Our score
8.6[รีวิวละคร] ลิขิตแห่งจันทร์ : ด้วยลิขิตแห่งจันทร์หรือเป็นบุพเพสันนิวาส
จุดเด่น
- บทดี น่าติดตาม รับชมได้ทุกเพศทุกวัย
- ลายผ้าบนสไบและผ้านุ่ง ที่ออกแบบเป็นพิเศษ สวยมาก
จุดสังเกต
- อาจจะขัดตาผ้าสไบหลายชิ้นเพราะเป็นการพิมพ์ลงบนผ้ามัน พื้นขาว น่าเสียดายตรงจุดนี้นิดหนึ่ง
-
คุณภาพงานสร้าง
8.0
-
คุณภาพการแสดง
8.5
-
ความสมบูรณ์ของบท
8.5
-
ความสนุกน่าติดตาม
9.0
-
คุ้มเวลาในการรับชม
9.0
ออกอากาศมาหลาย ep แล้ว
สำหรับละครพีเรียดข้ามภพอย่าง ลิขิตแห่งจันทร์ จากค่ายอาหลองกรุ๊ป
มีกระแสดราม่าเข้าหูมาว่า เลียนแบบบุพเพสันนิวาส ไม่ใช่ม้างงงงง ก็แค่ย้อนอดีตเหมือนกัน แต่เนื้อเรื่องไม่เหมือนกันเลยนะ แถมบ้านเราก็ยังมีละครย้อนอดีตแบบนี้มากกว่า 1 เรื่องซะด้วยซ้ำ
แต่การที่จะโดนเอาไปเปรียบเทียบมันก็เป็นเรื่องสุดวิสัยเพราะบุพเพสันนิวาสก็ดังเปรี้ยงปร้าง เรตติ้งพุ่งกระฉูดไปถึง 18.6 เรียกได้ว่าทุบสถิติเรตติ้งทีวีดิจิทัล กลายเป็นละครแห่งปีจนแฟน ๆ ต่างรอภาคต่อที่หยอดน้ำเชื้อไว้อย่างใจจดใจจ่อ
บุพเพสันนิวาสนางเอกข้ามภพมาด้วยดวงจิต พุ่งปรู๊ดเป็นผีพุ่งใต้ ตรงดิ่งมาเจาะหลังคาบ้านของพ่อเดชเพื่อเข้าร่างแม่การะเกดที่เพิ่งตายไปหมาด ๆ ให้เกิดใหม่เป็นนิวการะเกดที่ทุกคนหลงรัก แต่ลิขิตแห่งจันทร์เป็นการข้ามภพแบบสลับฝาสลับตัวผ่านตัวกลางคือภาพวาดโบราณ
แม่หญิงดวงแก้ว กับ หมวดโอปอล์ (น้ำตาล พิจักขณา) สองสาวต่างภพ ต่างคนต่างยืนมองภาพวาดกันอยู่ พระจันทร์ก็ส่องแสงวิบแว้บทำปฏิกริยากับภาพวาดให้เคลื่อนไหว แล้วดูดวืด สองสาวสลับตัวกันเลย
แม่หญิงดวงแก้วเป็นสาวชาววัง กุลสตรีทุกกระเบียดนิ้ว งามพร้อมทั้งรูปสมบัติคุณสมบัติของสตรีชาววัง ต้องมาสลับตัวกันกับหมวดโอปอล์ สายลับสาวแชมป์แม่นปืนแห่งกองปราบ ที่มีภารกิจทลายแก๊งค้าวัตถุโบราณผิดกฎหมาย
ด้วยแรงอธิษฐานของ ก้าน (นริศสันต์ โลกวิทย์) ทหารชาวกรุงศรีอยุธยาผู้ภักดีต่อแผ่นดิน ก่อนตายก้านได้ตั้งจิตต่อดวงจันทร์ขอให้มีคนดีมาช่วยส่งต่อสาส์นลับให้ถึงมือแม่ทัพใหญ่ กลายเป็นลิขิตแห่งจันทร์ที่ดลบันดาลให้ก้านข้ามมิติมาพบกับ โอปอล์ พร้อมสาส์นลับในกระบอกไม้ไผ่ที่หวงแหน
ฤๅจะเป็นลิขิตแห่งจันทร์ดลบันดาล
ข้ามมาปุ๊บ ก้านก็ตายปั๊บ ทิ้งไว้แต่ร่างนิรนามของตัวเองพร้อมกระบอกไม้ไผ่ปริศนาและเป็นเหตุให้โอปอล์ต้องมีชะตากรรมข้ามภพไปอยู่ในสมัยอยุธยาตอนปลายจนได้พบกับ หลวงโอสถวรเวช (คณิน ชอบประดิถ) หมอหลวงขี้อาย แถมยังพกเป้คู่ใจที่ในนั้นบรรจุไปด้วยเสื้อผ้าและอุปกรณ์ไฮเทคของยุคปัจจุบันมาถึงภพอดีตอีกด้วย เรียกได้ว่าพกของแปลกไปสำแดงกันถึงสมัยโน้นเลยทีเดียว
ทำเอาหลวงโอสถยอมเชื่อว่าโอปอล์ไม่ใช่แม่หญิงดวงแก้วที่เขารู้จัก แต่เธอข้ามเวลามาจากอนาคต คือเรื่องนี้เขาบอกกันแต่แรกเลยแหละว่าเขาข้ามมิติมาทางภาพวาด ไม่ต้องรอให้สงสัยหรือไปบอกกันท้าย ๆ เรื่อง แล้วอีตาหมอหลวงนี่ก็เชื่อเลยซะด้วย ว่าง่ายจังเนอะ
ความที่เป็นสาวขี้เล่น ทะเล้น แม่นคิวบู๊ แล้วไหนจะอาจหาญคิดตั้งสำนักสอนหมัดมวยให้ชาวบ้านไว้เป็นวิชาป้องกันตัวอีก คือนางเป็นคนกระโดกกระเดกไร้ซึ่งเงาของกุลสตรี ต่างกับแม่การะเกดของพี่เดชลิบลับเลยนะ แม่การะเกดนี่สอนการบ้านการเรือนยังทำเป็นและทำได้ดี แต่โอปอล์นี่สอนเท่าไหร่ก็เรียกได้ว่า ขุนไม่ขึ้น พยายามทำตัวเป็นแม่หญิงดวงแก้วให้ได้แต่ก็ไม่รอดอยู่ดี
จนทำให้ โฉม (ณัฐวรา วงศ์วาสนา) กุลสตรีชาววังอีกนางที่หมายปองพี่หมอโอสถ ฉวยโอกาสเอาความผิดเพี้ยนที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือของแม่หญิงดวงแก้วสลับภพ มาใส่ความหาเรื่องจนเดือดร้อนต้องมาประกวดประขันชิงชัยงานฝีมือการเรือนและเครื่องคาวหวานต่อหน้า เสด็จฯ (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล)
ความเป็นตัวเองของโอปอล์ เป็นความแปลกที่หลวงโอสถไม่เคยเห็นไม่เคยสัมผัสจากแม่หญิงคนไหน เรียกได้ว่าทั้งอยุธยาหามีใครเหมือน ทำให้เขาตกหลุมรักสาวหลงยุคเอาซะดื้อ ๆ
ส่วนแม่หญิงดวงแก้วก็ข้ามภพมาอยู่ในยุค 2562 หล่นตุ๊บลงมาในบ้านของ พิภพ (ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์) คู่หูมือปราบที่แอบชอบโอปอล์มานาน แล้วงานนี้แม่หญิงดวงแก้วก็ต้องรับภารกิจในการทลายแก๊งค้าวัตถุโบราณแทนโอปอล์ที่ไปแทนตัวเองในภพโน้นด้วย รายนี้เขาก็บอกพิภพแล้วแหละว่า “ข้าไม่ใช่แม่หญิงโอปอล์ ข้าชื่อดวงแก้วเป็นชาวกรุงศรีฯ” แต่อีตาพิภพกลับไม่เชื่อ คิดว่าโอปอล์ประสบอุบัติเหตุจนสมองกระทบกระเทือน ก็พยายามช่วยฝึกยิงปืน สอนการเป็นตำรวจให้ใหม่เพราะคิดว่านางความจำเสื่อม แต่สอนเท่าไหร่นางก็ไม่เอาไหนอยู่ดี พยายามแล้วแต่มันไม่รอดจริง ๆ อ่ะ คนเคยจับแต่เข็มร้อยมาลัย ให้มาจับปืนมันจะได้ยังไงอ่ะ พ่อคุณ
ฝีมือที่ด้อยลงของหมวดโอปอล์คนใหม่ทำให้ เบญญา (ชาเคอลีน มึ้นซ์) หมวดสาวคู่แข่งของหมวดโอปอล์ที่แอบหลงรักพิภพอยู่ คอยแนะแหนจับสังเกตหมวดโอปอล์ที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่ความนุ่มนิ่มอ่อนช้อยของดวงแก้ว ก็ทำให้พิภพยิ่งรักโอปอล์คนใหม่มากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่เชื่อว่าเขาข้ามภพมาอยู่ดีนั่นแหละ
จุดนี้เป็นเส้นเล็ก ๆ ที่ดิฉันเดาเองว่า บทน่าจะพยายามบอกเราว่า คนสมัยโบราณจะเชื่อโดยไม่มีข้อกังขาถ้าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย แต่คนยุคปัจจุบันจะพยายามหาเหตุหาผลมารองรับ สร้างสมมุติฐานเพื่อปฏิเสธเรื่องเหลือเชื่อ
ม้ากระโดกกระเดกต้องมานุ่งโจงห่มสไบ เป็นแม่หญิงในสมัยกรุงศรีฯ ที่วัน ๆ ก็เข้าครัวกับร้อยมาลัย ส่วนแม่หญิงผู้งามพร้อมก็ต้องจำทนไปนุ่งยีนส์ จับปืน ไปเป็นสายลับนกต่อเพื่อจับโจร
เนื้อหาสนุกนะคะ น่าติดตาม ดูได้เรื่อย ๆ ถึงจะไม่หวือหวามากมายอะไรนัก แต่ก็ไม่มีคำว่าน่าเบื่อโผล่มาในความรู้สึก มีมุกตลกประปรายตลอดทั้งเรื่อง และที่สำคัญ กอล์ฟ นักปิ้งไก่ในตำนาน (กัญจน์ ภักดีวิจิตร) ก็โผล่มาแย่งซีนในเรื่องนี้ด้วยกับบทนักรบสมัยอยุธยา ที่ทั้งโดนซ้อม โดนเฆี่ยน โดนวางยา โดนถ่วงน้ำ สุดท้ายเป็นบ้า แถมความจำเสื่อมเข้าไปอี้กกกกก
ละครเน้นไปที่การข้ามภพของสองสาวโอปอล์และดวงแก้ว ความแตกต่าง ภารกิจที่ต้องรับผิดชอบตามยุคสมัย มากกว่าที่จะใส่เนื้อหาในด้านประวัติศาสตร์ คือมีแหละแต่ไม่มากมายเท่าบุพเพสันนิวาส
แม่หญิงดวงแก้วมาช่วยทลายแก๊งค้ายาในยุคปัจจุบัน
โอปอล์ก็ไปช่วยปราบกบฎในสมัยอยุธยาตอนปลาย
แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นที่พูดถึงในวงกว้างเอาซะเลย….อาจเป็นเพราะ แม่เหล็กไม่แรงพอ ต่อให้บทดีแค่ไหนก็ตามก็ทำให้เงียบจนได้ยินเสียงจิ้งหรีดเอาได้ง่าย ๆ
เรื่องนี้ยังได้ (อิน บูโดกัน) มารับบทเป็น อีพลับ บ่าวคนสนิทของแม่หญิงดวงแก้วและยังต้องเป็น แจ่ม สาวใช้ของโอปอล์ในยุคปัจจุบัน เป็นชูรสช้อนเล็ก ๆ ที่ละครสายนี้ต้องมีและได้น้าสมเล็ก (สมชาย ศักดิกุล) มารับบทเป็น ดร.เฟื่อง นักโบราณคดีที่ความจำเสื่อม กับเสียงหัวเราะที่เป็นเอกลักษณ์ อีตา ดร.เฟื่องนี่แหละจะเป็นตัวไขปริศนาของภาพวาดโบราณที่ดูดให้สองสาวต้องสลับตัวกันและจะทำให้หมวดโอปอล์กับแม่หญิงดวงแก้วสามารถเดินทางกลับภพของตนเองได้
อ้าว…แล้วทีนี้พี่หมอหลวงกับอีตาพิภพจะทำยังไง ตกหลุมรักสาวแปลกกันไปซะแล้วด้วยสิ
ติดตามชมละคร ลิขิตแห่งจันทร์ ได้ทุกวันศุกร์–อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
รับชมย้อนหลังได้ที่ https://mello.me/?refer=intro
บทประพันธ์ : จาวตาล
บทโทรทัศน์ : ฟินิกส์
กำกับการแสดง : กฤษณพงศ์ ราชธา / เฉิดบุญ ภักดีวิจิตร
อำนวยการผลิต : บริษัท อาหลอง กรุ๊ป จำกัด
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส