[รีวิว]สามหนุ่มสามมุมx2 : เหมือนได้เจอเพื่อนเก่าที่หายไปนาน ชื่นใจ

Our score

8.8

[รีวิว]สามหนุ่มสามมุมx2 : เหมือนได้เจอเพื่อนเก่าที่หายไปนาน ชื่นใจ

จุดเด่น

คาแรกเตอร์ของนักแสดงหลักไม่หลุดจากคอนเซปต์เดิม ยังคงรักษามันไว้ได้แบบต่อติด
การเล่าแบบไม่เท้าความแต่สามารถเข้าใจได้แม้เพิ่งเคยดูครั้งแรก
งานโปรดักชันมาตรฐานซิทคอม ถือว่าทำได้ดี
สำหรับ Ep แรกถือว่าเปิดตัวได้ดี อยู่ในระดับที่ชื่นใจ

จุดสังเกต

สำหรับคนที่ยังไม่เคยดูสามหนุ่มสามมุมมาก่อน อาจอยากรู้เบื้องลึกความเป็นมามากกว่านี้ ผู้ปกครองที่บ้านช่วยได้

ความสมบูรณ์ของบท

8.0
คุณภาพนักแสดง

9.0
คุณภาพการเล่าเรื่อง

9.0
คุณภาพงานสร้าง

9.0
ความคุ้มค่าในการรับชม

9.0

เคยไหม เพื่อนที่เราเคยรู้จัก เห็นความเป็นไปในชีวิตของเขามา 8 ปี อยู่มาวันหนึ่งเขาก็มีเหตุจำเป็นให้ต้องหายไปจากชีวิตของเราซะอย่างนั้น บ้างไปมีครอบครัวแล้วก็สาละวนอยู่กับการดูแลคนใกล้ชิด บ้างไปใช้ชีวิตต่างแดนห่างหายไปจากการติดต่อ อยู่มาวันหนึ่งในอีก 22 ปีให้หลัง เขาก็กลับมาอีกครั้งและค่อย ๆ เปิดเผยว่า ชีวิตของเขาผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง หลังจากที่แยกจากกันที่สนามบินดอนเมืองครั้งนั้น หนำซ้ำยังจูงลูกชายมาให้เรารู้จักกันอีก

สามหนุ่มสามมุมแห่งบ้านเบญจวรการ กลับมาแล้ว

เท้าความถึงสามหนุ่มสามมุมรุ่นพ่อกันก่อน เรื่องนี้เป็นซิตคอมยุคแรก ๆ ตั้งแต่ปี 2534 ที่ครองใจดิฉันชนิดติดหนึบเลยเชียวละ เล่าเรื่องราวของ เอกพล เบญจวรการ (กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) ทศพล เบญจวรการ (แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) และ พีรพล เบญจวรการ (มอส-ปฎิภาณ ปฐวีกานต์ ) สามหนุ่มพี่น้องที่มีนิสัยไปคนละมุม คนละวัย ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านตามลำพังไม่ได้อยู่กับพ่อและแม่ แต่ก็จะมีเพื่อนบ้านแวะเวียนมาสร้างความอบอุ่นอยู่ไม่ขาด ซึ่งแขกประจำของบ้านช่วงแรก ๆ คือ ป้าดา (มี้-พิศมัย วิไลศักดิ์) เพื่อนบ้านที่เปรียบเหมือนญาติสนิท ผูกปิ่นโตกันจนเข้าอกเข้าใจสามหนุ่มเป็นอย่างดี

เรื่องนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ส่วนผสมของนักแสดงหลักทั้งสามคนโดยให้ เอกพล เป็นพี่ใหญ่จอมเฮี้ยบ เจ้าระเบียบ ทำงานธนาคาร ขี้งก คอยดูแลน้อง ๆ ด้วยการออกกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ภายในบ้านโดยมี ทศพล พี่คนกลางเป็นคนหัวสมัยใหม่ เป็นนักเรียนนอกจอมเจ้าชู้ รักอิสระและมี พีรพล เป็นน้องเล็กเจ้าปัญหา ที่ถือว่าเป็นตัวละครที่เปรียบเสมือนตัวแทนของวัยรุ่นในขณะนั้น ที่ทั้งดื้อ แผลง และไม่ชอบให้ใครบังคับ สามพี่น้องรักใคร่กันดีแต่ด้วยนิสัยและวัยที่ต่างกัน ก็มีเรื่องขัดแย้งกันไม่ขาด

ในแต่ละตอนจะมีปัญหาที่เกิดขึ้นของแต่ละคนสลับกันไป และคลี่คลายในตอนท้ายแบบแฝงสัจธรรม มีแขกรับเชิญหมุนเวียนมาสร้างสีสันให้เรื่องราวสนุกสนานกันคึกคัก เป็นละครที่ต้องบอกว่าติดงอมแงมกันทั้งบ้านทั้งเมืองก็ว่าได้ ยืนยันได้จากช่วงหนึ่งที่ละครดังมาก ๆ แล้วตัวละครพูดถึงเบอร์โทรศัพท์ของ บ้านเบญจวรการ ที่เป็นเบอร์อุปโลก แต่แฟน ๆ ก็โทรไปเลยจ้ะ เพราะคิดว่าสามพี่น้องบ้านเบญจวรการ มีตัวตนอยู่จริง ๆ ทำเอาเจ้าของบ้านตัวจริงเดือดร้อนเพราะเบอร์มันดันใช้ได้จริง ๆ ซะงั้น ต้องมาฟ้องทีมงานว่าช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ให้ด้วย โทรศัพท์บ้านเขาดังไม่หยุดแล้วเนี่ย

อีกจุดหนึ่งที่ทำให้ละครเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของสามหนุ่มมานานถึง 8 ปี ก็คือพัฒนาการของตัวละครที่คล้ายคลึงกับชีวิตจริง เริ่มจากการที่เอกพลมีความก้าวหน้าทางหน้าที่การงาน ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ทศพลผันตัวเองมาทำงานประจำ พีรพลสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย แต่ไม่ติดก็เปลี่ยนเป้าหมายไปเข้ามหาวิทยาลัยเอกชน เป็นละครจำลองชีวิตที่มีความเป็นไปได้และใกล้เคียงกับชีวิตจริงมาก ๆ ในสมัยนั้น ไม่ต่างอะไรกับการที่เราได้เห็นชีวิตของเพื่อนบ้านครอบครัวหนึ่ง ที่เราคุ้นเคยและใกล้เคียงกับความเป็นครอบครัวเอามาก ๆ

ความอบอุ่นระหว่างพี่กับน้องแม้จะขาดพ่อแม่คอยดูแล แต่เอกพลก็เป็นพี่ชายหัวโบราณที่ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ของน้องอย่างดี เป็นแบบอย่างของการดูแลซึ่งกันและกัน เป็นตัวแทนความรักความสัมพันธ์ในครอบครัว มีความทันสมัยทันเหตุการณ์กับสถาณการณ์บ้านเมือง มีจุดพลิกผันให้ต้องย้ายบ้านมาอยู่คอนโดเพราะที่ดินถูกเวนคืน มีการพัฒนาที่จะดูแลครอบครัวใหญ่ด้วยการซื้อบ้านใหม่ในที่สุด จนถึงวันหนึ่งที่ทุกคนต้องแยกจากกันไปตามทางของตัวเอง เอกพล ย้ายไปเป็นผู้จัดการธนาคารที่กรุงลอนดอน ทศพล แต่งงานย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกาและ พีรพล เปิดร้านขายไส้กรอกร่วมกับเพื่อนสนิทอยู่ที่เมืองไทยเพียงลำพัง และปิดฉากสามหนุ่มสามมุมนับแต่นั้นเมื่อ พ.ศ. 2541

ความสมจริงและความเรียบง่ายในการนำเสนอจึงทำให้ละครเรื่องนี้ กวาดรางวัลจากเวทีโทรทัศน์ทองคำถึงสามปี (2534,2538,2541) และรางวัลสื่อมวลชวนดีเด่นเพื่อเยาวชน (ประเภทละครโทรทัศน์) (พ.ศ. 2541) โดย สำนักงานส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี (ส.ย.ช)

สามหนุ่มสามมุม x 2

เวลาผ่านไป 22 ปี พ.ศ. 2563 สามหนุ่มกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในบ้านหลังใหม่ พร้อมกับลูก ๆ ของพวกเขาในแบบคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว มีผลผลิตเป็นสามหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีนิสัยถอดแบบจากพ่อ ๆ ของพวกเขาอย่างไม่ผิดเพี้ยน หนึ่ง (บี-เสถียรพงษ์) ลูกชายของเอกพล เป็นหนุ่มเจ้าสำอางชนิดที่นกหงส์หยกก็ยังอาย เนี้ยบ เจ้าระเบียบ เจ้าแผนการไม่ต่างกับพ่อ เฟิร์ส (ปีโป้-ณัชพัณณ์) ลูกชายของทศพล เป็นหนุ่มนักเรียนนอก หัวรั้น รักอิสระ ที่ไม่สนิทกับพ่อตัวเองเพราะไม่ค่อยได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน อูโน่ (ซี-ปรัตถกร) น้องคนเล็กสุดของบ้าน ลูกชายของพีรพล ซ่า ๆ บ้าบิ่นตามประสาวัยรุ่น เพราะพีรพลเลี้ยงลูกแบบเพื่อน

Ep แรกเปิดมาในตอน “โคตรพวกเราเลย” เป็นการบอกเล่าถึงบุคลิกของสามหนุ่มรุ่นใหม่ ว่าถอดแบบพ่อออกมาเป๊ะ ๆ พ่อเป็นแบบไหนลูกก็ไม่ต่างจากกันสักเท่าไหร่ ไม่ได้มีการเท้าความว่า 22 ปีที่หายไปแต่ละคนไปทำอะไรมา แต่เรากลับรู้เรื่องเฉย มีเพียงการพูดถึงผ่านการพูดคุยของสามพี่น้องที่เราคุ้นเคย บุคลิกตัวละครจาก 22 ปีที่แล้วไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นักแสดงยังคงคาแรกเตอร์ตัวละครเอาไว้ได้ดีจนเราไม่เห็นพี่กบ ทรงสิทธิ์ แต่เรากลับเห็นพี่เอก พี่ชายคนโตมาประหยัดค่าไฟให้เราคิดถึง เห็นความเพี้ยนและขี้เล่นของพีรพล และความเป็นคนเฟรนด์ลี่ในหมู่สาว ๆ ของทศพลก็ยังคงเดิม มีการพัฒนาตัวละครไปในทางที่โตขึ้นเหมือนชีวิตมนุษย์คนหนึ่งที่เติบโต ทำงาน มีลูก เป็นไปตามครรลองธรรมชาติอย่างเข้าใจได้

และบุคลิกเหล่านั้นส่งผ่านมาถึงรุ่นลูก เป็นความสัมพันธ์แบบคนสองรุ่นที่กลมกลืน ชวนให้คล้อยตามและหลงดีใจที่เราได้เจอกันอีกครั้ง ได้เห็นชีวิตของเอกพลที่มีลูกชายช่างคิดช่างวางแผนและดูจะเป็นคนมีความรับผิดชอบไม่ต่างจากพ่อ เห็นความเป็นพ่อที่น่ารักของพีรพลที่เลี้ยงลูกแบบเพื่อนที่เข้าใจกัน ไปไหนไปด้วย ดูแลลูกและหยอกล้อฉันเพื่อนสนิท เห็นความเป็นตัวตนของลูกชายเอกพลที่ถึงแม้จะถูกเลี้ยงดูอย่างไม่อบอุ่นเท่าไหร่นัก แต่สายสัมพันธ์พ่อลูกก็ฉายแววให้เห็นใน Ep เดียว

ความรู้สึกที่ได้รับจากตอนเปิดตัวของ สามหนุ่มสามมุม x2 จึงเป็นความรู้สึกที่ หายคิดถึง เหมือนได้เจอเพื่อนเก่าที่ห่างหายจากกันไปนาน มาพูดคุยเจรจาให้รับรู้ถึงชีวิตของแต่ละคนกันอีกครั้ง ชื่นใจ สำหรับแฟน ๆ สามหนุ่มสามมุมตั้งแต่เริ่มแรก ลองไปทำแบบทดสอบกันเล่น ๆ ดูได้นะ ว่าคุณเป็นแฟนตัวยงของสามหนุ่มสามมุมแค่ไหน ช่องวันเขาทำมาให้เล่นสนุก ๆ กันค่ะ (คลิกที่ภาพได้เลย)