตอนจบของ ‘Game of Thrones’ เมื่อ จอน สโนว์ ออกผจญภัยไปทางด้านเหนือของกำแพง จนเมื่อเร็ว ๆ นี้เองที่ คิต แฮร์ริงตัน (Kit Harrington) เจ้าของบท จอน สโนว์ ได้ออกมาเปิดเองว่า ซีรีส์ ‘Jon Snow’อยู่ในสถานะที่ถูกเมินไปแล้ว ไม่น่าจะได้เห็นซีรีส์เรื่องนี้ในเร็ว ๆ นี้
เรื่องราวของ ‘Jon Snow’ จะเป็นอย่างไร ?
โปรเจกต์ซีรีส์ ‘Jon Snow’ ถูกเปิดเผยเมื่อกลางปี 2022 ในวันนั้น มีการเปิดเผยว่าซีรีส์ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และแฮร์ริงตันก็ยืนยันว่าจะกลับมาในบท จอน สโนว์ แต่หลังจากนั้นก็มีข่าวคราวเพิ่มเติมออกมาน้อยมาก ส่วน จอร์จ อาร์.อาร์. มาร์ติน (George R.R. Martin) เจ้าของบทประพันธ์ดั้งเดิมก็ยืนยันว่าตัวเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องในซีรีส์นี้ด้วย แม้ว่าแนวคิดเริ่มต้นซีรีส์นี้จะเป็นของแฮร์ริงตันก็ตาม มีข่าวต่อเนื่องว่า แฮร์ริงตันพร้อมด้วยทีมงานของเขาล้วนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในด้านเรื่องราวและการสร้างซีรีส์เรื่องนี้
มีการคาดเดากันว่า เนื้อหาของซีรีส์น่าจะเกี่ยวกับ จอน สโนว์ ต่อเนื่องจากตอนจบของ ‘Game of Thrones’ ในซีซันที่ 8 และเป็นการตอกย้ำทฤษฎีของแฟน ๆ ที่คาดว่า จอน สโนว์ ไม่น่าจะเป็นลูกชายของ เน็ด สตาร์ก แต่เป็นลูกของ ลีแอนนา สตาร์ก และ เรการ์ ทาร์แกเรียน ซึ่งมีชื่อเดิมว่า เอกอน ทาร์แกเรียน นั่นจึงทำให้จอนมีสิทธิ์ในการสืบรัชทายาทโดยชอบธรรมของบัลลังก์เหล็กแห่งเวสเทอรอส แม้ว่าจะไม่ใช่บัลลังก์ที่เขาปรารถนาก็ตาม
ย้อนไปตอนจบที่เขาได้ลงมือสังหาร แดเนรีส ทาร์แกเรียน เพื่อยุติการปกครองแบบเผด็จการของเธอ จอนถูกส่งตัวไปใช้ชีวิตที่เหลือกับ ‘ กลุ่มพิทักษ์ราตรี’ ( Night’s Watch) เมื่อเขากลับมายังกำแพง เขาก็เข้าร่วมกับ ทอร์มุนด์ ไวล์ดิง เดินทางไปยังทางด้านเหนือของกำแพง ส่วนไวล์ดิงก็หมายมั่นจะสร้างอาณาจักรของตนเองขึ้นมา เพราะวันนี้ไม่มีภัยคุกคามจาก Night King และพวก White Walkers อีกต่อไปแล้ว ส่วนจอนในฐานะกษัตริย์ผู้สืบทอดบัลลังก์ของสตาร์กและทาร์แกเรียนจะมีสิทธิ์ในการครอบครองมังกร ซึ่งเราอาจจะได้เห็นมังกรตัวใหม่ ๆ เข้ามาในซีรีส์เรื่องนี้
อุปสรรคของซีรีส์ ‘Jon Snow’ คือเสียงตอบรับที่ไม่ดีของ ‘Game of Thrones’ ซีซันสุดท้าย
ซีรีส์ ‘Jon Snow’ นั้นเรียกได้ว่าเป็นภาคต่อของ ‘Game of Thrones’ อย่างเป็นทางการเลยก็ว่าได้ ต่างจาก ‘House of the Dragon’ ที่เป็นการเล่าเรื่องใหม่ เนื้อหาใหม่ ตัวละครใหม่ ด้วยเหตุนี้ล่ะที่ทำให้ HBO เกิดความลังเลในการอนุมัติสร้าง เมื่อพิจารณาจากเสียงตอบรับของ ‘Game of Thrones’ ซีซันสุดท้าย ถ้าขืนเดินหน้าสานต่อเรื่องราวไปข้างหน้า น่าจะเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก นอกเสียจากทีมงานจะแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ในงานเขียนบทและปรับปรุงศูนย์กลางของเรื่องราวขึ้นใหม่ทั้งหมด
แม้ว่าโดยทางการแล้ว ‘Jon Snow’ จะเป็นซีรีส์ที่เหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่ ทีมงานมีอิสระในการสร้างสรรค์เรื่องราวในเส้นทางใหม่ ๆ แต่ผู้ชมก็ยังมองว่านี่คือ ‘Game of Thrones’ ซีซันที่ 9 อยู่ดี ผู้ชมจะยังจดจำความผิดหวังเดิม ๆ จากซีรีส์ก่อนหน้า และนั่นเท่ากับเป็นการทำลายอิสระในการสร้างสรรค์ซีรีส์เรื่องใหม่อย่าง ‘Jon Snow’
และอีกเหตุผลสำคัญนั่นก็คือ ‘Game of Thrones’ ถือว่าได้จบลงแล้วอย่างเป็นทางการ เพราะ จอร์จ อาร์.อาร์. มาร์ติน หยุดเขียนนิยายไปแล้ว ซีรีส์ ‘Game of Thrones’ ก็อิงเนื้อหาจากนิยายถึงแค่ซีซันที่ 5 เท่านั้น ตั้งแต่ซีซันที่ 6 ก็เป็นการเขียนเรื่องขึ้นเองโดยทีมเขียนบท โดยอิงจากบันทึกและแนวคิดของมาร์ตินที่เขาตั้งใจจะใช้ในนิยาย 2 เล่มสุดท้าย และตัวมาร์ตินเองก็ออกมายอมรับว่า ตัวเขาแทบที่จะไม่ได้มีส่วนเกียวข้องในซีรีส์ 3 ซีซันสุดท้ายเลยด้วย ตรงจุดนี้ก็มีแฟน ๆ เดนตายหลายคนที่่สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ ทั้งตัวละคร บทสนทนา เนื้อหา ที่ขาดความเฉียบคมอย่างเห็นได้ชัดใน 3 ซีซันสุดท้าย HBO ก็ตระหนักถึงปัญหานี้ล่ะ ว่าถ้าต้องสร้าง ‘Jon Snow’ จากเนื้อหาที่ทีมงานเขียนเรื่องขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ก็อาจจะเจอปัญหาแบบเดียวกับ ‘Game of Thrones’ในซีซันหลัง ๆ
อนาคตของซีรีส์ภาคแยกเรื่องอื่น ๆ
จนถึงขณะนี้ก็มีเพียง ‘House of the Dragon’ เพียงเรื่องเดียวที่ถูกสร้างออกมา และเป็นการกลับมาอย่างสวยงาม กู้คืนศรัทธาผู้ชมได้สำเร็จ เพราะเนื้อหาของซีรีส์ได้ดึงเอากลยุทธ์ทางการเมืองที่เป็นจุดเด่นของซีรีส์ต้นฉบับมาใช้ในการขับเคลื่อนเรื่องราวได้อย่างเข้มข้น และยังมีมังกรพ่นไฟมาเป็นฉากแอ็กชันสอดแทรกเข้ามาเป็นระยะ เหตุผลสำคัญที่ ‘House of the Dragon’ ประสบความสำเร็จนั้น เป็นเพราะนี่ไม่ใช่ซีรีส์ที่ทีมงานเขียนเรื่องขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แต่ดัดแปลงมาจากเนื้อหาบางส่วนของ ‘Fire & Blood’ นิยายปี 2018 ของ จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน
ซีรีส์ภาคแยกเรื่องต่อไปที่จะตามมาก็คือ ‘A Knight of the Seven Kingdoms: The Hedge Knight’ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่าง ‘House of the Dragon’ กับ ‘Game of Thrones’ ช่วงประมาณ 100 ปีหลังจาก ‘House of the Dragon’และซีรีส์เรื่องนี้ก็ดัดแปลงมาจาก ‘Tales of Dunk and Egg’ นิยายซีรีส์ 3 เล่มจบที่มีฉากหลังอยู่ในโลกของเวสเทอรอส เล่มแรก ‘The Hedge Knight’ ตีพิมพ์เมื่อปี 1998 เล่ม 2 ‘The Sworn Sword’ ตีพิมพ์เมื่อปี 2003 และเล่มที่ 3 ‘The Mystery Knight’ ตีพิมพ์เมื่อปี 2010
นอกเหนือจากนี้ HBO ก็ยังมีแผนการจะพัฒนาซีรีส์ภาคแยกเรื่องอื่น ๆ อีก คือ ‘Princess Nymeria’ เรื่องราวของราชินีนักรบผู้ก่อตั้งอาณาจักรดอร์นิช และ ‘Aegon the Conqueror’ ผู้สถาปนาราชวงศ์ทาร์แกเรียนแห่งเวสเทอรอส รวมไปถึงแอนิเมชัน ‘The Golden Empire’ และ ‘The Sea Snake’ ซึ่งการพัฒนาซีรีส์เหล่านี้นั้น HBO ค่อย ๆ ดำเนินการไปอย่างระมัดระวังว่าจะไม่ขยายจักรวาลให้กว้างจนเกินไป และไม่ให้เรื่องราวซับซ้อนยุ่งเหยิงจนเกินไป
HBO ได้แสดงเห็นถึงเจตนาในการควบคุมคุณภาพของจักรวาล ‘Game of Thrones’ นี้แล้ว ด้วยการยกเลิกบางซีรีส์ที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นผลดีคุณภาพขององค์รวม ก่อนหน้านี้ก็เคยยกเลิกซีรีส์ ‘Bloodmoon’ที่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวก่อนหน้ามาแล้ว แม้ว่าจะถ่ายทำตอนนำกันเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วย แต่ HBO ก็สั่งยกเลิกแล้วหันไปเดินหน้า ‘House of the Dragon’ แทน ซึ่งตอนนี้ก็ดูเหมือนว่า ‘Jon Snow’ ก็น่าจะประสบชะตากรรมเดียวกันไปแล้ว
ที่มา : Movieweb