- สร้างสรรค์โดย คาร์โล เบอร์นาร์ด และ ดั๊ก ไมโร
- เหมาะสำหรับ แฟนซีรีส์ Narcos และผู้ชื่นชอบซีรีส์ หรือหนังอาชญากรรมผสมการเมือง
- สตรีมมิงทาง Netflix (คลิกเพื่อรับชมได้เลย)
- คำเตือน ซีรีส์มีฉากใช้ยาเสพย์ติดและฉากเซ็กส์ที่เห็นเรือนร่างของหญิงสาว
หลังสร้างกระแสจากป้ายเซ็นเซอร์โมเสกจนเป็นทีีฮือฮาในโลกออนไลน์และออฟไลน์ ก็ได้เวลาที่เราจะมาพิสูจน์กันกับซีรีส์ Narcos Mexico ซีรีส์ที่ต่อยอดมาจาก Narcos ซีรีส์อาชญากรรมอิงประวัติศาสตร์การปราบปรามยาเสพย์ติดข้ามชาติที่สร้างติดต่อกันถึง 3 ซีซันและแน่นอนหลังจากปิดบัญชีแก๊งกาลีในซีซัน 3 ผู้สร้างก็ขอหาเรื่องราวใหม่แต่เป็นยุคสมัยที่มีความซ้อนทับกันคือการขนส่งกัญชาข้ามชายแดนเม็กซิโกมายังสหรัฐในสมัยรัฐบาล โรนัลด์ เรแกน อันมีผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมืองที่มาเกี่ยวโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อ
โดยคราวนี้เราจะได้ติดตาม กิกิ กามาเรนา (ไมเคิล เพนยา) เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพย์ติดชั้นผู้น้อยชาวฮิสแปนิกที่ย้ายมาประจำเม็กซิโก กับภารกิจโค่น ฟีลิกซ์ กัลลาร์โด (ดิเอโก ลูนา) ตำรวจกังฉินที่ร่วมมือกับ ราฟาเอล (เตโนช ฮูเออร์ต้า) ชาวไร่สายเขียวพัฒนากัญชาเกรดใหม่และวางแผนสร้างเครือข่ายธุรกิจส่งออกกัญชาไปยังสหรัฐอเมริกาโดยอาศัยช่องทางการคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ งานนี้ กิกิ จะขวางทาง ฟีลิกซ์สำเร็จหรือไม่ต้องติดตาม
ว่ากันตามตรงเลยคงต้องบอกว่า Narcos Mexico ยึดการดำเนินเรื่องแบบเดียว Narcos 3 ซีซันแบบเป๊ะๆ ทั้งการให้ข้อมูลเชิงสารคดีที่น่าสนใจโดยปนความคิดเห็นของคนเขียนบทเพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวที่เป็นเรื่องแต่งเข้ากับประวัติศาสตร์การเมืองที่สหรัฐอเมริกาเคยมีเอี่ยวกับการแทรกแซงกิจการภายในประเทศแถบอเมริกาใต้ได้อย่างแนบเนียน แต่ในทางกลับกันใครที่อยากหาความบันเทิงจากซีรีส์โดยหวังว่ามันจะแอ็คชั่นระเบิดระเบ้อก็อาจผิดหวังได้ เพราะซีรีส์แต่ละตอนเลือกบอกเล่าเรื่องราวแบบละเอียดปูหมดกระทั่งว่า ฟีลิกซ์ ต้องติดต่อใครบ้างกว่าจะได้เส้นสายในการขนส่งกัญชาจนบางทีหากร่างกายไม่พร้อมนี่มีหลับคาจอได้เลย
แต่สิ่งที่ผิดแผกออกไปและดูเหมือนว่ามีผลต่อการชมไม่น้อย นั่นคือการสร้างตัวละครที่ดูขาวจัดอย่าง กิกิ ที่หนังทั้งปูเรื่องครอบครัวและเพิ่มคะแนนสงสารด้วยฉากโดนตำรวจดูถูกในตอนเปิดเรื่อง ส่วนผู้ร้ายอย่าง ฟีลิกซ์ ก็มุ่งแต่จะค้ายาโดยไม่สนเครื่องแบบและหน้าที่ตำรวจแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้เสน่ห์แบบ Narcos ที่ตัวละครทั้ง 2 ฝ่ายมีความเป็นสีเทาไม่มีใครดีหรือชั่วแบบสุดขั้วเลยถูกลดทอนลงอย่างน่าเสียดาย โดยยังคงไว้ซึ่งฉากแอ็คชั่นที่มีความโหดแต่เพิ่มระดับความวินาศสันตะโรมากขึ้นและแถมสาวๆสวยๆที่พร้อมโชว์เรือนร่างเป็นอาหารตาหนุ่มๆเหมือนเดิม
ว่ากันถึงนักแสดงที่คราวนี้หนังใช้ดาราเชื้อสายอเมริกาใต้คนดังทั้ง ไมเคิล เพนยา จาก Antman และ ดิเอโก ลูนา จาก Rouge One A Star Wars Story ซึ่งก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีประมาณหนึ่งเพียงแต่สถานะดาราของพวกเขา หลายครั้งก็ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังดูเรื่องแต่งมากกว่าเรื่องราวเชิงสารคดีหรือ Docudrama แบบ Narcos ทั้ง 3 ซีซันไปอย่างน่าเสียดาย
ในภาพรวมถือว่ายังคงสานต่อเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ได้อย่างน่าสนใจแต่อาจไม่ได้เหมาะกับคนที่ต้องการหาซีรีส์แอ็คชั่นมันส์ๆเท่าไหร่นัก