Our score
7.0[รีวิวซีรีส์] TharnType the Series SS2 : หมอนขาดกระจุยกระจาย บอกแค่นี้
จุดเด่น
- บทมีความต่อเนื่องและไม่ทิ้งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เรียกว่าไม่ปล่อยผ่านจนทำให้เชื่อได้ว่านี่คือชีวิตของคู่ที่รักกันมา 7 ปีได้จริง
- ฉากชวนจิ้นฟินจิกหมอน มีมาเสิร์ฟอย่างไม่ขาดระยะ สายวายจิกหมอนรับรองไม่ผิดหวัง หมอนขาดเป็นใบ ๆ แน่นอน
- ขอชมการแสดงของ มิว กลัฟ โบ๊ทและมายด์ นะคะ มาตรฐานจากซีซันที่แล้วไม่ตกเลยจ้ะสามคนนี้ มีความต่อเนื่องในคาแรกเตอร์ได้ดีมาก
จุดสังเกต
- สะดุดตากับเมกอัพหน้าเนียน ปากเงาที่อดไม่ได้ที่จนต้องขอบอกว่า ขัดใจจริงจ้ะ
- แอกติ้งตัวแสดงหลายตัวยังค้านสายตา คิวบางคิวปล่อยมายังไม่เป็นธรรมชาติ แต่เชื่อว่าจะพัฒนาได้ดีขึ้นในเรื่องต่อ ๆ ไป
-
ความสมบูรณ์ของบท
8.0
-
คุณภาพนักแสดง
6.5
-
คุณภาพการเล่าเรื่อง คุณภาพงานสร้าง
7.7
-
เสื้อผ้าหน้าผม
5.5
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
7.5
ซีรีส์ภาคต่อจาก TharnType The Series เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซะดี ๆ ที่ซีซันแรกทำเอาไว้จนดังไปทั่วประเทศ ลามไปยันทั่วภูมิภาคแถบนี้กันเลยจ้ะ กลับมาในซีซันนี้ พระเอกและนายเอกของเรา ธาร(มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์)หนุ่มนักดนตรีลูกเสี้ยว และไทป์ (กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์) หนุ่มใต้มาดเข้ม ก็รักกันมานานถึง 7 ปีเต็มแล้ว เรียกได้ว่าใช้ชีวิตร่วมกันฉันคู่รักจนเข้าปีที่ 7 หวานกันซะน้ำตาล 3 กิโลกันเลยทีเดียว เบาหวานขึ้นตากันเลยแหละ …เหม็นความรัก
ตอนนี้พวกเขาไม่ได้เป็นนักศึกษาปีหนึ่งอีกต่อไป แต่ทั้งคู่ได้ก้าวเข้าสู่วัยทำงานที่ต้องพบเจอกับสังคมใหม่ ปัญหาใหม่ที่คนวัยทำงานเลี่ยงไม่ได้ เป็นชีวิตจริงที่ยิ่งกว่าในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งสองคนต้องจับมือกันเพื่อผ่านบททดสอบของชีวิตไปให้ได้
เริ่มต้นแบบฟิน ๆ ไม่ต้องจิ้นให้เสียเวลา
สำหรับแฟน ๆ ที่ต่างรอคอยการกลับมาของคู่รักอันดับ 1 ที่ทำเอาติดเทรนทวิตเตอร์โลกคู่นี้ ก็คงสมใจกันไปแล้วแหละจ้ะ ซีรีส์เอาใจแฟนคลับน่าดู เรียกได้ว่าประเคนฉากสวีทหวานให้กรี๊ดกันแบบไม่หยุดหย่อน ดูดดื่มทุกเวลาที่ว่างกันเลยเชียว รักกันปานจะกลืนกิน โดยเฉพาะฉากอาบน้ำที่ไม่อยากจะถูหลังให้เสียเวลา บทซีรีส์นับว่ามีความต่อเนื่องจากภาคแรกแบบไม่หลุดสเกลซะด้วยสิ ถือว่าเป็นการเก็บรายละเอียดภาคต่อได้ดีมาก มีการเท้าความเล็กน้อยด้วยเสียงของไทป์ เปิดตัวด้วยฉากเซ็ตสวยงามชวนฝัน เป็นมุมสวีต สื่อหวาน ๆ กันมาเลยว่าคู่นี้เขาหวานกันเป็นส่วนตัวขนาดไหน
ทำให้เกิดความต่อเนื่องในบริบทของความเป็นจริงที่ว่า สองคนที่รักกันมาตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาปี 1 มาจนถึงเวลานี้ 7 ปีแล้ว ความรักของพวกเขาสุกงอม เบ่งบานฉันสามีภรรยาส่องประกายชัดเจนขนาดไหน ซีรีส์ทำให้เห็นความเป็นส่วนตัวแต่ก็ยังคงเป็นความรักที่แอบซ่อนต่อสังคมภายนอก มีเพียงเขาและคนใกล้ตัวเท่านั้นที่จะเห็นความรักที่น่าหมั่นไส้ของคู่นี้ ฉากเปิดในกระโจมมันเป็นภาพที่สื่อให้คิดไปในทางนั้นอ่ะนะ
ซีรีส์ฟินต่อเนื่องเข้าไปอีกเมื่อบทใส่ความเป็นคู่ชีวิตให้พระ-นาย ออกมาชัดเจน มีความเรียลในชีวิตจริงที่ต่างคนต่างอยากที่จะดูแลกัน เอาใจใส่และเป็นห่วงกัน มีอารมณ์รักแบบสามีภรรยาที่ต้องได้เห็นกันทุกบ้าน อีกคนก็อยากทำนู่นทำนี่ให้ ส่วนอีกคนก็ไม่อยากให้คนที่ตัวเองรักเหนื่อย พระเอกก็ทำตัวให้ต้องบ่นในเรื่องหยุมหยิม ที่พูดจนปากจะฉีกก็ยังทำซ้ำ ๆ อยู่นั่น การทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กน้อยก็มาจ้ะ ถือว่ามีความสมจริงในบริบทชีวิตที่ไม่ปล่อยรายละเอียดเหล่านี้ให้ผ่านไป
แล้วเวอร์ชันนี้ก็ตัดคำว่าแฟนออกไปจาก 2 คนนี้เลยจ้ะ เพราะเขาเรียกกันเมีย ๆ อย่างเต็มปากเต็มคำและเมื่อรักกันมานานถึง 7 ปีเข้าไปแล้ว ด้านฝ่ายธารผู้ซึ่งรับหน้าที่เป็นสามี ก็อยากแต่งงานตามรอยพี่ชายขึ้นมาบ้าง ก็พี่ธร (ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา)กับเจ้าหญิง (รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง) อ่ะแหละที่มาจุดประกาย ปัญหาคาใจของซีซันนี้ก็เริ่มจากจุดนี้ ธารอยากแต่งงานมากเพราะรักไทป์มากเหลือเกิน อยากประกาศให้โลกรู้ว่านี่คือคนรักของฉันคนเดียว แต่ทางด้านไทป์ก็คิดมาก ต่อสายตาคนภายนอกที่จะมองเข้ามา
เป็นการจูงมือมาใช้ชีวิตบนซีรีส์ของตัวเอง
ดูไปดูมาก็เผลอตัวคิดว่าดูชีวิต มิว-กลัฟ ที่จูงมือกันมาใช้ชีวิตในซีรีส์ที่ตัวเองเป็นคู่เอกกันซะอย่างนั้น หมายความว่า 2 คนเล่นกันได้เป็นธรรมชาตินั่นแหละจ้ะ อารมณ์ความรักสวีตแหววต่อเนื่องมาเป็นอย่างดีจากซีซันที่แล้ว จนทำให้คนดูรู้สึกได้ว่า เออ ฉันก็มาติดตามความเป็นไปในชีวิตของพวกเธอ 2 คนนั่นแหละ แต่ 2 คนนี้ก็ไม่เกรงใจเราค่ะ ยังคงหวานออกสื่อให้อิจฉาตาร้อนและเหม็นความรักกันหน้าตาเฉย
แตกต่างกับตัวแสดงอื่น ๆ ที่จะมาเป็นคู่สองคู่สาม ที่ยังคงเห็นได้ชัดว่าเขาเหล่านั้นกำลังมาแสดงละครให้เราดู หลาย ๆ ซีนถึงจะเป็นซีนที่ชวนจิ้น แต่ยังเห็นความเกร็งหรือการปล่อยคิวที่ยังดูไม่เป็นธรรมชาติอยู่ในหลาย ๆ ฉาก ทั้งหมดนี่ไม่นับตัวแสดงที่มาจากซีซันที่แล้วนะคะ เทคโน (สุทธิณัฐ อึ้งตระกูล) นี่ไม่ต้องห่วงในความลื่นไหล ก็ตามมาใช้ชีวิตกับเขาด้วยอ่ะแหละนะ ส่วนแชมป์ (ณภัทร สีนาคล้วน) ก็มีความต่อเนื่องคาแรกเตอร์จากซีซันที่แล้ว แถมยังมีวี่แววว่าจะได้จิ้นกับคู่แชมป์ซะอีกด้วย
สิ่งที่น่าชื่นชมก็คือ ยังคงเป็นซีรีส์ที่แสงชัดสีสวยอยู่เช่นเดิม มาตรฐานตรงนี้ไม่ได้ตกลงไปจากซีซันที่แล้ว โดยเฉพาะมุมกล้องชวนจิ้นต่าง ๆ ยังหวานกว่า จิกหมอนกว่าเหมือน ๆ กับชีวิตคู่ที่พัฒนาไปอีกขั้นของคู่พระ-นาย ความต่อเนื่องส่วนนี้และ mood and tone ขอปรบมือให้ค่ะ
กับการดำเนินเรื่องแบบเป็นชีวิต
ด้วยความที่ซีรีส์มีความเป็นเรียลลิตี้ชีวิตอยู่หน่อย ๆ เขาจะตั้งใจทำให้เป็นแบบนี้รึเปล่าก็ไม่รู้แหละ แต่ 2ep ที่ผ่านมา ทำให้เรารู้สึกเหมือนมีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์ของเขาทั้งคู่ เป็นตาที่สามที่มองผ่านเลนส์แล้วเห็นชีวิตของแต่ละคนแบบเกาะติด การดำเนินเรื่องในบางช่วงสามารถสร้างความรู้สึกร่วมได้ดี แต่การดำเนินเรื่องในหลายช่วงก็ทำให้รู้สึกอึดอัด รอคอย ตัวละครจะพูดอะไร จะทำยังไงต่อไป
สำหรับสายวายตัวแม่อาจไม่รู้สึกถึงภาวะตรงนี้สักเท่าไหร่ เพราะฉากจิ้นฉากอินเลิฟได้ลบทุกอย่างไปหมดแล้ว (อันนี้เดา) มองข้ามไปได้เลยแบบยินยอมพร้อมให้อภัย แต่สายตาของป้าข้างบ้าน ก็ไม่วายที่จะซอกแซก เพราะหลาย ๆ ฉากมันสะดุดตาจนเห็นชัด ไม่ว่าจะเป็นบทพูดของตัวแสดงอื่น ๆ ที่มีบางฉากยังไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร แอกติ้งตัวแสดงหลาย ๆ ตัวที่ยังคงเห็นได้ชัดว่า ถ้าเคี่ยวอีกสักสามสี่เทก น่าจะออกมาเพอร์เฟกต์กว่านี้ โดยเฉพาะเมกอัพที่นวลเนียนของแต่ละนางในเรื่องจ้ะ ณ จุดนี้ขัดใจเมกอัพมาก เป็นการส่วนตัวเลย จะนวลและปากวาวกันไปไหนเนี่ย หน้าหนาวทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ ปากไม่มีวันแตกเพราะเคลือบลิปมันไว้อย่างดี
ความเข้มข้นที่น่าติดตามในตอนต่อ ๆ ไปของเรื่องนี้เห็นจะอยู่ที่อุปสรรคใหม่ที่กำลังตบเท้าเข้ามาท้าทายชีวิตคู่ของ ธาร-ไทป์ ทั้งเรื่องการงานที่มีปัญหากับเจ้านาย ทั้งเรื่อง เฟียซ (ฉลองรัฐ นอบสำโรง) ที่ทำท่าว่าจะมาเป็นมือเลื่อยขาเตียงแบบที่ไม่สนใจว่าจะต้องแย่งของของใครทั้ง ๆ ที่ก็มี เลโอ (พชร สวนศรี) แอบรักอยู่ข้างกายก็กลับไม่มองซะงั้น รวมถึงเรื่องการแต่งงานที่เป็นปัญหาคาใจกับการยอมรับทางสังคมที่ห่วงนักหนานั่นอีก
บวกกับแววสนุกสนานเฮฮา เมื่อเพื่อนรักจอมเจ้ากี้เจ้าการอย่างเทคโน อยากจะช่วยธารขอไทป์แต่งงานให้สำเร็จ น่าจะนำมาซึ่งความซึ้งปนฮาฉบับเทคโนอีกแน่นอน
TharnType the Series SS2 (7 years of loves)
- กำกับ : ปิเก้ ภาสวุฒิ
- เขียนบท : เมย์ อรวรรณ วิชญวรรณกุล
- วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันศุกร์ เวลา 22:45 น. ทางช่องone31
- รับชมย้อนหลังได้ทาง : LINE TV เวลา 23:45 น.
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส