Release Date
16/10/2020
La Révolution ปฏิวัติเลือด /ช่อง Netflix/ความยาว 8 ตอน
นักแสดงนำ:อามีร์ เอล คาเซม,มาริลู โอส์ซีลซ์,ลิโอเนล เอร์โดกัน/ ผู้สร้าง:โอร์เฮเลียน โมลาส์
Our score
7.4[รีวิวซีรีส์] La Révolution ปฏิวัติเลือด – ซอมบี้เลือดอภิสิทธิ์กับความคับแค้นของผู้คน
จุดเด่น
- ผูกโยงเรื่องซอมบี้กับประวัติศาสตร์ได้น่าสนใจ
- งานสร้างยิ่งใหญ่ดูลงทุนดี
- งานภาพถ่ายได้อย่างมี่ศิลปะมาก
จุดสังเกต
- ค่อนข้างติดเครื่องช้าเพราะต้องปูความเป็นมาของเมือง มองตาจี เยอะพอสมควร
- ตัวละครเยอะมากจนอาจจำทุกคนได้ไม่ง่ายนัก ต้องตั้งใจดู
- ตัวเรื่องใส่หลายปมมากโดยเฉพาะนิมิตรและมนต์ดำที่หลายครั้งพาให้สับสนอยู่เหมือนกัน
- อาจไม่บันเทิงเท่า Kingdom หากหวังซีรีส์ซอมบี้ที่เดินเรื่องเร็ว ๆ มีฉากแหวะ ๆ น่ากลัว ๆ
-
ความสมเหตุสมผลของบทซีรีส์
7.5
-
คุณภาพงานสร้าง
8.0
-
คุณภาพนักแสดง
7.5
-
ความสนุกน่าติดตามในแต่ละตอน
7.0
-
ความคุ้มค่าเวลาในการติดตามชม
7.0
ในห้วงเวลาแห่งความร้อนแรงทางการเมืองของไทยก็เหมือนโปรแกรมฉายของหนังและซีรีส์ออริจินัลของ Netflix จะแหกกาลเทศะมาลงสตรีมมิงแบบไม่ได้นัดหมายทั้งหนังขึ้นโรงขึ้นศาลเกี่ยวกับเหตุประท้วงสงครามเวียดนามที่ชิคาโกใน The Trial of the Chicago 7 และซีรีส์ที่เราจะพูดถึงนี้ก็ดันเอาเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศสมาบิดตีความเล่าใหม่ให้กลายเป็นซีรีส์ทริลเลอร์เสียด้วย
โดยเรื่องย่อ ๆ ของมันก็อิงเค้าโครงประวัติศาสตร์ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เมื่อเหล่าขุนนางต่างพากันเสวยสุขโดยมิได้ปรายตามองประชาชนที่กำลังอดอยาก การประท้วงก่อจลาจลเลยเกิดขึ้นทุกหนแห่ง ควบคู่ไปกับโรคประหลาดอย่าง “เลือดสีน้ำเงิน” ที่กำลังแพร่กระจายระบาดไปถ้วนทั่วโดยฤทธิ์ของมันจะทำให้ผู้ติดเชื้อกระหายเนื้อมนุษย์มากขึ้น แต่ในความมืดมิดยังมี ยอแซฟ กิโยติน (อาเมียร์ เอล คาเซม) พยายามหาทางรักษาโรคร้ายนี้ให้ได้ก่อนมันจะกัดกร่อนทำลายชาติไปมากกว่านี้
ยอมรับล่ะว่าพอเห๋็นอาร์ตเวิร์กที่ซีรีส์ทำออกมาโปรโมตก็ย่อมคาดหวังกับความดุเดือดเลือดพล่าน ซอมบี้ไปกัดขุนนางเหมือนใน Kingdom ซีรีส์ซอมบี้กิมจิเรื่องดังของ Netflix แต่เอาเข้าจริงตัวซีรีส์มันพยายามบาลานซ์เรื่องเล่าที่แต่งใหม่อย่างโรคระบาดที่พยายามไปโยงกับชนชั้นอภิสิทธิ์ชนกับคนที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์แต่ก็แค่ในช่วง 3 ตอนแรกเท่านั้นเพราะหลังจากนั้นซีรีส์จะไปเน้นเรื่องเล่าแต่งใหม่เมื่อคนในวังบางส่วนเริ่มวางแผนกับชาวนาและกลุ่มปฏิวัติเพื่อล้มผู้นำบ้าอำนาจเสียมากกว่า
ซึ่งพอผู้สร้างอย่าง โอร์เฮเลียน โมลาส์ (Aurélien Molas) เลือกจะพาประวัติศาสตร์มาเป็นเครื่องมือในการเล่าเรื่องราวของซอมบี้ชนชั้นแล้วมันก็เลยต้องแลกกับการเล่าเรื่องที่ซับซ้อน ตัวละครมหาศาล แถมมีบทบาทสำคัญ ๆ กันแทบทุกคนแม้แต่แขกมัวร์ก็ยังมีเวทมนตร์ที่ทำให้ ยอแซฟ กิโยติน ได้เห็นนิมิตรที่มาของโรคระบาดเลยด้วยซ้ำ (ยอแซฟ กิโยติน มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ในฐานะคนคิดค้นเครื่องประหารกิโยติน)
ดังนั้นหากใครคิดจะดูคงต้องตั้งใจจดจ่อกับเรื่องราวให้ดี ถ้าจะให้เทียบก็คือมันเหมือนเอา Les Misérables วรรณกรรมก้องโลกมาชำแหละเอาดรามาออกแล้วเพิ่มความอำมหิตของชนชั้นปกครองลงไปนิดเพิ่มความเหนือจริงด้วยเรื่องเวทมนตร์และญาณทิพย์แถมด้วยบทบาทของสตรีที่ทำให้เราเห็นลูกสาวชาวนามาลุกขึ้นนำคนไปบุกทวงความยุติธรรมจากชนชั้นปกครองซึ่งซีรีส์ก็พยายามสะท้อนสิ่งละอันพันละน้อยผ่านสัญลักษณ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ทางอ้อมบนโครงเรื่องของหนังซอมบี้โหด ๆ เรื่องหนึ่ง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส