ไม่แปลกใจกับเรตติ้งที่พุ่งแล้วพุ่งอีกของร้อยป่าจนครองอันดับ 1 ของช่องและฆ่าคู่แข่งตายสนิทไปแล้ว ณ เวลานี้ เป็นการเปิดตัวละครเรื่องแรกของค่าย ทรัพย์ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ของ อาต้อย เศรษฐา ศิระฉายา ได้สวยงามสมการรอคอย ถือเป็นละครน้ำดีอีกเรื่องหนึ่ง ที่หยิบนิยายอมตะมาเป็นละครได้ไม่สูญเสียอรรถรสของบทประพันธ์ แต่ในทางกลับกันกลับเป็นผลดีที่ทำให้ร้อยป่าสมบูรณ์ขึ้นซะอีกด้วย
ร้อยป่า เป็นผลงานการประพันธ์ของ 2 นักเขียน นักเรียนคณะวนศาสตร์ แม่โจ้ รุ่น 11 อรชร-พันธุ์ บางกอก เป็นนวนิยายสะท้อนชีวิตของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าชื่อ เสือ กลิ่นสัก เล่าเรื่องในบริเวณพื้นที่สามแยกร้องเข็ม อ.ร้องกวาง จ. แพร่ ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จนมาสิ้นสุดในปี 2500 เนื้อหาเน้นหนักไปทางด้านของการพิทักษ์ป่า การทำงานและการเสียสละของเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลผืนป่า ที่ต้องต่อสู่กับผู้มีอิทธิพลเพื่อรักษาผืนป่าในประเทศ และความรักของเสือ ที่เรียกได้ว่าเป็น “ชีวิตเพื่อผืนป่า แต่หัวใจมอบให้เธอ” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฮิตมากในสมัยนั้น แต่ไม่มีการพิมพ์เล่มจำหน่ายนะคะ เพียงแต่ลงในนิตยสารบางกอกและพิมพ์เป็นพ็อกเก็ตบุ๊กเล่มบาง ๆ แถมมากับหนังสือ พิมพ์ตัวหนังสือกำกับไว้ด้วยอีกว่า ไม่ขายแถมฟรี ไม่แน่ใจว่ามีกี่เล่มค่ะ กว่าเขาจะตัดสินใจพิมพ์เป็นเล่มเพื่อจำหน่าย ก็ปาเข้าไปปี 2541 แต่ก็พิมพ์ออกมาเฉพาะภาคแรกก่อน และตามมาด้วยภาคสมบูรณ์ ที่กว่าจะคลอดภาคนี้ออกมาก็ห่างจากภาคแรกถึง 5 ปี
ใครอยากจะหามาอ่านก็ ตอนนี้เขามีขายแบบชุด แบ่งเป็น 4 ภาคเลยละจ้ะ 1-3 และฉบับสมบูรณ์ รวมเซ็ตแล้วก็ 24 เล่ม และแน่นอนในเมื่อเป็นนิยายดังก็จะต้องเคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์และละครแล้วแน่ ๆ ซึ่งในครั้งแรก เป็นภาพยนตร์ เมื่อปี 2507 นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์ เป็นภาพยนตร์ฟิล์ม 16 มม. จ้ะ สร้างโดยพิษณุภาพยนตร์ อำนวยการสร้างและถ่ายภาพ โดย วิจารณ์ ภักดีวิจิตร (พี่ชายของฉลอง ภักดีวิจิตร) ครั้งนี้ทำให้ ทักษิณ แจ่มผล ดาวร้ายชื่อดังในสมัยนั้นได้รับรางวัลตุ๊กตาเงิน บทเสริมเด่นยอดชาย ในงานรางวัลตุ๊กตาทอง ปี 2507
ครั้งที่ 2 เป็นปี 2529 ฉลอง ภักดีวิจิตร ก็นำร้อยป่ามารีเมกอีกครั้งในนามของ บางกอกการภาพยนตร์ นำแสดงโดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และ ใหม่ เจริญปุระ ส่วนในภาคละครเป็นของ บริษัท กันตนา ที่นำร้อยป่ามาออกอากาศทางช่อง 5 เมื่อปี 2531 ซึ่งในยุคสมัยนั้น ภาพยนตร์หรือละครแนวบู๊ก็ยังเป็นที่นิยมแพร่หลาย ถ้าใครจำกันได้ก็จะมีหลายต่อหลายเรื่องเลยละค่ะที่เป็นภาพยนตร์และละครแนวนั้น
ในส่วนของการรีเมกครั้งนี้ ถ้าใครเป็นแฟนนิยายก็พอจะเดาได้ว่าเป็นการมัดรวมเอาภาคแรกจนถึงภาคสมบูรณ์มาเล่าให้จบในคราวเดียว แต่ปรับบทให้มีความร่วมสมัยจนเรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวของยุคนี้ได้อย่างไม่ขัดเขิน เพราะเนื้อหาต่าง ๆ และความเป็นจริงในสังคมกลับเป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะผ่านร้อนผ่านหนาวกันไปกี่ฤดู การตัดไม้ทำลายป่าก็ยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลาย และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าก็ยังคงต้องอดหลับอดนอน ปกป้องผืนป่าอย่างเหน็ดเหนื่อย เช่นเดิม
เปิดตัวมาด้วยการไล่ล่าพวกตัดไม้ทำลายป่าของ เสือ กลิ่นสัก (บิ๊กเอ็ม-กฤตฤทธิ์ บุตรพรม) ป่าไม้มือดี ที่จับกุมพ่อค้าไม้เถื่อนรายใหญ่ได้หลายราย จนได้รับคำสั่งย้ายให้ไปปราบพวกบุกรุกป่าที่จังหวัดแพร่ จนได้มาจับกุม ทรงธรรม (ปรเมศร์ น้อยอ่ำ) ซึ่งเป็นพ่อของ ธนิษฐา หรือ แป๋ว (ปูเป้-เกศรินทร์ น้อยผึ้ง) หญิงสาวหน้าตาน่ารักที่เสือหลงรักมาตั้งแต่เด็ก มันก็จะมีเรื่องราวของการตัดสินใจ ระหว่างความรักกับความถูกต้องอยู่ในเส้นเรื่อง ที่แป๋วจะต้องตัดใจจากเสือ เพื่อที่จะไม่ต้องทำให้เสือเดือดร้อน เพราะยังไงเธอก็จะต้องช่วยพ่ออยู่ดี เพราะพ่อของเธอติดการพนัน เป็นหนี้หลายสิบล้านจนต้องยอมร่วมมือกับ พ่อเลี้ยงอิทธิ (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์ ) ผู้มีอิทธิพลเมืองแพร่ ที่เป็นนายทุนสนับสนุนให้ชาวบ้านบุกรุกป่า
ในเวอร์ชันนี้ เส้นเรื่องเล่นระหว่างความรักกับความถูกต้อง ในฐานะที่ละครเป็นละครแนวบู๊ผู้พิทักษ์ ที่พระเอกพยายามที่จะพิทักษ์ทั้งสองอย่างไว้ให้ได้ในคราวเดียวกัน แต่มันก็ยากมาก ๆ เพราะไหนจะอิทธิพลมืดของพ่อเลี้ยงและมือที่มองไม่เห็น ไหนจะเรื่องของความรักที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันและมือที่สาม มือที่สี่ มาคอยรังควานให้แตกแยกอย่าง การตายของ หญิง (อรอนงค์ ปัญญาวงศ์) แม่ของแป๋วที่ถูกยิงตายจากการซุ่มยิงรถขนไม้เถื่อนของเสือ หรือ แสงทอง (เจสสิก้า สมปอง) ลูกสาวพ่อเลี้ยงอิทธิที่มาคอยวอแว ตามเทียวไล้เทียวขื่อ จะงาบเสือตัวนี้ไปกินซะให้ได้ ซึ่งแสงทองเวอร์ชันนี้ต่างไปจากบทประพันธ์อยู่มาก แสงทองในบทประพันธ์นี่ไม่ร้ายนะคะ ออกจะเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่งในชีวิตพระเอกเลยแหละ ดีขนาดที่ทำให้เสือแอบหวั่นไหว แต่ในเวอร์ชัน 2020 ก็ปรับเปลี่ยนให้เป็นสีสันแบบละครไทยที่จะมีนางอิจฉาที่กวนประสาทและร้ายกาจจนน่าจะฟาดสักทีสองที
การดำเนินเรื่องที่กระชับ ฉับไว เล่าเรื่องเร็ว ทำให้ละครได้อรรถรสดูสนุก ดูเพลิน มีการ flash back ที่สมเหตุสมผล พอดิบพอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป เข้ากับเนื้อเรื่องที่กล่าวถึงแม้กระทั่งมุกตลกที่สอดแทรกเข้ามา ก็กรุบกริบ เข้ากับเหตุการณ์ ไม่เจ๋อเจิ่นเป็นมุกกาก ๆ ที่ยิงทิ้งยิงขว้างอย่างเลอะเทอะ เรียกได้ว่าบทดีอะไรต่อมิอะไรมันก็จะพอดีไปหมด รวมถึงการแสดงของตัวนำในเรื่องอย่าง บิ๊กเอ็ม ที่รับบท เสือ กลิ่นสัก เรียกว่าครั้งนี้เป็นการเคสติ้งตัวแสดงได้น่าดู เพราะยังคงอยู่ในโฟกัสของชายไทยหน้าคมเข้ม จริง ๆ แล้วผู้ประพันธ์บรรยายไว้ว่า เสือ เป็นคนคิ้วเข้ม ตาคม แต่ไม่หล่อ (ผู้เขียนใช้คำว่าขี้ริ้ว) ก็ดูจะขัดกับการบรรยายอยู่สักหน่อย คิ้วเข้ม ตาคม พินิจพิจารณายังไงมันก็น่าจะหล่ออยู่ดีรึเปล่าล่ะ แต่ก็เอาเถอะค่ะ เทสต์ใครก็เทสต์มันยังไงซะพี่เสือแกก็ได้ใจแป๋วไปครองแล้วแน่ ๆ และที่สำคัญ คิวบู๊เรื่องนี้ดีงามสมจริงเอามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นนางเอกหรือแก๊งผู้พิทักษ์ที่ทำให้เชื่อได้ว่าพวกเขา แข็งขัน ฮึกเหิมและรักในผืนป่าแบบมีหัวใจเดียวกันจริง ๆ
ส่วนแป๋วในเวอร์ชันนี้ ถึงจะดูเด็กไปสักหน่อย แต่การแสดงของ น้องปูเป้ นับว่าเข้าขั้นสมบทบาท เพราะการส่งอารมณ์และการแสดงตลอดการดำเนินเรื่อง อยู่ในระดับที่เตรียมขึ้นแท่นนางเอกแถวหน้าในอนาคตได้เลย ดีงามประดับขวานทองมากค่ะเรื่องนี้ เชื่อว่าแฟนนิยายไม่น่าจะมีข้อกังขาใดใดในการปรับปรุงบทประพันธ์ เพราะในส่วนที่เสริมเติมแต่งเข้ามา ไม่ได้ไปทำลายแก่นของเนื้อเรื่องที่เป็นเรื่องราวของความรักในผืนป่า ความโลภ โกรธ หลง ที่มีอยู่ในตัวละครหลายตัว ธรรมะประจำใจที่หลวงตาได้สอนเสือไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ และคำปฏิญาณตนว่าจะดูแลและปกป้องผืนป่าตราบลมหายใจสุดท้ายของเสือ ยังคงอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ใครยังไม่ได้ดูแนะนำให้ดูเลยค่ะเป็นละครน้ำดีที่ถือเป็นการประกาศศักดาของค่ายน้องใหม่กันเลยแหละ ตอนนี้ก็มาถึง ep15 แล้ว จะจบแล้ว เรตติ้งตอนนี้อยู่ที่ 10.028 มาลุ้นตอนจบกันว่าจะทะลุไปถึงเท่าไหร่
ติดตามชมละคร ร้อยป่า ได้ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 HD กด 35
รับชมย้อนหลังได้ที่ bugaboo.tv
- บทประพันธ์โดย : อรชร-พันธุ์ บางกอก
- บทโทรทัศน์โดย : ตุณย์
- กำกับการแสดงโดย : หมี-โชติรัตน์ รักเริ่มวงษ์
- ผลิตโดย : บริษัท ทรัพย์ เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
- ควบคุมการผลิตโดย : อาต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา, อี๊ฟ-พุทธธิดา ศิระฉายา
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส