Our score
6.3[รีวิวซีรีส์] Betaal กองทัพเวตาล – ซีรีส์สยองอินเดียพะยี่ห้อ Blumhouse
จุดเด่น
- เปิดเรื่องได้น่ากลัวดี
จุดสังเกต
- โยงการเมืองกับประวัติศาสตร์มาเล่าได้ไม่เข้ากันเท่าไหร่
- ตัวละครยังไม่นำพาให้คนดูอยากเอาใจช่วย
- ความน่ากลัวลดลงตามจำนวนตอน
- เมกอัปเอฟเฟกต์ไม่ผ่านมาตรฐานความน่ากลัว
-
บทซีรีส์
6.5
-
คุณภาพงานสร้าง
6.6
-
คุณภาพนักแสดง
5.5
-
ความสนุก น่าติดตาม
6.5
-
ตวามคุ้มค่าเวลาในการชม
6.5
เมื่อโครงการตัดถนนต้องหยุดชะงักจากการประท้วงของชาวบ้าน ทางกองท้พจึงได้ส่งทหารหน่วยเดนตายของผู้พัน ติยากี (สุจิตรา พิลไล) ที่มุ่งหวังกำจัดเสี้ยนหนามให้นายทุนได้ระเบิดถ้ำและตัดถนนได้ดั่งใจ จนกระทั่งพวกเขาได้เผชิญหน้ากับปีศาจร้ายในถ้ำดังกล่าวมีเพียง วิกรัม ซิโรหิต (วีนีต คูมาร์) นายทหารที่ยังพอมีมนุษยธรรมที่คอยเตือนสติคนในกองร้อยให้ตระหนักถึงอันตรายจากสิ่งที่มองไม่เห็น ที่มันค่อย ๆ กลืนกินทหารร่วมรบของพวกเขาไปทีละน้อย วิกรัมจำต้องร่วมมือกับชาวบ้านที่พอมีคาถาอาคมเพื่อฝ่าฟันค่ำคืนสุดอำมหิตจากปีศาจร้ายที่อาศัยพลังของ เวตาล ผีร้ายไปให้จงได้
สำหรับ Betaal แล้วถือเป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งระหว่าง Netflix กับทาง Blumhouse สตูดิโอที่เชี่ยวชาญด้านหนังสยองขวัญยุคใหม่ที่สร้างหนังฮอลลีวูดฮิต ๆ มามากมาย และจากการร่วมกันปั้นซีรีส์สยองขวัญอินเดียคราวก่อนจนได้ GHOUL (2018) มินิซีรีส์สยองขวัญที่รวมความน่ากลัวแบบตำนานผีพื้นบ้านอินเดียเข้ากับสไตล์การเล่าเรื่องแบบบลัมเฮาส์ ที่มีการซ่อนสัญลักษณ์และตำนานความกลัวเอาไว้จนตัวละครที่คิดจะลองดีกับความเล่าดังกล่าวต้องเพลี่ยงพล้ำและถูกผีห่าซาตานเล่นงาน
โดยคราวนี้ตำนานปีศาจที่ซีรีส์หยิบมาใช้คือตำนานเวตาลหรือปีศาจค้างคาว ซึ่งต้องยอมรับว่าซีรีส์ทำออกมาได้น่ากลัวมาก และยิ่งมาผสานกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่โยงไปไกลถึงยุคทหารอังกฤษบุกยึดประเทศอินเดียก็ยิ่งทำให้เรื่องราวน่าสนใจและชวนติดตามมากขึ้น รวมถึงการให้มิติตัวละครอย่าง วิกรัม ซิโรหิต ที่ดูเหมือนทหารที่มีบาดแผลจากเรื่องที่ชวนสะเทือนใจก็ยิ่งทำให้เราติดตามและอยากรู้มากขึ้น แต่โชคร้ายที่ความดีดังกล่าวมันไม่ได้ดำเนินไปจนถึงบทสรุปนี่แหละ
สิ่งที่พลาดมากสำหรับซีรีส์ Betaal คือการที่มันไม่เลือกไปสักทางนึงระหว่างซีรีส์ผีหลอกวิญญาณหลอน น่ากลัวแบบอินเดีย หรือ ซีรีส์ผีสืบสวนแบบบลัมเฮาส์ เพราะพอเราดูไปเรื่อย ๆ จะเริ่มพบความไม่เข้ากันในหลายส่วนทั้งการพยายามโยงเรื่องการเมืองที่ว่านายทุนเริ่มบุกรุกที่ชาวบ้านไปเข้ากับประวัติศาสตร์ที่ทหารอังกฤษเคยเข้ามาบุกรุกอินเดีย ที่เหมือนพยายามจะให้ซีรีส์ดูมีอะไรลึก ๆ
แต่เอาเข้าจริงทั้งเรื่องนายทุนและทหารอังกฤษปีศาจกลับเป็นแค่หมากที่ทำให้พวกทหารอินเดียกลุ่มนี้มาติดกับและต้องเอาชีวิตรอดแค่นั้นเอง ซึ่งตรงนี้ก็ยังไม่ได้เลวร้ายเท่ากับตัวละครที่ไม่ได้มีตัวไหนชวนให้เราอยากเอาใจช่วยเท่าไหร่
โดยเฉพาะตัวละคร วิกรัม ซิโรหิต ที่เปิดมาดีมากและพยายามให้เราคิดว่าเขาเคยสังหารเด็กสาวจริง ๆ แต่พอตอนท้ายเฉลยมันกลับกลายเป็นการทำลายไอ้มิติตัวละครแบบยับเยินจริง ๆ หรือจะเป็นตัวละครทหารที่เป็นญาติกันที่ความสัมพันธ์ยิ่งน่ารำคาญขึ้นเมื่อฝ่ายหนึ่งกลายเป็นปีศาจเพราะมันเหมือนซีรีส์ไปลอกฉากมาจากหนังซอมบี้ที่ทำกันมาจนเกร่อ หรือจะเป็นลูกสาวนายทุนที่หลายครั้งซีรีส์พยายามให้เธอเป็นเหยื่อให้เราเอาใจช่วยแต่กลับสร้างความน่ารำคาญมากกว่า
ส่วนเมกอัปเอฟเฟกต์ต้องบอกว่ามันชวนฮามากกว่าน่ากลัว ไม่รู้ว่าพยายามจะหนีหน้าแนวซอมบี้หรือเปล่า แต่พอแต่งเลียนแบบศพขึ้นอืดแล้วมันกลับกลายเป็นดูยาง ๆ เหมือนหนังผีสมัย 40 ปีก่อนของเอเซียที่ยังไม่พัฒนานักจนคุณค่าของโปรดักชันลดลงไปอย่างช่วยไม่ได้ ประกอบกับพลังความน่ากลัวที่แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลังตอน 3 ทั้งที่ตอน 1 กับ 2 คือทำมาได้ดีมาก จนน่าเสียดายความดีก่อนหน้านี้ไปเลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส