Our score
9.0Netflix Kingdom
จุดเด่น
- ซีรีส์เล่าเรื่องได้ระทึกมาก
- ซอมบี้ดูน่ากลัวจริงไม่จกตา
- มีแฝงประเด็นการเมืองให้ได้ติดตามกันเรื่อยๆ
- นักแสดงเล่นดีกันทุกคน
จุดสังเกต
- ซีซันแรกสั้นมาก
- ทิ้งทายไว้ค้างคาแทบรอซีซัน 2 ไม่ไหว
- ซีรีส์โหดจริง มีภาพสยดสยองเยอะมาก
-
ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท
9.0
-
ความสมบูรณ์ของงานสร้าง
9.0
-
ความน่ากลัว ความระทึกแบบหนังซอมบี้
9.0
-
ความน่าติดตามในแต่ละตอน
9.0
-
ความคุ้มค่าเวลาในการชม
9.0
- ควบคุมงานสร้างโดย ลีซังแบ็ค
- เหมาะสำหรับ คอหนังหรือซีรีส์แนวซอมบี้ เอาชีวิตรอด
- สตรีมมิง 6 ตอนทาง Netflix (คลิกเพื่อชมซีรีส์ได้ทันที)
ต้นธารของ Kingdom มาจาก The Kingdom of the Gods คอมิคซีรีส์ออนไลน์ดังที่โดดเด่นด้วยการเอา ซอมบี้ ไปอยู่ในยุคโชซอนและยังผูกปมเรื่องให้มีกลิ่นอายความเป็นหนังทริลเลอร์การเมืองนิดๆให้ชวนติดตามได้อย่างลงตัวซึ่งบทของซีรีส์ก็รังสรรค์โดย คิมอึนฮี ผู้เขียนเรื่องในคอมิคต้นฉบับเอง ซึ่งก็ทำให้เรื่องราวถูกเล่าได้อย่างรัดกุม รอบด้าน ที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษเห็นจะเป็นเรื่องราวในส่วนของการเมืองในราชสำนักที่ทำให้เห็นผลร้ายของการฉ้อราชบังหลวงที่ทำให้ราษฎรต้องลำบากในยามวิกฤติ ในขณะที่อภิสิทธิชนก็ต้องการคงอำนาจตนเองไว้ให้นานที่สุด ซึ่งถือเป็นธีมคลาสสิกที่สามารถชูรสและเพิ่มความโดดเด่นให้ซีรีส์ได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังคงสารที่หนังหรือซีรีส์ซอมบี้ดังๆได้กล่าวมาตลอดนั่นคือ พอถึงจุดๆหนึี่ง คนจะน่ากลัวกว่าซอมบี้หลายเท่านัก
ด้าน คิมซองฮุน ผู้กำกับที่เคยทำ A Hard Days ปี 2014 ที่เคยได้ฉายในสาย Director Fortnight ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์มาแล้ว ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะซีรีส์แทบไม่มีช่วงไหนที่น่าเบื่อเลย คิมซองฮุน สามารถกำกับการแสดงในภาพรวมให้เร้าอารมณ์ผู้ชมให้รู้สึกถึงความหวาดกลัวทั้งผีดิบและความอำมหิตของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งงานภาพก็ถือว่าผู้กำกับไม่เสียชื่อที่เคยทำหนังขวัญใจนักวิจารณ์มาก่อนเพราะงานวิช่วลของซีรีส์คือใช้ภาษาภาพยนตร์มาบอกเล่าและสื่อความหมายในหลายๆฉากได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ
ส่วนนักแสดงต้องบอกว่านี่คือดรีมทีมที่แท้จริง ด้าน จูจีฮุน หรือ เจ้าชายเย็นชา แห่ง Princess Hours (2006) ก็รับบท องค์รัชทายาทได้เท่โคตรๆทั้งบู๊ฟันดาบ หรือขี่ม้าได้อย่างสง่างามแถมยังถ่ายทอดความเมตตาขององค์ชายที่ถูกหักหลังได้น่าเอาใจช่วยมากๆ ส่วน ริวซองรยอง นี่ถ้าเป็นเมืองไทยน่าจะโดนทุเรียนไปหลายลูกเลย ฮ่าาาา คนอะไรจะร้ายได้ขนาดนั้น และปิดท้ายที่ แบดูนา ที่แม้เรื่องนี้เธอจะไม่ได้โชว์ความเซ็กซี่เหมือน Sense8 หรือหนัง Cloud Atlas แต่เสน่ห์ด้านการแสดงของเธอยังมาเต็มในฐานะหมอสาวที่พยายามหาทางคิดค้นยารักษาโรคระบาด ที่เชื่อว่าจบ 6 ตอนนี้แล้วหลายคนคงแทบลงแดงรอดูซีซัน 2 ต่อไม่ไหวแน่นอน