Our score
7.6[รีวิวละคร]เนื้อใน : เมื่อนิยายกลายเป็นละคร ก็มีรสชาติที่จี๊ดจ๊าดไปอีกแบบ
จุดเด่น
- เป็นดราม่าร้าย ๆ แรง ๆ งานถนัดของ CHANGE2561
จุดสังเกต
- มีฉากความรุนแรงในครอบครัว ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ
-
ความสมบูรณ์ของบท
8.0
-
คุณภาพนักแสดง
8.0
-
คุณภาพการผลิต
7.0
-
คุณภาพการเล่าเรื่อง
7.0
-
ความสนุกน่าติดตาม
8.0
เนื้อใน เป็นบทประพันธ์ของ กฤษณา อโศกสิน “ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์” พ.ศ. 2531 ที่เคยได้รับรางวัลนวนิยายชมเชยจากการประกวดหนังสือดีเด่น โดยคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ 2539 พอ GMM25 หยิบมาทำเป็นละครในครั้งนี้ ดูละครแล้วก็ต้องร้องโอ้โห อาเข็มเพ็ชร ลื้อออกมาจากหนังสือแล้วลื้อเป็นแบบนี้หรอกเหรอเนี่ย ถ้าตัดเรื่องเสียงของ คริส หอวัง ที่ทำให้ความเป็นเข็มเพชรดูเหนื่อย ๆ ไปสักหน่อยก็ถือว่า คริส เกือบจะเป็นเข็มเพชรในนิยายได้อย่างสมบูรณ์กันเลยละ กฤษณา อโศกสิน บรรยายลักษณะของเข็มเพชรไว้ว่า เป็นผู้หญิงนัยตาสีน้ำตาลโตกว้าง หน้าแป้น ขาวเกลี้ยง โหนกแก้มสูง มีลักษณะของความเย็นยะเยือกคล้ายอากาศหน้าหนาว
ความสัมพันธ์ที่ดำเนินไปในนิยายเรื่องนี้คือ
ความสัมพันธ์ที่พึ่งพาอาศัยในรูปของการทำร้ายกันของคนสองคน (เอ๊ะหรือจะมากกว่านั้น) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการเขียนนิยายเรื่องนี้ของ กฤษณา อโศกสิน แหม….น่าหดหู่ไม่หยอกแฮะชีวิตแบบนี้ ซึ่งมันเป็นแบบนั้นอ่ะแหละนะ เป็นดราม่าหนักอึ้ง ที่เต็มไปด้วยความอึดอัด ระทมทุกข์ของผู้หญิงวัยสามสิบห้าที่ชื่อว่า ปลี ผู้หญิงว่าง่าย ใจเบา ขลาดกลัวไปซะทุกเรื่อง มีชีวิตที่เต็มไปด้วยมิตรร้ายรอบตัว เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ของเจ้านายอย่าง เข็มเพชร ผู้หญิงวัยสี่สิบที่เก็บกด ทะเยอะทะยาน เก่งรอบด้านแต่ก็เจ้าคิดเจ้าแค้น เป็นคนที่ใช้ทั้งพระเดชและพระคุณมาสนองความต้องการของตัวเองได้ถูกจังหวะ กับ ราเชน สามีเจ้าอารมณ์ ปากร้าย ซาดิสม์ กดขี่ภรรยาตัวเองได้สารพัดรูปแบบ ในนิยายมันเป็นแบบนั้น อ่านไปก็อึดอัดไป สงสารไปและด่าไปในใจว่า “จะทนกับคนพวกนี้ไปเพื่ออะไรห๊ะ ปลี”
ถามว่า นิยายเรื่องนี้ ของ กฤษณา อโศกสิน ต้องการสื่ออะไรกับผู้อ่าน ก็สามารถตอบได้ว่า เป็นนิยายที่ต่อต้านปัญหาการกระทำรุนแรงในครอบครัว อย่างที่ราเชนทำกับปลี ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีภรรยากันนะคะ ไอ้เรื่องหลับนอนตามธรรมชาติของมนุษย์มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่การหลับนอนโดยอีกฝ่ายไม่เต็มใจและไม่ได้มีความสุขไปด้วยกับรสนิยมที่รุนแรงของอีกฝ่าย มันไม่ใช่เรื่องปกติ มิหนำซ้ำสามีที่ควรเป็นคนข้างกายที่ปลอดภัยและอบอุ่นที่สุดของภรรยา กลับกลายเป็นคนที่เธอต้องหวาดผวาไปซะฉิบ แถมเจ้านายที่เธอจงรักภักดีและไว้ใจที่สุด รักเทิดทูนอย่างพี่สาว ยอมจำนนอย่างหมารับใช้กลับเป็นคนที่ทำร้ายเธอได้อย่างแยบยล ซึ่ง กฤษณา อโศกสิน ก็พยายามตีแผ่ส่วนลึกของมนุษย์รอบ ๆ ตัวของปลีออกมาให้เห็นว่า “เปลือกนอกอันสวยงามของมนุษย์บางประเภท อาจซ่อนซากเน่าของปีศาจร้ายไว้ภายใน”
เมื่อนิยายเมื่อ 24 ปีที่แล้ว กลายเป็นละครในปีนี้
จากนิยายชิงรางวัลก็มากลายเป็นละครที่มีกลิ่นของ คลับไฟรเดย์อยู่ชัดเจนเลยทีเดียว รู้สึกแบบนั้นเลยนะ ด้วยความดราม่าของเนื้อเรื่องและการเขียนบทที่สาดพริกสาดเกลือให้เข้มข้นและเอาอกเอาใจคนดูมากยิ่งขึ้น จากนิยายที่อ่านแล้วทำให้เกิดอารมณ์ดีดดิ่ง หดหู่ไปกับชีวิตที่ซวยบัดซบของปลีจนทำเอาผู้อ่านเอาใจช่วยให้เธอได้พบกับแสงสว่างปลายอุโมงเสียทีกลายมาเป็น ละครชีวิตของเข็มเพชรที่ทำลายชีวิตตัวเองและชาวบ้านที่ก็ช่างสรรหาสารพัดวิธีมาจัดการให้ชีวิตของตัวเองและชาวบ้านไม่เป็นสุข เรียกว่าชูความเด่นกันไปคนละแบบแต่ก็ไม่ได้ทิ้งรายละเอียดในชีวิตของใครเลย แน่นอนว่าบรรยากาศที่ได้รับของสองการนำเสนอต้องแต่งต่างกัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้บทประพันธ์เสียหายไปจากแก่นที่ผู้ประพันธ์ต้องการนำเสนอไปซะทีเดียว แก่นของเรื่องยังคงอยู่อย่างเหนียวแน่นชนิดที่ว่าเป็นรากแก้วที่แข็งแรงคงทนน่าดู
ในละครจะนำเสนอสิ่งที่ เข็มเพชร (คริส หอวัง) กระทำกับคนรอบข้างของเธอ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอิทธิพลทางความคิด เป็นจอมบงการ เป็นผู้หญิงที่อัดแน่นไปด้วยความแค้น คือแค้นยิบแค้นย่อยมาตั้งแต่ในรั้วบ้านกันเลยทีเดียว เพราะเป็นลูกผู้หญิงคนกลางในครอบครัวชาวจีน ที่พ่อแม่รักแต่ลูกชาย เข็มเพชรจึงพยายามถีบตัวเองทุกวิถีทางเพื่อจะยืนอยู่ในจุดที่เธอคิดว่าเหนือคนอื่น จนกระทั่งได้เป็นเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่ครบวงจร ละครนำเอาจุดนี้ของเข็มเพชรมาขยี้และขยายให้เห็นภาพชัดเป็นเหตุเป็นผลให้เห็นปมความเก็บกดในชีวิตตั้งแต่เด็กของเข็มเพชรมากขึ้นไปอีก
เธอมีความแค้นฝังหุ่นกับ ราเชน (อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม) รุ่นพี่สมัยวัยรุ่นที่ชิงดีชิงเด่นแล้วก็หักหลังกันได้แสบสันต์มาตั้งแต่สมัยทำงานเป็นเซล เข็มเพชรจึงใช้ ปลี (รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) ภรรยาของราเชนที่เป็นลูกน้องคนสนิทของตัวเอง เป็นเครื่องมือแก้แค้นราเชน จากที่ปลีก็เป็นเครื่องมือรองรับอารมณ์ของสามีตัวเองที่ทั้งเจ้าอารมณ์ ปากร้าย ชอบใช้ความรุนแรงอยู่แล้วก็ต้องมากลายเป็นเครื่องมือของเข็มเพชรซ้ำเข้าไป ทั้งสองคนสนองความต้องการของตัวเอง สร้างความเจ็บปวดทั้งกายและใจให้กับปลี ถ้าไม่มี โปรย (ด.ญ.คีตภัทร ป้องเรือ) ลูกสาววัย 5 ขวบ และความตั้งใจยึดมั่นในสิ่งดีงามเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อว่าเธอคงอดทนกับสภาพที่โหดร้ายมาโดยตลอดขนาดนี้ไม่ไหว
เข็มเพชรมีสามีชื่อ สกุล (กอล์ฟ-อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา) ที่ช่างแตกต่างกับเข็มเพชรราวฟ้ากับเหว สกุลเป็นคนใจเย็น ใจดี มองโลกอย่างเป็นธรรม หลาย ๆ อย่างที่เข็มเพชรทำเป็นสิ่งที่เขาไม่เห็นด้วย แต่สกุลไม่สามารถห้ามอะไรเข็มเพชรได้ เพราะสกุลไม่อยากให้ครอบครัวของเขาต้องมีปัญหา และห่วงความรู้สึกของ เพชรสกุล (เคท-ด.ญ.อิรยา พุ่มประจำ) ลูกสาวคนเดียววัย 8 ขวบ ทำให้สกุลยอมเป็นฝ่ายสงบปากในทุกเรื่อง
วีณา (ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์) น้องสาวผู้เอ็กซ์อึ๋มของปลี ที่รู้เท่าทันคนและมองออกว่าเนื้อในของแต่ละคนเป็นยังไง มีปัญหากับสามีจนเลิกกัน วีณามาหาปลีเพื่อขออยู่ด้วยชั่วคราว จนไปทำงานกับเข็มเพชร วีณาไม่ใช่คนหัวอ่อน ทำให้วีณามองเข็มเพชรออกว่าเนื้อในของเข็มเพชรเป็นยังไง แล้วราเชนก็ทำเรื่องบัดสีโดยการพา มโน (เอ – พศิน เรืองวุฒิ) และ เอมอร (เอ – อัญชลี หัสดีวิจิตร) สองผัวเมียที่มีรสนิยมสลับคู่มาที่บ้านเพื่อหวังผลทางธุรกิจ ราเชนต้องการให้ปลีนอนกับ มโน ปลีไม่ยอมราเชนก็จะใช้วีณานี่แหละเป็นตัวแทน ปลีรับไม่ได้ก็โดนราเชนทำร้ายอย่างที่เคยจนเลือดตกยางออกจน โปรย ลูกสาวของปลีทนไม่ไหวโทรไปของความช่วยเหลือให้เข็มเพชรมาช่วยแม่ จนทั้งสามคน ปลี โปรยและวีณา ย้ายมาอยู่บ้านเข็มเพชรในที่สุด
เรื่องราวดำเนินมาถึง Ep10 แล้ว คาดว่าเกินครึ่งเรื่องมานิดหน่อยแล้วละ มีทั้งเสียงชื่นชมว่าเป็นละครรสแซบและเสียงบ่นอื้ออึงที่ร้องว่า ว้า…ละครแบบนี้อีกแล้ว มีตบตี มีขืนใจ แก้แค้นและกระทำย่ำยีกันไปมาอะไรกันเนี่ยยย ซึ่งก็ต้องบอกกันตามตรงว่ามันไม่ได้เหมาะกับผู้ชมทุกเพศทุกวัยเลยจริง ๆ ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำนะจ๊ะ เพราะมันเป็นละครที่อัดแน่นไปด้วยความแสบแบบนอนสต็อป จนแอบคิดไปว่ายัยเข็มเพชรนี่นางนอนหลับสนิทสักคืนบ้างไหมเนี่ย แล้วปลีเธอจะทนแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน
พูดถึงเรื่องตัวบทถือว่าเป็นบทที่ไม่น่าเบื่อ เนื้อหากระชับ ดำเนินเรื่องไม่อืดอาด รถเมล์ในบทของปลี ดึงความเป็นปลีออกมาได้ดีจนอยากจะชื่นชมกับการแสดงที่พัฒนาไปจากเรื่องก่อน ๆ ของรถเมล์ได้ดีมาก ๆ ถึงจะไม่น่าสงสารเท่าปลีในจินตนาการของ กฤษณา อโศกสิน ที่อ่านแล้วก็ร้องว่า “ปัดโธ่เอ้ยปลีทำไมเธอช่างอ่อนต่อโลกและหงอติ๋มขนาดนี้” แต่ก็ยังเป็นปลีที่ทนทายาดอยู่เช่นเดิม ส่วนคริส หอวัง ในบทเข็มเพชร ต้องขอบอกตามตรงเลยว่า มีความรู้สึกอึดอัดกับการแสดงอารมณ์ของตัวแสดงตัวนี้พอสมควร พลังที่ส่งออกมายังไม่ร้ายลึกอย่างเหนือชั้นเท่าที่เข็มเพชรในหนังสือได้ทำเอาไว้ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะบทของเข็มเพชรที่ใส่สีจนทำให้ หลาย ๆ อย่างที่เข็มเพชรทำดูไร้เหตุผลและมีกลิ่นตุ ๆ แทนที่จะเป็นตัวเด่นอย่างที่ละครต้องการให้เป็น กลับกลายเป็นว่า พลังต่าง ๆ คนที่เอาอยู่และส่งอารมณ์ได้ดีในละครเรื่องนี้กลับเป็นรถเมล์ซะมากกว่า และอีกคนที่ต้องยกนิ้วให้ก็ อาร์ต พศุตม์ เพราะเป็นราเชนที่น่าโดนตีกบาลมากที่สุด คนอะไรจะเลวได้ขนาดนี้
สปอยล์ฉากจบจากนิยายกันนิดนึง
ในบทสุดท้ายของนิยายได้ทิ้งความหมายให้ผู้อ่านเข้าใจเองว่าสุดท้ายแล้วปลีก็หนีออกมาจากวังวนของคนเหล่านั้นได้ซะที ได้ใช้ชีวิตปลอดภัยกันสองคนแม่ลูก ในหน้าสุดท้ายของนิยายเป็นฉากที่สองแม่ลูกนั่งรถไปด้วยกัน เป็นความรู้สึกที่ปลอดโปร่งโล่งสบาย ปลีสัญญากับลูกว่าสักวันจะพาลูกไปเที่ยวภาคเหนือแล้วก็คุยกันตามประสาแม่ลูก ซึ่งบทสรุปของละครจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ต้องติดตามกันต่อไป น่าจะเหลือไม่กี่ ep แล้วละ ซึ่งก็จะค่อย ๆ กะเทาะเปลือกนอกเพื่อเผยธาตุแท้และสันดานดิบของตัวละครแต่ละตัวออกมาให้เห็น จนพาไปถึงบทสรุปที่ทำให้ตัวละครได้เรียนรู้รสชาติชีวิต ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
เนื้อใน ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.10 น. ทางช่อง GMM25
รับชมย้อนหลังได้ทาง VIU
- บทประพันธ์ : กฤษณา อโศกสิน
- บทโทรทัศน์ : มาวิน อักษรา
- ควบคุมบทโทรทัศน์ : สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา
- กำกับการแสดง : กู่ – เอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุข
- อำนวยการผลิต : สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา และ วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย
- อำนวยการสร้าง : สถาพร พานิชรักษาพงศ์
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส