Our score
8.8[รีวิวซีรีส์] Delayed Justice : การกลับมาของอปป้าสายละมุน “ควอนซังอู” กับ คอมเมดี้เสียดสีขบวนการยุติธรรม
จุดเด่น
- บทมีความจิกกัดความเหลื่อมล้ำ ความอยุติธรรมทางสังคม ได้แบบแสบสันสะดุ้งโหยง
- มุกฮาไม่เรี่ยราด เรียกได้ว่ามาแบบละเมียดไม่ฉาบฉวย คลุมทับดราม่าเรียกน้ำตาได้แบบเนียน ๆ
- เรื่องนี้ขายพล็อต ขายบทและความสามารถของตัวแสดงกันเพียว ๆ คุ้มจ้ะ
จุดสังเกต
- Ep แรกปูพื้นตัวละครนานไปนิดแต่ก็ยังน่าติดตามมาก ๆ อยู่ดี
- การเล่าเรื่องในบางช่วง อาจจะต้องทำความเข้าใจตัวละครมาก ๆ อยู่บ้าง แต่ไม่ได้มีผลกับอรรถรส
-
ความสมบูรณ์ของบท
9.0
-
คุณภาพการเล่าเรื่อง
8.0
-
คุณภาพนักแสดง
9.0
-
คุณภาพงานสร้าง
8.0
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
9.9
หากใครเป็นแฟนคลับเกาหลีและดูภาพยนตร์เกาหลีมาตั้งแต่แรกเริ่ม น่าจะจดจำ “ควอนซังอู” กับผลงานภาพยนตร์ที่อยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คนได้ดี ไม่ว่าจะเป็น More than blue(2009) ดราม่าน้ำตาแตก ที่หาคนสมหวังไม่เจอเลยสักคนจนจบเรื่อง Love, So Divine , My Tutor Friend ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ และ Into the Sun หยุดหัวใจไว้ที่ปลายฟ้า ซีรีส์รักโรแมนติกและ Queen of Ambition ดราม่าหนักหน่วง ซึ่งได้เรตติ้งสูงสุดอยู่ที่ 26.7% เมื่อปี 2013
กลับมารอบนี้อปป้าก็มีอายุอานามปาเข้าไป 44 ปีแล้วจ้ะ ความหล่อเหลาก็เป็นไปตามวัยกับบทบาทของ ทนายความผู้รักความยุติธรรม พัคแทยง (ควอนซังอู) เป็นทนายของรัฐที่จบการศึกษาแค่มัธยมปลาย เป็นลูกชายของสัปเหร่อ แต่ฟันฝ่าอุปสรรคจนสอบได้เป็นทนายความสำเร็จและมีความเชื่อเรื่องความฝันของแม่ตัวเองตอนท้องว่ามีมังกรเหาะลงมาจากฟ้า มาเจอกับ พัคซัมซู (แบซองอู) นักข่าวหัวยุ่ง ภายนอกซกมกแต่จิตใจอ่อนไหวและเก่งกาจเรื่องการขยี้ข่าว ที่ถีบตัวเองจากมหาวิทยาลัยบ้านนอกจนเป็นนักข่าวหัวเห็ด
ทั้งคู่ต้องร่วมกันช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกใส่ร้ายให้พ้นผิด “เมื่อกฎหมายตัดสินให้คนบริสุทธิ์กลายเป็นแพะรับบาป ทนายความสุดซ่าและนักข่าวเก๋าเกมเลยต้องมาร่วมมือกันจัดการโดยมิได้นัดหมาย” เรื่องนี้รวมนักแสดงรุ่นใหญ่ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเยอะแยะเลยนะ แต่อาจจะไม่คุ้นชื่อสักเท่าไหร่ (เพราะไม่ใช่พระเอกไง เลยขาดความสนใจไปนิดนึง)
ซีรีส์ขายบทมากกว่าขายนักแสดง
ถึงจะเป็นการคืนจอซีรีส์ของ ควอนซังอู ก็เถอะ แต่เชื่อว่าผู้สร้างไม่ได้หวังเรตติ้งจากตัวนักแสดงสักเท่าไหร่ ก็แหม ยุคนี้นะคะอปป้าสายลุง 40up ที่วนเวียนอยู่ในซีรีส์ มีให้เลือกติดตามเกลื่อนเมืองเลยทีเดียว โซจีซบ จางฮยอก จีซอง โดยเฉพาะ ชาซึงวอน นี่วัยเฉียด 50 ยังจี๊ดอยู่เลย แล้วหลายคนก็อาจจะต้องรื้อฟื้นความละมุนของ ควอนซังอู กันสักพักหนึ่งด้วย เพราะก่อนที่ซีรีส์เรื่องนี้จะออกอากาศ ฮีก็กลับมาคืนจอภาพยนตร์กับ Hitman : Agent Jun ที่เป็นแอ็กชันคอมเมดี้ซะด้วยสิ แถมเรื่องนี้ยังไม่ใช่ซีรีส์โรแมนติกที่จะมีฉากพระนางหวานซึ้ง แต่เป็นคอมเมดี้คู่หูดราม่าซะมากกว่า
สำหรับเรื่องนี้ต้องบอกเลยว่า บทมีความดราม่าสูงมาก ๆ แต่ถูกฉาบไว้ด้วยความเป็นคอมเมดี้แบบไม่สนโลก ประหนึ่งว่าชีวิตของมนุษย์ทุกคนก็มีเรื่องเศร้าและปูมหลังที่เจ็บปวดด้วยกันทั้งนั้น แต่จะทำยังไงล่ะถ้าชีวิตต้องดำเนินต่อไป การยิ้มสู้และมองไปข้างหน้าด้วยเสียงหัวเราะสิจ๊ะ ถึงจะทำให้ชีวิตของเราดำเนินต่อไปได้ ต้องสู้สิจ๊ะถึงจะชนะ!! ทั้ง พัคแทยง (ควอนซังอู)และพัคซัมซู (แบซองอู) ตัวเอกของเรื่องต่างก็มีปูมหลังฝังใจที่เจ็บปวดเกี่ยวกับการกระทำรุนแรงในครอบครัวด้วยกันทั้งคู่ และอีกสิ่งหนึ่งที่มีเหมือน ๆ กันคือเป็นคนที่ไม่รอโอกาสแต่สร้างโอกาสให้ตัวเอง จากคนที่ไร้เส้นสาย พื้นเพธรรมดาจนสามารถสร้างพื้นที่ให้กับตัวเองด้วยฝีมือล้วน ๆ ซึ่งสองตอนแรกของซีรีส์จะเป็นการปูพื้นให้รู้จักตัวละครสองตัวนี้แบบเต็ม ๆ
ด้วยสาเหตุนี้ทั้งสองคนจึงเป็นทนายและนักข่าวคู่หูที่ร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสที่ไม่ได้รับความยุติธรรมตามกฎหมาย โดนกลั่นแกล้งให้เป็นแพะรับบาป เรียกว่าทวงคืนความยุติธรรมจากผู้มีอำนาจที่หวังแต่เพียงผลประโยชน์โดยไม่สนสี่สนแปดกับความเดือดร้อนของผู้บริสุทธิ์ จริง ๆ แล้วซีรีส์เกาหลีแนว ๆ กฎหมาย ทวงคืนความยุติธรรม ที่เล่นกับการเสียดสีอำนาจรัฐ กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลมีเยอะเลยค่ะ หลายเรื่องให้เลือกชมเลยทีเดียว แต่แตกต่างที่รสชาติการนำเสนอในแต่ละเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ก็นำเสนอออกมาได้ไม่แพ้เรื่องไหน ๆ
ปมเหตุและการไขคดีในแต่ละเรื่องดึงดราม่าได้น่าสนใจ
ก็เหมือนซีรีส์แนวกฎหมายหลาย ๆ เรื่อง ที่จะมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เข้ามาให้แก้ไขกันทีละเรื่อง โดยเฉพาะคดีความต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยไหวพริบและความฉลาดรอบของตัวเอก แต่เรื่องนี้คดีความส่วนใหญ่เน้นไปที่ดราม่าแสนบัดซบของเจ้าของคดีต่าง ๆ ที่ดาหน้าเข้ามาให้ช่วยเหลือ แต่ละเคสก็เรียกน้ำตาคนดูได้เลยแหละ ซึ่งคดีแรกที่ซีรีส์เปิดเผยให้เราเห็นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องที่ทำให้เห็นว่า พัคแทยง มีชื่อเสียงจนกลายเป็นทนายคนยากที่มีค่าจ้างต่อคดีเพียงแค่ 3 แสนวอน จนทำให้สารพัดคนยากหลั่งไหลกันมาขอความช่วยเหลือให้เขาว่าความให้
ซึ่งตัวซีรีส์ก็บอกออกมาชัดเจนเลยว่า เปล่าเลยพระเอกของเราไม่ได้อยากว่าความด้วยค่าจ้างแสนถูกขนาดนี้ เพราะเขาก็คือมนุษย์ธรรมดาที่ปากกัดตีนถีบคนหนึ่ง แต่มันเป็นภาวะจำยอมและอดสงสารไม่ได้ต่างหาก เมื่อเขาเริ่มชนะคดีจนสามารถช่วยลูกความให้พ้นผิดที่ไม่ได้ก่อได้ คดีอาญารื้อใหม่มากมายก็เรียงหน้ากันเข้ามา จนเขาอยากจะเป็นกระบอกเสียงของเหยื่อที่โดนอำนาจศาลรังแก หลังจากที่รู้ว่าเขาเปลี่ยนโลกด้วยตัวเองไม่ได้ การร่วมมือกับคนในสื่ออย่าง พัคซัมซู ผู้ซึ่งมีปูมหลังแสนเจ็บปวดแต่ฉาบไว้ด้วยอารมณ์ขันกับทุกสถาณการณ์ แถมยังมีจิตใจอ่อนโยนขี้สงสาร จึงเป็นหนทางที่ฉลุยที่สุด แถมยังได้ อียูคยอง (คิมจูฮยอน) นักข่าวรุ่นใหม่ไฟแรงมาร่วมอุดมการณ์อีกต่างหาก ในมุมนี้ก็จะมีความกุ๊กกิ๊กนิดหน่อยกับคู่นี้นะจ๊ะ
บรรยากาศของเรื่องจะฉาบไว้ด้วยความเป็นคอมเมดี้ที่เป็นตลกร้ายสไตล์เกาหลี บ๊อง ๆ บวม ๆ โอเวอร์แอ็กติ้งกันทั้งเรื่องอ่ะจ้ะ ฮามาก ๆ แต่โดยเนื้อแท้ของซีรีส์จริง ๆ แล้วคือการตามหาความจริงและวิธีการที่จะช่วยแพะรับบาปให้พ้นผิด ดราม่าของแต่ละเคสที่มีปูมหลังน่าหดหู่ เปิดเผยให้เห็นความเหลื่อมล้ำของสังคมเกาหลีที่เสียงของคนจนยังไร้ค่าเสมอในสายตาผู้มีอำนาจ และการได้มาซึ่งอำนาจของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยกลโกง ระบบเส้นสายในกระบวนการยุติธรรมที่ศาลไม่อาจเป็นที่พึ่งของผู้บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นการจะเอาชนะคนเหล่านี้ เราต้องเอาดราม่ามาเล่นให้หนักกว่า ซึ่งซีรีส์ก็ทำให้เห็นว่า การขายข่าวดราม่าน้ำตาแตก แบ่งปันความเศร้าให้ผูัอื่นรับรู้เป็นหนทางสู้ชัยชนะและยังทำเงินได้อีกด้วย (กัดเจ็บจริง ๆ ณ จุดนี้)
ในช่วงนี้สามารถกระชากอารมณ์สะเทือนใจของคนดูออกมาได้แบบเนียน ๆ เลยทีเดียว (มีเสียน้ำตาในบางฉากเลยละจ้ะ) ไม่ใช่ดราม่าเกรอะกรังแบบขอไปที แต่ละเมียดและตั้งใจขยี้ ตั้งใจเสียดสีอย่างจงใจในแบบขำขำ จิกกัดกันแสบ ๆ ชนิดที่คิดตามก็สามารถเข้าโหมดรันทนได้เลย และความร้ายกาจของตัวโกงต่าง ๆ ที่ต้องบอกว่า แหม…รวยขนาดนี้แล้วทำไมยังเลวไม่เลิกอีก…ทำไมนะ แต่ก็ช่างเป็นความเลวที่คุ้นซะเหลือเกินในซีรีส์เกาหลีแนวนี้หลาย ๆ เรื่อง
สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ อาจไม่มีแม่เหล็กที่จะสามารถดึงคนดูให้มาสนใจในคราวแรกได้ เพราะดาราในเรื่องหลุดจากพิมพ์นิยมของยุคสมัยอยู่บ้าง หลายคนก็อาจจะลืม ๆ ความละมุนของ ควอนซังอู ไปซะแล้ว แต่สำหรับแฟนคลับต้องบอกว่า การกลับมาลงซีรีส์ของเขาในครั้งนี้ ไม่ผิดหวังและสมการรอคอย ดิฉันติดหนึบค่ะและดูมันทีเดียว 14 ตอนรวด บวกกับแนวทางของซีรีส์ที่เป็นแนวกฎหมาย ทวงคืนความยุติธรรมและบทที่ต้องบอกว่ามีปมเล็กปมน้อยให้น่าสงสัยและรอคอยการเปิดเผยอย่างน่าสนใจเอามาก ๆ ซะด้วยสิ เพียงแค่นี้ก็คุ้มค่ากับเวลาในการรับชบมาก ๆ แล้ว
Delayed Justice
- แนว : ดราม่าคอมเมดี้ , กฎหมาย , สืบสวนสอบสวน
- กำกับ : ควักจองฮวัน
- เขียนบท : พัคซังคยู
- เวลาออนแอร์ : เสาร์-อาทิตย์ (วันละ 2 ตอน ตอนละ 35 นาที)
- ช่องทางรับชม : VIU (รับชมฟรี 10 ตอนแรก หลังจากนั้นรออีก 1 อาทิตย์จะได้ชมตอนถัดไป)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส