Our score
9.4[รีวิว] ฤกษ์สังหาร : เข้มข้น มีลุ้น จะเสียดายถ้าไม่ได้ดู
จุดเด่น
- ดำเนินเรื่องเร็ว กระชับ น่าติดตาม
- สนุก ตื่นเต้น มีเรื่องให้ลุ้นตาม
จุดสังเกต
- เดาทางได้แต่ไม่ได้ชัดจนหมดสนุก
-
การดำเนินเรื่อง
9.9
-
ความสมบูรณ์ของบท
9.0
-
คุณภาพนักแสดง
9.0
-
คุณภาพงานสร้าง
9.0
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
9.9
ชั่วโมงนี้ถ้าไม่พูดถึง ฤกษ์สังหาร ก็จะรู้สึกผิดบาปในใจจริง ๆ ค่ะ โทษฐานที่ไม่ยอมแนะนำละครดี ๆ น่าดูให้ได้ไปดูกัน ดิฉันตามดูย้อนหลังมาจนถึง ep10 โอ้แม่เจ้า!!! บอกเต็มปากเต็มคำเลยว่า ใครยังไม่ได้ดูรีบไปดูกันเถอะ คุณคะ คุณอย่าพลาดเรื่องนี้ เพิ่งเดินทางมาได้ไม่ถึงครึ่งเรื่อง ยังตามกันทันอยู่ ไม่อยากสปอยล์อะไรมากมาย เอาเป็นว่าจะเล่าคร่าว ๆ เม้ามอยถึงความประทับใจไว้เล็ก ๆ ก็แล้วกัน
เปิดฉากมาไม่กี่นาทีก็ไม่ต้องรออะไรกันเลย
ลุ้นมันตั้งแต่ต้นเรื่องกันนี่แหละ เป็นละครที่ไม่ต้องรอดูให้สนุกขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความสนุกเริ่มฉายแววกันที่ฉากแรกนี่เลย ดูไปดูมายังไม่ทันผ่าน ep1 เอ้า….ศพแรก มาเลยเหรอ??
ฤกษ์สังหาร เป็นเรื่องราวการต่อสู้กันระหว่างอำนาจศาสตร์แห่งโหร โดยมีหมอดูสองคนสู้กัน การสู้กันในที่นี้ไม่ใช่การปล่อยแสงปล่อยพลังเหนือธรรมชาติใส่กันนะคะ แต่สู้กันในเชิงชิงไหวชิงพริบ อีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้กระทำ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งพยายามขัดขวาง แก้เกม อุทธิ (มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) เป็นหมอดูอำนาจศาสตร์มืด ที่พยายามจะทำพิธีสังเวยธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ เรียกว่าพิธีกรรมฤกษ์สังหารเพื่อแก้ดวงเมือง หวังใช้เป็นใบเบิกทางสู่อำนาจอันยิ่งใหญ่ของใครบางคน จริง ๆ ก็หลายคนเลยแหละ โดยมี มหากะทิง (ฌอห์ณ จินดาโชติ) หมอดูอำนาจศาสตร์ขาว ที่ล่วงรู้ความลับของการทำพิธีครั้งนี้ เพราะไอ้ตำราในการทำพิธีฤกษ์สังหารมันเป็นตำราเก่าแก่ที่หายไปจากบ้านของมหากะทิง (ชื่อกะทิงในที่นี้ไม่ใช่วัวกระทิงนะคะ แต่เป็นชื่อของดอกไม้ คือดอกกากะทิง)ใน ep แรกเราจะได้พบกับ
หญิงสาวแห่งปฐมฤกษ์ สาวธาตุดิน
เรื่องนี้มอสเล่นร้ายได้ร้ายจนน่ารังเกียจอ่ะ เป็นหมอดูมีปม การศึกษาดี หน้าที่การงานดีเป็นเจ้าหน้าที่ สนง.เขต แต่สะเพร่า ไม่รอบคอบ คือคนแบบนี้จะทำงานใหญ่ได้ยังไงอ่ะ เป็นโจรก็ได้แค่โจรห้าร้อย แต่ดันมีวิชาติดตัว นอกจากความเลวที่มีมากแล้วความละโมบยิ่งมีมากกว่า อยากมีชื่อเสียง ร่ำรวย เป็นหมอดูระดับประเทศ จนยอมทำทุกอย่างเพื่อหนทางแห่งความสำเร็จโดยไม่สนว่าวิธีแห่งการได้มาซึ่งสิ่งที่ตนเองอยากได้ จะผิดจะถูกแค่ไหน เอาแค่สมใจตัวเองเป็นพอ เรื่องนี้มีการใช้อาคมความขลังในวิชาโหราศาสตร์ของ 2 หมอดู เขาไม่ได้มาแข่งกันซึ่ง ๆ หน้า แต่เป็นการพยายามช่วยเหลือและยับยั้งการทำพิธีของฝั่งศาสตร์ดำอย่างอุทธิ จากฝั่งศาสตร์ขาวอย่างมหากะทิงมากกว่า มีการสืบสวนทางนิติเวชศาสตร์โดย พันตำรวจตรีหญิง แพทย์หญิงชิงดวง (เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร)เป็นคนนำทีม
เรื่องนี้ มอส สลัดคราบผู้กองเจ้าเสน่ห์ไปเสียสิ้น ไม่เหลือเลยความเป็นพระเอกที่เคยมีมา ส่วนทางด้าน ฌอห์ณ ก็พัฒนาฝีมือขึ้นมาจากเรื่องก่อน ๆ มาก เห็นชัดกันในเรื่องนี้เลยแหละ แล้วได้ข่าวว่าทั้งสองคนถึงกับไปหัดเรียนโหราศาสตร์จริง ๆ เพื่อให้คุ้นเคยกับคำพูด กิริยาท่าทาง แล้วก็ทำออกมาได้ดีทั้งคู่เลยด้วย ส่วนท่านรวี (เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล) ก็เป็นนักการเมืองที่ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ เป็นที่รักของประชาชน ภายนอกสุขุม อ่อนโยน แต่เบื้องลึกกลับมีจิตใจที่โหดร้ายอย่างไม่คาดคิด
เมื่อดวงเมืองโคจรเป็นใจ “อุทธิ ” ผู้มาพร้อมพลังทำนายสายดำและพิธีกรรมฤกษ์สังหาร ที่ต้องฆาตกรรมผู้หญิง 4 ธาตุ
เมื่อดวงเมืองโคจรสู่ฤกษ์วิปริต “มหากะทิง” ผู้มาพร้อมพลังทำนายสายขาว ขอปกป้องคุ้มครองประเทศและคนที่รักให้พ้นจากเงื้อมมือฆาตกรฤกษ์สังหาร
ตัวขับเคลื่อนของเรื่องนี้คือพิธิกรรมฤกษ์สังหาร การบัตรพลีบูชาธาตุทั้ง 4 ก็จริงอยู่ แต่เมนหลักที่แท้จริงคือการช่วงชิงอำนาจ ความอยากเป็นใหญ่ในบ้านเมือง ต้องการขึ้นไปในจุดที่คิดว่าสูงที่สุดเพื่อที่จะบงการให้อะไรต่อมิอะไรเป็นอย่างใจปรารถนา โดยมีพิธีกรรมความเชื่อเป็นเครื่องมือนำทาง (เล่นของอ่ะแหละพูดง่าย ๆ) แต่เป็นของที่แรงมากถึงขนาดเอาชีวิตคนเป็นเครื่องสังเวย ตอนแรกที่ดูก็ยังคิดอยู่เลยว่า กว่าจะรู้ว่าใครคือจอมบงการก็น่าจะต้องรอเฉลยเอาท้ายเรื่อง แต่เรื่องนี้กลับเล่นบทด้วยการเปิดเผยตัวการใหญ่เอาตั้งแต่ยังไม่ถึงกลางเรื่องดีด้วยซ้ำ….แต่…ยังแอบคิดอยู่เลยนะคะ ว่าละครจะหลอกเรารึเปล่า น่าจะมีจอมบงการซ้อนจอมบงการอยู่อีกไหม ต้องรอดูไปอีก แต่ที่แน่ ๆ
หญิงสาวแห่งธาตุน้ำ สังเวยฤกษ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ฉากนี้ใครลืมตาดูก็ลืมไป แต่ดิฉันมีปิดตามองลอดรูนิ้วแว้บนึงแหละ อีตอนที่กำลังจะเอาถ่วงน้ำรู้สึกเสียวสันหลังอยู่พิลึก ถามว่าพอจะเดาได้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ก็เดาได้บ้าง แต่มันไม่ใช่ละครที่จะเดาได้เป๊ะ ๆ จับทางได้หมด บทเขียนมาให้มีความซับซ้อนพอสมควร แต่เป็นความซับซ้อนที่เป็นไปได้และคิดว่าน่าจะใช่ละน่า จนสุดท้ายแล้วมันก็ใช่จริง ๆ นั่นไง เห็นไหม ว่าแล้วเชียว!!! (ความรู้สึกว่าชนะมันก็สนุกตรงนี้แหละ) คนดูไม่โดนหลอกเท่าไหร่หรอก แต่คนที่โดนหลอกอ่ะคือคนที่เล่นอยู่ในละคร โดยเฉพาะสารวัตรศรีล (ตู่ ภพธร สุนทรญาณกิจ )ชาวบ้านเขาฉลาดกันหมด อีตาตำรวจนี่ดื้อด้าน ซื่อบื้อ หัวรั้น แล้วก็ขาดความเฉลียวอยู่คนเดียว คือหมั่นไส้มากอุตส่าห์มีคนมาบอกเบาะแสดันไม่ใส่ใจไม่เอะใจสงสัยอะไรซะงั้น แล้วเดี๋ยวคอยดูนะต้องมาคิดอยากจะเขกกะโหลกตัวเองตอนหลัง
ผ่านไป 2 คนแล้วนะ เหลืออีก 2 ที่ต้องรอลุ้นกันอีกว่าใครจะเป็นรายต่อไป ธาตุดินถูกฝังดิน ธาตุน้ำจับถ่วงน้ำ เหยื่อธาตุลมจะมีชะตากรรมอย่างไร? มหากะทิงจะหยุดพิธีกรรมชั่วร้ายนี้ได้ด้วยวิธีไหน จะช่วยใครได้บ้าง แล้วธาตุสุดท้ายล่ะ
อย่าบอกนะว่าจะต้องตายในกองไฟ!!!
“ฤกษ์สังหาร”
- บทประพันธ์ : วรรณวรรธน์
- บทโทรทัศน์ : พิมพ์มาดา พัฒนอลงกรณ์, สมประสงค์ เจียมบุญสม, จุติมา แย้มศิริ
- กำกับการแสดง : สันต์ ศรีแก้วหล่อ
- ควบคุมการผลิต : นิพนธ์ ผิวเณร
ออกอากาศทุกวันจันทร์–อังคาร เวลา 21.20น. ทางช่องone31
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส