[รีวิว] ห้องนี้ไม่มีห่วย The Underclass : เด็ก ๆ มาเล่นอะไรกันตรงนี้จ๊ะ
Our score
5.9

[รีวิว] ห้องนี้ไม่มีห่วย The Underclass : เด็ก ๆ มาเล่นอะไรกันตรงนี้จ๊ะ

จุดเด่น

  1. พล็อตเรื่องดี น่าสนใจ มีความร่วมสมัย
  2. บทมีความสะท้อนสังคมและค่านิยมการศึกษา ที่สามารถเตือนใจได้ง่าย ๆ

จุดสังเกต

  1. ในการจิกกัดของบทที่ใส่เข้ามา ทำให้ค้านกับความเป็นจริงจนกระโดดออกมาในทางลบกับตัวซีรีส์มากกว่าบวก
  2. การแสดงหลาย ๆ ซีนไม่เป็นธรรมชาติ ทั้ง ๆ ที่เป็นซีนง่าย ๆ จนน่าเสียดาย
  3. บทพูดในหลาย ๆ ฉาก โดยเฉพาะเนื้อหาที่เป็นตัวชี้นำความรู้สึก ขัดกับความเป็นจริงจนทำให้เชื่อและคล้อยตามได้ยาก
  • ความสมบูรณ์ของบท

    4.5

  • คุณภาพงานสร้าง

    5.0

  • คุณภาพนักแสดง

    6.0

  • คุณภาพการเล่าเรื่อง พล็อต

    7.0

  • ความคุ้มค่าในการรับชม

    7.0

เมื่อเด็กห้อง A จะต้องตกไปอยู่ห้อง F ห้องสุดห่วยที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ เธอจะทำอย่างไร ให้ได้กลับมาอยู่ห้อง A อีกครั้ง ?

ห้องนี้ไม่มีห่วย The Underclass

เรื่องนี้เป็นการรวมตัวของสมาชิกวงไอดอล BNK48 เหล่าโอตะ น่าจะรอคอยเรื่องนี้อยู่เหมือนกันละเนอะ GMM25 เขาก็เสิร์ฟร้อน ๆ มาให้ชมอาทิตย์ละตอนพร้อมกับลงใน Netflix ด้วย ซึ่งตอนแรกถูกเสิร์ฟออกมาแล้วเรียบร้อยโรงเรียน BNK

เป็นเรื่องของโรงเรียนมัธยมหญิงล้วนแบบกิน-นอนชั้นนำแห่งหนึ่ง ซึ่งแบ่งห้องเรียนตามระดับคะแนนการเรียนของนักเรียน ตั้งแต่ห้อง A ไปถึงห้อง F โดยที่ไม่มีการแบ่งสายการเรียน ใช้เพียงหลักสูตรเดียว แต่มีวิชาเลือกให้เลือกลงได้ตามคะแนนและหน่วยกิตที่มี ก็ง่าย ๆ เลยค่ะ ห้อง A คือแหล่งรวมของเด็ก ๆ ที่เจ๋งสุดแต่ห้อง F คือห้องที่บรรจุไปด้วยเด็กห่วยในสายตาของรอง ผอ. ที่มีค่านิยมเป็นวิสัยทัศน์ที่ว่า “เด็กต้องเรียนเก่งและได้คะแนนดี ๆ เท่านั้นถึงจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้และการจบการศึกษาออกไปจากโรงเรียนนี้ ถือเป็นเกียรติยศที่น่าภาคภูมิใจ”

เด็กทุกคนจะมีคะแนนคล้าย ๆ กับการประกวดวงเกิร์ลกรุ๊ป มีการเลื่อนลำดับจาก A-F โดยที่คะแนนของทุกคนจะขึ้นโชว์อยู่ที่แอปพลิเคชันของโรงเรียน ใครเก่งใครห่วยก็รู้เช่นเห็นชาติกันหมด มีแต้มสะสมคะแนนจากการเช็กอินเข้าชั้นเรียน

พะแพง (มิวนิค-นันท์นภัส เลิศนามเชิดสกุล)

 พะแพง (มิวนิค-นันท์นภัส เลิศนามเชิดสกุล) เด็กห้อง A คนเก่งต้องตกไปอยู่ห้อง F เพราะเธอดันถูกจับได้ว่าโกงข้อสอบ ทำไมอยู่ห้อง A แล้วต้องโกงข้อสอบล่ะ ซีรีส์ทำให้เห็นว่าเด็กเครียดค่ะ กลัวลำดับจะร่วงลงมาแล้วพ่อแม่จะผิดหวังจึงตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่ชีวิตในห้อง F มันไม่ง่ายเพราะพะแพงเข้ากับใครไม่ได้ สังคมต่างจากห้อง A ที่เธอมาโดยสิ้นเชิง แถมเธอยังมีเรื่องกับ มีน (มิวสิค-แพรวา สุธรรมพงษ์) หัวโจกของห้องอีกต่างหาก แถมเธอยังเข้าไปพัวพันกับขบวนการ “แกะดํา” โดยไม่ตั้งใจ นี่คือเนื้อหาของ Ep1

พูดถึงพล็อตเรื่องและบทกันก่อน

พล็อตเรื่องวางมาดีมาก ๆ นะคะมีความร่วมสมัยและเข้ากับเหตุการณ์ในยุคปัจจุบัน ที่การแข่งขันทางด้านการศึกษาเข้มข้นไม่เลิก จริง ๆ แล้วค่านิยมเด็กเก่งเด็กเรียนและการตั้งความหวังของพ่อแม่เรื่องการศึกษาของลูก มันอยู่คู่โลกใบนี้มานานแล้วละ ตัวบทเมื่อดูไปเพียงแค่ Ep เดียวก็สัมผัสได้เลยว่ามีการจิกกัดวัฒนธรรมการศึกษาในระบบ พยายามสะท้อนค่านิยมการศึกษาที่พุ่งเป้าไปที่ผลการเรียน คะแนน เกรดแถมยังใส่ความเหลื่อมล้ำทางสังคมเข้าไปอีกด้วยการเขียนให้เด็กห้อง A ได้รับสิทธิพิเศษแบบเกินต้านจนแตกต่างกับเด็กห้อง F ราวฟ้ากับเหว

ห้องนี้ไม่มีห่วย The Underclass

ไม่ว่าจะเป็นทางเดินในโรงเรียนที่มีทางพิเศษเฉพาะเด็กห้อง A เท่านั้น เรือนนอนที่หรูหราหมาเห่าในขณะที่เด็กห้อง F ได้นอนในบ้านพักโทรม ๆ อาหารที่แตกต่างไปตั้งแต่ห้องที่จัดให้รับประทาน ภาชนะที่ใส่ไปจนถึงเมนูอาหาร ทั้ง ๆ ที่เด็กทุกคนที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้ จ่ายค่าเทอมเท่ากันทุกคน อ้าวววว ไหงงันล่ะ ก็เข้าใจได้ในระดับหนึ่งค่ะว่าบทพยายามจะให้เห็นความแตกต่าง ความเหลื่อมล้ำที่ทางโรงเรียนปฏิบัติ คุณต้องพยายามไปยืนในจุดที่สูงที่สุดเท่านั้นถึงจะได้รับการปฏิบัติที่ดี

พล็อตเรื่องดีนะคะ แต่บทมีความ contrasts กับโลกแห่งความเป็นจริงอยู่มากจนไม่สามารถสร้างความรู้สึก อินไปกับพล็อตดี ๆ ที่วางเอาไว้ได้ ความเป็นไปได้ในส่วนนี้เท่ากับศูนย์กันเลยทีเดียว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ความโกลาหลจะไม่เกิด ไม่มีพ่อแม่ผู้ปกครองบ้านไหนยอมให้ลูกถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมเพียงเพราะลูกของฉันการเรียนแย่กว่าเพื่อน ๆ แน่นอน จ่ายเงินเท่ากันอ่ะค่ะคุณ มันบ่ได้เลยนะ อย่าหาทำ

การแสดงของสาวน้อย BNK48

ต้องถามว่าหนู ๆ มาเล่นอะไรกันตรงนี้คะลูก น่ารักน่าเอ็นดูสมวัยพวกเขาค่ะ แต่ถ้าจะเคี่ยวให้ข้นอีกสักหน่อย ศักยภาพของเด็กกลุ่มนี้ที่เราเคยเห็นในผลงานที่ผ่านมาอย่าง 365วัน บ้านฉันบ้านเธอ , Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า , App War แอปชนแอป , Homestay ที่ทำเอาไว้ได้ดีมาก ๆ จะต้องเฉิดฉายออกมาอีกครั้งกับซีรีส์เรื่องนี้อย่างแน่นอน บอกตามตรงว่า Ep แรกทำให้รู้สึกเสียดายฝีมือที่เชื่อว่าน้อง ๆ ทำได้แน่ ๆ ก็เราเคยชื่นใจกับผลงานในเรื่องอื่น ๆ มาแล้วนี่

บทสนทนาในหลาย ๆ ช่วง ขาดความเป็นธรรมชาติไปแล้วครึ่งหนึ่งจากสายตาและความรู้สึก แอกติ้งของตัวแสดงที่หลายฉากไม่ควรปล่อยผ่านแต่ก็ผ่านออกมาซะแล้ว จนกลายเป็นการทำงานที่จบด่วน ห้วนสั้นไปซะอย่างงั้น มุกตลกที่เกือบตลก ฉากซึ้ง ๆ คำพูดกินใจหรืออารมณ์ร่วมที่จะดึงความรู้สึกได้แน่ ๆ กลับดึงออกมาไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น เสียดายค่ะ

สัจธรรมที่สอดแทรกมาในบทละคร

ต้องยอมรับในส่วนนี้ค่ะว่าใส่ลงมาได้พอเหมาะพอเจาะ กับสัจธรรมในการใช้ชีวิตบนโลกทุกวันนี้ การจมให้ลง การยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับชีวิตและต้องปรับตัวให้ได้กับผลของการกระทำที่สร้างขึ้นเองในบทของ พะแพง ตรงนี้ดีมาก ๆ เลยแหละ เป็นแง่คิดที่หากดูแบบไม่ปล่อยผ่าน ไม่มองข้ามจะรับรู้ได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้มีข้อคิดที่เป็นเครื่องเตือนใจได้ดีเรื่องหนึ่ง

ขบวนการ “แกะดำ”
ฮีโร่สาวมาช่วยแล้ว

แต่ก็แอบเห็นความจิกกัดที่เหมือนจะกัดไม่ปล่อย กับความเหลื่อมล้ำในสังคมในเรื่องของการถูกเลือกปฏิบัติ มิตรภาพความรักที่แท้เทียมระหว่างสังคมสองสถานะ คือความสัมพันธ์ที่ดูก็รู้ว่าปลอมของเด็กห้อง A กับความสัมพันธ์ที่มีแต่ความจริงใจเข้าหากันของเด็กห้อง F แทนการแบ่งชนชั้นทางสังคม ซีรีส์สามารถทำให้รู้สึกได้แบบนั้นใน Ep เดียวนี่แหละค่ะ จนเด็กห้อง F ต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติด้วยการก่อตั้งขบวนการ “แกะดํา” ใส่ชุดดำ สวมหน้ากากเป็นฮีโร เพื่อต่อกรกับอำนาจมืดและทวงคืนความยุติธรรม แถมยังมีความพิเศษตรงที่หนึ่งในเด็กกลุ่มนี้กลับมีพลังฮึดจนพังประตูเหล็กได้เมื่อถูกทำให้โมโห อาย หรือโกรธ

แถมยังมีอาจารย์ฝึกสอน รู้เห็นเป็นใจในการทำงานของขบวนการแกะดำซะอีกด้วย เรียกได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐก็หลับตาข้างเดียว กับการเป็นฮีโร่ของกลุ่มคนที่รัฐบาลต้องการตัวในครั้งนี้ ณ จุดนี้ OST Batman ต้องขึ้นแล้วค่ะ ซีรีส์เขาจริงจังนะ บทสนทนาก็จริงจังขึงขัง แต่ทำไมดิฉันขำกับการกระทำแบบเด็ก ๆ ของหนู ๆ ก็ไม่รู้สิ

ห้องนี้ไม่มีห่วย The Underclass

  • ออกอากาศทุกวัน : อาทิตย์ เวลา 21:30 น. ทาง GMM25
  • กำกับการแสดงโดย : ภาส พัฒนกำจร
  • สร้างสรรค์โดย : GMM Studios
  • ช่องทางรับชมอื่น : NETFLIX

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส