Our score
7.5The End of The Fxxxing World S.2
จุดเด่น
- ตัวละครบอนนีที่เพิ่มมาเป็นสีสันให้น่าติดตาม
จุดสังเกต
- ตัวละครและเรื่องราวไม่ได้พัฒนาจากซีซันแรกมากนัก
-
ความสมบูรณ์ของบท
7.5
-
คุณภาพงานสร้าง
7.5
-
คุณภาพนักแสดง
7.5
-
ความสนุก ความแปลกใหม่
7.5
-
ความคุ้มค่าเวลาในการติดตามชม
7.5
หลังมีเหตุให้ต้องจากกัน เอลิสซา (เจสสิกา บาร์เดน) ก็ใช้ชีวิตไร้จุดหมายไปจนกระทั่งถึงวันแต่งงานที่ เจมส์ (อเล็กซ์ ลอว์เธอร์) โผล่เข้ามาในชีวิตจนเธอหนีงานแต่งแล้วออกเดินทางอีกครั้ง และระหว่างทางนั้นเองที่ทั้งคู่ได้รับตัว บอนนี (นาโอมี แอคคี) เพื่อนร่วมทางคนใหม่ที่หวังฆ่าพวกเขาเพื่อล้างแค้นให้ชายคนรัก
หลัง The End of The Fxxxing World ซีซันแรกเกิดฮิตระเบิดระเบ้อด้วยเนื้อหาโดนใจวัยรุ่นยุคนี้ ทำให้ ชาร์ลี โคเวล ผู้สร้างสรรค์ได้กลับมาสานต่อเรื่องราวของ เอลิสซา กับ เจมส์ อีกครั้งหลังทำร้ายจิตใจคนดูอย่างยิ่งในตอนจบซีซันแรก โดยอาศัยตัวละครใหม่อย่างบอนนี สาวผิวสีที่เชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับศาสตราจารย์ไคล์ฟ (โจนาธาน เอริส) คือความรัก และหลังจากรู้ตัวว่าฆาตกรคือ เอลิสซา กับ เจมส์ เธอจึงวางแผนปลิดชีพพวกเขาเพื่อชดเชยหัวใจที่แตกสลายของเธอ
ถ้าว่ากันโดยเนื้อหาแล้วตัวซีรีส์ในซีซันนี้ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรที่คืบหน้ามากมายนัก โดยเราจะได้เห็นชะตากรรมของทั้ง เอลิสซา และ เจมส์ ที่ถูกผู้ใหญ่จับแยกกัน โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่แม่ของเธอถึงกับทำทุกทางให้ เจมส์ อยู่ห่างจากลูกสาวของตน ในขณะที่เจมส์เองก็เริ่มลิ้มรสความสูญเสียเมื่อพ่อมาจากไปจากอาการหัวใจวาย ทิ้งไว้เพียงเถ้ากระดูกที่เขาต้องนำไปโปรยยังสวนสาธารณะที่พ่อกับแม่พบรักกันครั้งแรก ซึ่งทำให้ซีซันนี้โฟกัสจะอยู่ที่ตัวละคร เอลิสซา เป็นหลักเพราะเราจะได้เห็นชีวิตที่ไร้อิสระของเธอในตอนแรก ๆ ของซีรีส์ ที่แม่หอบเธอไปอาศัยญาติอยู่และเธอตกลงแต่งงานกับหนุ่มล่ำที่เธอเจอไม่นานเพียงเพื่อถมช่องว่างที่เจมส์เคยอยู่ในหัวใจ ซึ่งบอกตามตรงว่าในฐานะคนดูผู้ชาย เราติดจะคิดลบกับ เอลิสซา ไม่น้อยเพราะลำพังแค่เธอไปลากคนอื่นมาแต่งงานแล้วหนีมาแบบเจ้าสาวกลัวฝนนี่ก็ผิดแล้ว แต่กับเจมส์เธอยังเฉยชาและทำร้ายจิตใจสารพัดทั้งที่เขาเพิ่งบอบช้ำจากการสูญเสียพ่อมา จนหลายคนแทบจะเกลียดเธอไปเลย ยังดีที่มีปมเรื่องจดหมายบอกเลิกที่ทำให้การกระทำของเธอยังพอน่าเห็นใจอยู่บ้าง และที่สำคัญการเพิ่มตัวละครใหม่ที่มีปมน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
บอนนี ตัวละครใหม่ที่ต้องบอกว่าหากขาดเธอก็ไม่มีซีซัน 2 และปมที่ ชาร์ลี โคเวล วางไว้ให้เธอก็หนักแน่นและชวนกระอักกระอ่วนไม่น้อย เพราะการตกหลุมรักผู้ใหญ่อย่างศาสตราจารย์ไคล์ฟ ที่ใช้คำหวานมาปิดหูปิดตาเธอจากความจริงจนเธอติดคุกเพราะก่อคดีฆาตกรรมเพื่อเขา ก็ทำให้เราอดเห็นใจเธอไม่ได้ แม้ว่าโดยตำแหน่งในบทซีรีส์แล้ว เธอก็ไม่ต่างจากผู้ร้ายที่จะมาฆ่าตัวเอกอย่าง เอลิสซา และ เจมส์ แต่ด้วยบุคลิกที่ห่างจากฆาตกรจิตโหดและปมในใจที่ชวนให้เราใจสลายไปกับเธอไม่น้อยก็ทำให้เราเห็นใจเธอได้แม้จะแอบลุ้นให้เธอฆ่าตัวละครนำไม่สำเร็จด้วยก็ตาม
ด้านความรุนแรงและเหตุการณ์โอละพ่อที่นำมาซึ่งฉากฆ่าโหด ๆ ในซีซันนี้ยังมีมาเช่นเคย โดยซีรีส์ได้โยนเรื่องราวส่วนนี้ไปให้ บอนนี ที่ดันก่อคดีโหดไม่รู้ตัว ซึ่งด้วยการแสดงระดับสุดยอดของ นาโอมิ แอคคี ก็ถือว่าทำให้เราไม่อาจไว้ใจตัวละครได้ตลอดเวลา แต่ก็ยังไม่ลืมเติมความลึกและน่าเห็นใจเมื่อได้เห็นว่า ความรักทำให้เธอตาบอด ได้อย่างน่าสงสารที่สุดจริง ๆ และคงไม่เกินเลยหากจะบอกว่าซีซันนี้ แอคคี แทบจะขโมยเรื่องราวทั้งซีซันมาเป็นของเธอ เพราะซีนสนุก ๆ ส่วนใหญ่ก็มาจากเธอนี่แหละ ส่วน เจสสิกา บาร์เดน ก็ทำให้ เอลิสซา เปี่ยมเสน่ห์ด้วยบุคลิกหน้าตายและรูปร่างผอมเพรียวแบบนางแบบวัยรุ่น แม้ว่าการแสดงของเธอจะไม่ได้มีพัฒนาการต่างจากเดิมเท่าใดนักก็ตาม ส่วน อเล็กซ์ ลอว์เธอร์ ได้เวลาบนจอน้อยไปหน่อยและปมของตัวละครก็เบาบางจนแทบไม่มีอะไรให้ลุ้นตามเท่าไหร่ ต่างจากซีซันแรกที่เขาแทบจะเป็นหัวใจของเรื่องเพราะเล่าผ่านมุมมองวิปริตแบบแอนตีฮีโรวัยกระเตาะนั่นเอง
ใครสนใจชม The End of The Fxxxing World ซีซัน 2 ชมได้ทาง Netflix
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส