Play video

  • สร้างสรรค์และพัฒนาโดย มาร์ค ฮูดิส และ แบรี ซอนเนนฟิลด์
  • เหมาะสำหรับ ผู้ชื่นชอบซีรีส์แฟนตาซี และแนวตลกร้าย
  • สตรีมมิงทาง Netflix


พี่น้องตระกูลโบเดอแลร์ยังคงต้องผจญกับสารพัดภัยจากแผนการร้ายของ เคานต์โอลาฟ (นีล แพตทริค แฮริส) อย่างไม่หยุดหย่อน เริ่มตั้งแต่แผนการกำจัดพวกเขาตั้งแต่โรงเรียนประจำสุดประหลาดไปจนถึงคณะละครสัตว์สุดเพี้ยน งานนี้ ไวโอเลต (มาลีนา ไวส์แมน) พี่สาวนักประดิษฐ์  เคลาส์ (หลุยส์ ไฮนส์) น้องชายจอมถอดรหัส และ ซันนี (เพรสลี สมิธ) ทารกฟันมหากาฬ จำต้องร่วมมือกันเอาตัวรอดจากแผนฮุบสมบัติของ เคานต์โอลาฟให้จงได้


สำหรับ ซีซันที่ 2 ของ A Series of Unfortunate Events ก็ดำเนินเรื่องต่อจากตอนจบของซีซันแรก โดยดัดแปลงเนื้อหาจากหนังสือ 5 เล่มต่อมาได้แก่ The Austere Academy The Ersatz Elevator The Vile Village The Hostile Hospital และ Carnivorous Carnival   และยังคุมงานสร้างโดย แบรี ซอนเนนฟิลด์ เช่นเดิม ดังนั้นรสชาติที่เราคุ้นเคยตั้งแต่ซีซันแรกทั้งอารมณ์ตลกร้าย ความตื่นเต้นจากสถานการณ์เลวร้ายที่เหล่าพี่น้องโบเดอแลร์ต้องเผชิญยังอยู่ครบถ้วน รวมถึงทีมนักแสดงเดิมที่เราต่างติดใจจากซีซันแรกก็ตบท้ายกลับมาสานต่อเรื่องราวได้อย่างสนุกสนานมากเลยทีเดียว ทั้ง นีล แพตทริก แฮริส ที่ยังคงความร้ายกาจแฝงอารมณ์ตลกร้ายได้อย่างแม่นยำ มาลีนา ไวส์แมน ก็เปล่งประกายสดใสในบทไวโอเลต สาวนักประดิษฐ์หัวกะทิ หลุยส์ ไฮนส์ ก็กลับมาให้บรรดาแม่ยกเกาะจอรอลุ้นกับการถอดรหัสของหนุ่มแว่นหน้ามนสุดหล่อ รวมถึง เพรสลี สมิธ ที่แม้จะยังอ้อแอ้แต่ความน่ารักอยู่ในระดับทำลายล้างและสร้างความสนุกแบบเบิ้ลสามให้ทุกสถานการณ์ให้เราทั้งหัวเราะ และลุ้นจนเหนื่อยเลยทีเดียว



สำหรับธีมหลักของซีซันนี้คงหนีไม่พ้นการพูดถึงมุมมองของเด็กที่มีต่อผู้ใหญ่ในฐานะผู้ปกครองที่มักจำกัดสิทธิในการแสดงออกของเด็กๆ ทั้ง ผ.อ.โรงเรียนออสแตร์ในสองตอนแรก ไปจนถึงสภาผู้อาวุโสในเมือง VFD ที่ปกครองระบอบเผด็จการและออกกฎที่ไม่สนใจความต้องการของเยาวชนเลยสักนิด และด้วยเนื้อหาส่วนนี้เลยทำให้ A Series of Unfortunate Events ซีซันนี้มีเนื้อหาสาระที่ชวนถกเถียงกันต่อถึงระบบการศึกษาและสังคมที่แวดล้อมเยาวชนอยู่อย่างน่าคิด และชวนให้เราสำรวจตัวเองว่าเราได้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และเสรีภาพในการแสดงออกให้แก่เยาวชนอย่างเพียงพอแล้วหรือยัง



และในซีซันนี้ งานสร้างของโบ เวลช์ ก็ยิ่งอลังการงานสร้างมากขึ้น ทั้งโรงเรียนออสแตร์ที่ให้ความรู้สึกลึกลับแบบโรงเรียนประจำ ความพิสดารของบรรดาคฤหาสน์ หรือร้านอาหารเพี้ยนๆที่เราไม่มีวันได้เจอในโลกความจริงแน่ๆ  เมืองแห่งอีกาที่มีบรรดาผู้เฒ่าคร่ำครึอนุรักษ์นิยม รวมถึง โรงพยาบาล และ คณะละครสัตว์ ที่ออกแบบงานสร้างออกมาในสไตล์โกธิค ดูลึกลับมืดทึมแต่เล่นสนุกกับรายละเอียดได้แบบครบทุกเม็ดจริงๆ เรียกได้ว่าดูงานสร้างก็คุ้มค่าการรอคอยมาปีนึงแล้วล่ะ

สรุปแล้ว  A Series of Unfortunate Events ยังคงความสนุกในการเล่าเรื่อง การแสดงที่ใช่ และเนื้อหาชวนคิดจากบทประพันธ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย แน่นอนล่ะว่าพอจบซีซันนี้แล้วหลายคนก็คงต้องรอดูต่อในซีซันสามแน่นอน ซึ่งก็คงต้องรอลุ้นผลตอบรับจากซีซันสองนี้ว่า เหล่าพี่น้องโบเดอแลร์จะได้ไปต่อในซีซันสามหรือไม่