[รีวิว] รักแลกภพ : โรแมนติก-คอมเมดี้แบบย้อนยุค สนุกเกินคาด

Our score

9.0

[รีวิว] รักแลกภพ : โรแมนติก-คอมเมดี้แบบย้อนยุค สนุกเกินคาด

จุดเด่น

ภาพสวยละมุนตา โปรดักชันในยุคอดีตสวยงาม
เห็นฝีมือการแสดงของ ฟิล์ม-ธนภัทร ที่พัฒนาจากเรื่องก่อน ๆ ขึ้นมาก
บทมีความสนุกสนาน น่ารักอารมณ์ดี น่าติดตาม

จุดสังเกต

ขัดใจกับสูทดำขลับเหลืองของพระเอกมาก ๆ

ความสมบูรณ์ของบท

9.0
คุณภาพงานสร้าง

9.0
คุณภาพการเล่าเรื่อง

9.0
คุณภาพนักแสดง

9.0
ความคุ้มค่าในการรับชม

9.0

เรื่องราวของ พิริยะ หรือ พีท (ฟิล์ม-ธนภัทร) Influencer ชื่อดังที่ใช้เงินเกินตัว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูดี ขับรถสปอร์ต อยู่คอนโดหรู มีเพื่อนสนิทสมัยเรียนชื่อ พิงค์ (ใบเฟิร์น-อัญชสา) คอยเตือนสติเรื่องการใช้เงิน แต่ก็ไม่ทันกาล เพราะพิริยะได้กลายเป็นคนมีหนี้ท่วมหัวจนเจ้าหนี้มาตามทวงถึงที่ จนตัดสินใจที่จะขายบ้านเก่าที่สี่พระยา ซึ่งเป็นสมบัติตกทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

แต่ฟ้าดินก็ดลใจให้พีทนึกย้อนไปถึงสมัยเด็ก ๆ ถึงคำพูดที่พ่อได้บอกไว้ว่าตระกูลของเขามีการฝากเงินไว้ที่ธนาคารออมสิน เพื่อมอบให้กับเขาโดยเฉพาะแต่เขาจะถอนมันออกมาใช้ได้ก็ต่อเมื่อถึงปี พ.ศ. 2563 เท่านั้น แต่ เจอสมุดแล้วเรื่องก็ไม่จบนะจ๊ะ (เพราะมันเพิ่งจะเริ่ม) เหตุการณ์ย้อนอดีตเริ่มตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เขาได้ย้อนกลับไปในยุคอดีต สมัยรัชกาลที่ 6 พ.ศ. 2463 ก็แค่ 100 ปีเท่านั้นเองและได้พบกับ เพียร (ฟิล์ม-ธนภัทร) เจ้าพนักงานคลังออมสิน ที่เป็นปู่ทวดของเขาและมีหน้าตาเหมือนเขาราวกับพิมพ์เดียวกัน

ซึ่งช่วงเวลาที่ย้อนมานี่ก็เป็นช่วงที่ปู่ทวดยังโสด บทละครช่วงหนึ่งเขียนให้เราทราบว่า เมื่อครั้งที่พีทยังเด็กความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กชายพีท ได้เอารูปปู่ทวดกับย่าทวดไปล้างน้ำ ทำให้รูปย่าทวดเสียหายและพีทก็ไม่เคยเห็นเค้าร่างของย่าทวดเลย พอย้อนอดีตกลับมาได้ก็มาในช่วงเวลาที่ปู่ทวดเพียร สมควรจะต้องมีคู่ครอง แล้วก็มีเหตุจำเป็นจะต้องเลือกผู้หญิงที่เพียบพร้อมเพื่อมาเป็นเจ้าสาว ซึ่งในเวลานั้นมีผู้หญิงที่เข้ามาพัวพันกับเพียรถึง 2 คน คือ คุณวรรณ (วิว-วรรณรท) สาวสวยเพียบพร้อมที่มีความคิดทันสมัยกว่าใครในยุคนั้น กับ วรรณี (ลิลลี่-ภัณฑิลา) น้องสาวของเพื่อนสนิท ที่เป็นคนเก่ง กล้า ตรงไปตรงมา

เพียรที่เห็นพีทมีศักดิ์เป็นหลาน จึงคิดว่าพีทคงจะรู้ว่าทวดผู้หญิงเป็นใคร เลยขอร้องให้พีทช่วยเลือกเจ้าสาวแต่ ก็นั่นแหละทำเจ๊งไปกับมือจะรู้จักได้ยังไง งานนี้แทนที่จะต้องรีบหาทางกลับไปภพปัจจุบัน พีทจะต้องทำภารกิจสำคัญ นั่นคือช่วยคุณปู่ทวดเพียรเลือกคู่ครองให้ถูกคน เพราะถ้าเกิดเพียรแต่งงานกับเจ้าสาวผิดคน อาจจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปและเขาอาจจะไม่ได้เกิด

ความรู้สึกหลังจากดูจบไป 4 Ep

อยากจะไปเปิดบัญชีธนาคารออมสินซะวันนี้พรุ่งนี้เลย เอาจริง ๆ ธนาคารอะไรหนอ รัฐบาลเป็นประกันแถมยังฝากเงินได้ข้ามภพข้ามชาติ เป็น 100 ปีแล้วยังงอกเงยมาล้างหนี้ที่พอกพูนได้อีก สลากออมสินที่ซื้อไว้ ถูกรางวัลมา 5 ปีแล้วก็ยังเอาไปขึ้นเงินย้อนหลังได้อีก ไปค่ะพี่สุชาติ เราต้องไปเปิดบัญชีที่ธนาคารนี้กันแล้วละ ทำไมมันยังถอนได้อยู่อีกอ่ะ? บทละครไม่ลืมที่จะใส่เหตุผลที่น่าเชื่อถือลงไปด้วยว่า เพราะมันมีการเดินบัญชีต่อเนื่องมาทุกเดือน ๆ ตั้งแต่ 100ปีที่แล้ว เนื่องจากคุณปู่ทวดเพียรเขียนไว้เป็นพินัยกรรม ว่าให้คนในตระกูลทำแบบนั้น เพื่อมอบเป็นมรดกให้เหลนชายนายพีท

Ep แรกยังไม่รู้สึกถึงความเป็นคอมเมดี้เท่าไหร่ บทปูมาเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้เยิ่นเย้อ พอเริ่ม Ep2 เป็นต้นไปก็ฉายแววคอมเมดี้มาเนือง ๆ เป็นคอมเมดี้ย้อนอดีตที่ตลกเบา ๆ น่ารักเยอะ ๆ เกินจากที่คาดเอาไว้จากหน้าหนัง คือไม่นึกว่าจะเป็นละครที่น่ารักและย้อนอดีตได้ขบขันขนาดนี้ เรื่องอื่น ๆ ที่เคยมีมาเราจะชินกับการที่นางเอกย้อนอดีตกลับไปพบรักในกาลก่อน ไม่ว่าจะเป็นทวิภพ, ลิขิตแห่งจันทร์, บ่วงบรรจถรณ์ ก็จะมีแต่นางเอกทะลุมิติไปหาพระเอกทั้งนั้นและมีตัวกลางในการผ่านเข้าออก เป็นกระจก เป็นเตียง เป็นภาพวาด แต่นี่ทะลุผ่านสมุดบัญชีธนาคารเก่า ๆ ไปจ้ะและไม่ได้ไปครองคู่กับใครด้วย ไปเป็นตัวป่วนให้คนอื่นเขารักกัน ล้ำกว่าเยอะ

โปรดักชันกับบทที่เข้ากันดี

เข้าใจว่าผู้เขียนบทเรื่องนี้ต้องเป็นแฟนคลับทวิภพแน่นอน เพราะมีการพูดถึงเรื่องนี้ในบทของพีทและพิงค์ ที่พิงค์พยายามจะติดต่อหาพีทผ่านกระจกโดยเลียนแบบละครที่เคยดูมา และพีทก็พยายามทะลุกระจกกลับไปแต่ไม่สำเร็จ ก็…นี่มันคนละเรื่องกันไง พระเอกพยายามจะกลับมาโลกปัจจุบันด้วยสารพัดวิธี แม้กระทั้งขโมยโม่สำหรับโม่แป้งของแม่ค้า เพื่อกระโดดลงน้ำเลียนแบบซีรีส์เรื่อง Forever ในส่วนของบทที่ตีธงออกมาแล้วว่าเป็นโรแมนติก-คอมเมดี้ ก็ทำได้โรแมนติก-คอมเมดี้จริง ๆ นั่นแหละ

รีวิวนี้เป็นรีวิวเพียงแค่ 4Ep เท่านั้นนะคะ เรื่องยังไม่ดำเนินไปถึงการช่วยปู่ทวดเลือกคู่ แต่ก็เห็นว่าบทมีความน่ารักชวนหัวพาให้เกิดอารมณ์ขันและใส่ความเชื่อยากเข้าไป ที่พระเอกไม่ได้เชื่ออะไรง่าย ๆ ว่าตัวเองย้อนอดีตมาจริง ๆ บวกกับฝีมือการแสดงที่พัฒนาขึ้นมาจากเรื่องก่อน ๆ ของ ฟิล์ม-ธนภัทร ที่ต้องบอกว่าเรื่องนี้เห็นการพัฒนาที่ดีขึ้นจนทำให้เชื่อได้ว่า เวลาที่เล่นเป็นพีทก็น่าเตะสักป้าบ ก็เพราะเป็นคนอย่างงี้ไงถึงเป็นหนี้ท่วมหัว เวลาเป็นคุณเพียรก็สุขุมสมฐานะ ในจุดนี้ทำให้ฉุกคิดได้อีกอย่างหนึ่งว่า คนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เมื่ออยู่ต่างยุคต่างสมัย ต่างการอบรมเลี้ยงดู วุฒิภาวะช่างต่างกันขนาดไหน

ก็เห็นได้จากคุณทวดและคุณเหลนคู่นี้เลย เมื่อมาเข้าคู่กับ วิว-วรรณรท ที่ฝีมือการแสดงของวิวไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้วว่าเอาอยู่ พีเรียดแบบนี้ก็ผ่านมาแล้ว เป็นนางพญางูก็เป็นมาแล้ว ก็ถือว่าจิ๊บ ๆ สำหรับวิวและไม่ทำให้เราผิดหวัง

ในส่วนของโปรดักชันกับละครพีเรียด ที่มีการสลับฉากไปในยุคปัจจุบัน ถือว่าผ่านไปได้อย่างสบาย ๆ ภาพในยุคอดีตทำออกมาได้สวยละมุนตาและทำให้หลงคิดไปว่า สี่พระยาสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นแบบในละครจริงรึเปล่านะ ด้วยความที่ 100 ปีมันก็ไม่ไกลเกินกว่าจะคิดถึง จุดนี้ก็พาอารมณ์ผู้ชมให้ร่วมจินตนาการไปด้วยได้ ตัดด้วยความต่างของยุคปัจจุบันกับคอสตูมของพระเอก ที่ช่างเป็นเด็กที่มั่นหน้ามั่นโหนกอะไรเบอร์นั้น ถึงกล้าใส่ชุดดำขลิบเหลืองออกมาเดินเพ่นพ่านแล้วไลฟ์ให้แฟนคลับดูได้ ก็วัยรุ่นอ่ะเนอะถือว่าเป็นหนุ่มมั่นแห่ง พ.ศ. 2563 จริง ๆ นั่นแหละ สายแฟมาเองเลยค่ะแม่

เหลนพีท กับ ว่าที่คุณทวดหญิงที่อยากสมัครเสือป่า

รักแลกภพ น่าจะเป็นละครที่เขียนบทขึ้นมาใหม่ได้แตกต่างจากละครทะลุมิติเรื่องอื่น ๆ อยู่พอสมควร มีความน่าสนใจ น่าติดตาม กับบทน่ารัก ๆ ของพระเอกและบทสาวมั่นเกินใคร ๆ ของนางเอก ที่เป็นว่าที่คุณทวดหญิง ทำให้เห็นว่าบ้านเมืองในสมัยนั้นมีการสนับสนุนความคิดของสตรีอยู่มาก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงที่สตรีในสมัยรัชกาลที่.6 มีบทบาททางสังคมมากขึ้นกว่ายุคอื่น ๆ มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสอดแทรกอยู่ในเนื้อเรื่องอย่างเช่นการเล่น ผะหมี หรือปริศนาคำทายในสมัยนั้น มีเรื่องของกองกำลังเสือป่าที่นางเอกของเราเกิดอยากจะเข้าร่วมกับเขาด้วย พูดถึงเรื่องการพระราชทานนามสกุลว่าในสมัยนั้นมีธรรมเนียมปฏิบัติอย่างไรน่า รักมากค่ะละครเรื่องนี้ ส่วนตัวดูแล้วชอบและมีความสุขมาก ๆ ที่ได้ดู