Our score
10.0[รีวิว] The Bad Kids มุมที่ซ่อนอยู่ : ซีรีส์อาชญากรรม ที่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไป
จุดเด่น
- เต็ม 10 ไม่หักเพราะรักมากมาย จับตาดูนักแสดงเด็กให้ดีค่ะ 3 คนนี้ไม่ธรรมดา
- บทดีมาก สามารถขยายพล็อตสั้น ๆ ออกไปได้เป็นเรื่องราวที่ค่อย ๆ ลามไปเรื่อย ๆ จนถึงกาลอวสาน
- ความดีงามต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอยากจะขอยกให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกันไปเลย ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ คนเขียนบท นักแสดง คอสตูม ฉาก เพลงประกอบฯลฯ มงไม่ลงไม่ได้แล้ว
จุดสังเกต
-
ความสมบูรณ์ของบท
10.0
-
คุณภาพงานสร้าง
10.0
-
คุณภาพนักแสดง
10.0
-
คุณภาพการเล่าเรื่อง
10.0
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
10.0
ซีรีส์เรื่องนี้มีชื่อภาษาจีนว่า 隐秘的角落 (Yǐnmì de jiǎoluò) แปลว่ามุมที่ซ่อนอยู่ ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง The Gone Child (坏小孩)เขียนโดย จื่อจินเฉิน เหตุผลของการตั้งชื่อก็คงจะเป็นอะไรให้เราต้องคิดเอาเองกันจริง ๆ เหมือนอย่างเนื้อหาในซีรีส์ที่ตั้งคำถามให้คิดต่อไว้มากมาย
เรื่องนี้เป็นซีรีส์นอกกระแสในบ้านเรานะคะ แต่ทุกสื่อในประเทศจีนกล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมากและยกให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นสุดยอดซีรีส์ที่ใช้คำว่า “Must Watch” แถมเรตติ้งในโต้วป่านยังสูงกว่าปรมาจารย์ลัทธิมารซะด้วยสิ ถึงแม้ว่านักแสดงนำจะเป็น Qin Hao ฉินห่าว พระเอกแถวหน้าของวงการบันเทิงจีนและจูงมือกันไปรับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในเทศกาลภาพยนตร์ที่กรุงเบอร์ลิน กับ หวังจิ่งชุน ก็ตาม แต่แม่เหล็กที่แท้จริงอยู่ที่เนื้อเรื่องและนักแสดงเด็กทั้งสามคนต่างหากล่ะ
The Bad Kids เป็นเรื่องราวของเด็ก 3 คนที่อาศัยอยู่ที่เมืองชายฝั่งของจีน พวกเขาบังเอิญบันทึกภาพเหตุฆาตกรรมไว้ได้อย่างไม่ตั้งใจ ทำให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัย พันพัว ซับซ้อนจนเป็นเหตุให้หลายครอบครัว ได้รับผลกระทบที่เกินจะคาดเดา เหยียนเหลียง (ฉือเผิงหยวน)และผู่ผู่ (หวังเซิงตี้) เป็นเด็กกำพร้าที่หนีออกมาจากสถานสงเคราะห์ เพื่อมาหาพ่อของเหยียนเหลียงที่ติดคุก และหาเงินช่วยเหลือน้องชายของผู่ผู่ที่ป่วยหนัก 2 คนซ่อนตัวจากการตามหาของ เฉินกวนเซิง (หวังจิ่งชุน) เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นห่วงเหยียนเหลียงดั่งลูกหลาน และที่พึ่งที่เหยียนเหลียงนึกถึงได้ก็มีเพียง จูเฉาหยาง (หรงจื่อซาน) เพื่อนสนิทในวัยเด็กเท่านั้น
จูเฉาหยางเป็นเด็กเรียนดี เรียนเก่งขนาดเป็นตัวท็อปของห้องแต่ไม่มีเพื่อน พ่อแม่แยกทางกัน พ่อไปมีครอบครัวใหม่ แม่ทำงานหาเลี้ยงเขาโดยลำพังและไม่มีเวลาให้ เมื่อเด็ก 3 คนมาเจอกันความสนิทสนมจึงเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว 3 คนไปเดินเล่นกันจ้ะ ร้องเพลง ถ่ายคลิปไปตามเรื่อง แต่ทว่าคลิปวีดีโอที่เด็ก ๆ ถ่าย ดันไปติดภาพเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ภาพนั้นคือภาพที่ จางตงเซิง (ฉินห่าว) ผลักพ่อตาแม่ยาย ตกลงมาจากหน้าผา ตายอนาถ เราต้องไปแจ้งตำรวจ! เขาเป็นฆาตกร! นี่คือแวบแรกที่เด็ก ๆ คิดแต่เมื่อความคิดไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ เหตุการณ์บานปลายอันไม่น่าจะเกิด จึงเกิดขึ้นอีกมากมายหลังจากนั้น
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเด็ก ๆ ต้องเข้าไปพัวพันกับฆาตรกร
ซีรีส์เรื่องนี้ใช้พล็อตที่เรียบง่าย แต่ในความง่ายที่ว่ามันมีความยากมากมายอยู่ในนั้น พล็อตเรื่องนี้ไม่นิ่งเลยค่ะและสามารถดิ้นไปได้หลายทาง “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเด็กต้องเข้าไปเห็นเหตุการณ์ฆาตรกรรมและเข้าไปพัวพันกับฆาตรกร” สิ่งที่ซีรีส์ต้องทำก็คือ สร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูในทุก ๆ บริบท สร้างความผูกพันกับตัวละครให้ได้ในระยะเวลาอันสั้น นั่นคือชนะและเขาชนะแล้วซะด้วยสิ เขาทำให้คนดูผูกพันกับเด็ก 3 คน มีเนื้อเรื่องที่เดาไม่ได้ คาดไม่ถึง สงสัย เห็นด้วย ในขณะเดียวกันก็คัดค้านในความคิดของเด็ก
จากจิตสำนึกเริ่มแรกที่เห็นภาพของการฆาตรกรรมแล้วคิดที่จะแจ้งตำรวจ เปลี่ยนแปลงไปสู่การตัดสินใจร่วมกันที่จะใช้โอกาสนี้แบล็กเมล์ฆาตกร เพื่อเงิน 3 แสนหยวน ซึ่งเงินส่วนนี้จะนำไปเป็นค่ารักษาน้องชายของผู่ผู่ การกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเรื่อง ล้วนมีเหตุผล มีที่มาที่ไปจนมีน้ำหนักมากพอที่เราเข้าใจได้ ถ้าเราเป็นเด็ก คิดในมุมมองแบบเด็ก ๆ ไอ้หนูเอ้ย เอ็งกำลังเล่นกับไม้ขีดไฟชัด ๆ ความรู้สึกไม่เห็นด้วยมากมายเกิดขึ้นในความรู้สึก แต่ดันเข้าใจเด็กซะงั้นน่ะ
เงื่อนปมต่าง ๆ ที่ผูกต่อกันเป็นทอด ๆ ดูราวกับว่าจะถูกผูกแล้วผูกอีก เป็นปมต่อปมไม่มีหยุดหย่อน จนสามารถเชื่อได้ว่าเรื่องราวทำนองนี้หรืออาจจะคล้าย ๆ กันนี้ มันเคยเกิดขึ้นกับชีวิตของคนกลุ่มหนึ่งในชีวิตจริง ระหว่างดูบอกเลยว่าไม่ต้องเดาอะไรให้มากความเลยจ้ะ ทำตัวเป็นป้าข้างบ้านที่แอบดูชีวิตของเด็กข้างบ้านไปแบบ ลุ้นระทึกเอาใจช่วยไปนั่นแหละ เพราะการคาดเดาอาจจะเป็นไปแบบผิด ๆ ถูก ๆ สิ่งที่ซีรีส์บอกก็คือ พล็อตสั้น ๆ เท่านี้ถ้าบทไม่ดีเท่ากับฆ่าตัวตายไปได้เลย แต่ขอโทษเถอะค่ะที่เรื่องนี้ฆ่าไม่ตายและทำให้ดาราเด็กในเรื่องส่องประกายเจิดจรัสจนได้รับรางวัล นักแสดงผู้มีศักยภาพที่สุดแห่งปี จาก iQIYI Scream night 2021
ซีรีส์เรื่องนี้มีคำถาม
บทมีการโยนแนวคิดของ เรอเน เดการ์ต นักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ ที่มีชื่อเสียงของโลกเอาไว้ในเนื้อหา จากแนวคิดต่าง ๆ ของ เดการ์ต จากเรื่องเล่าของเส้นกราฟรูปหัวใจ แล้วถามทั้งตัวแสดงและคนดูว่า “คุณเชื่อในโลกแบบไหน” โลกแห่งความเป็นจริงที่ความไว้เนื้อเชื่อใจต้องจ่ายราคา หรือโลกแบบเทพนิยาย และคำถามนี้ยังยิงยาวต่อเนื่อง เกาะติดอยู่ในความคิดไปจนถึงตอบจบของเรื่องกันเลยทีเดียว
ซีรีส์เล่นกับการคาดเดาถึงผลที่จะตามมา ซึ่งแน่นอนว่าการตัดสินใจใด ๆ ก็ตาม มักจะมีผลลัพธ์มากกว่าสองสามผลรอคอยอยู่ แต่ทีนี้มันจะออกมาในรูปแบบไหนกันล่ะ ซีรีส์ไม่ปล่อยให้เราเดาได้ค่ะ แต่ใช้วิธีการทำให้เราเฝ้าติดตามผลลัพธ์นั้นไปด้วยกันซะมากกว่า และเพิ่มบรรยากาศชวนติดตามมากขึ้นไปอีกด้วยซาวด์หลอน ๆ ที่ส่งอารมณ์ซะเหลือเกิน ในจุดนี้ถือเป็นศิลปะของการสื่อสารที่ละเมียดละไมเอามาก ๆ ชอบการสื่อสารเชิงศิลปะของเรื่องนี้มาตั้งแต่ไตเติ้ลเรื่อง เพลง ซาวด์ประกอบที่มันเข้ากับฉากแต่ละฉากอย่างลงตัว จนหาที่ติไม่ได้เลยจริง ๆ
ความดีงามต่าง ๆ เหล่านี้รวมไปถึงนักแสดงนำเด็กทั้ง 3 คน เรื่องนี้ขอไม่ชมผู้ใหญ่ละนะคะ เพราะมาตรฐานฉินห่าว เล่นเรื่องไหนชื่อเสียงของเฮียแกก็การันตีความสามารถอยู่แล้ว แต่เด็ก ๆ นี่สิทำเอาอิชั้นหลงรัก เรียกว่าเด็ก ๆ เขาไม่ได้มาเล่นละครกันหรอก แต่กระโดดเข้ามาใช้ชีวิตกันในละครเลยดีกว่า ฉือเผิงหยวน-หวังเซิงตี้-หรงจื่อซาน 3 คนจูงมือกันมาเป็นเพื่อนรัก ให้เราเห็นมิตรภาพและบอกกับเราว่า สิ่งที่เด็ก ๆ เขาคิด หลายครั้งเขาคิดดีและซื่อสัตย์มากกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก แต่การตัดสินใจบางอย่างที่เกินตัวเขาไป ก็ยังยืนยันกับเราได้อยู่ดีว่า ประสบการณ์เป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิต
ซีรีส์เรื่องนี้มีคำตอบ
มีสัญลักษณ์มากมายที่อาจจะเป็นคำตอบของเรื่องแต่ทำทีเป็นแอบซ่อน จางตงเซิง เป็นคนที่ซ่อนอะไรต่อมิอะไรไว้มากมาย แต่สิ่งที่เขาซ่อนมันอย่างมิดชิดที่สุด คือสิ่งที่อันตรายที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะซ่อนได้ และคำตอบของมันสามารถตอบออกมาได้มากกว่า 1 ข้อซะด้วยสิ เราไม่สามารถจะตัดสิน จางตงเซิง ได้เลยจากสิ่งที่เราเห็น เราเดาความคิดของเขาได้แต่มันจะถูกจริง ๆ หรือเปล่า ตัวละครตัวนี้สามารถสร้างความรู้สึกเกลียดชัง สงสาร เห็นใจให้กับคนดูได้ในคราวเดียวกัน บทดี ๆ เมื่อมาเจอกับนักแสดงคุณภาพและการกำกับที่ไม่ปล่อยผ่าน ผลงานมันก็จะออกมาดีแบบนี้ละเนอะ
บรรยากาศของเรื่องนี้จะพาเราไปอยู่ในยุค 80s – 90s ยุคที่โทรศัพท์มือถือเป็นหน้าจอสีฟ้าและยังมีโทรศัพท์บ้าน ซีรีส์เก็บรายละเอียดบรรยากาศในยุคนั้นได้ดีมาก เหมือนหรือไม่เหมือนบรรยากาศของประเทศจีนในสมัยนั้นไม่ทราบได้ เพราะเราเป็นคนไทยไง แต่ก็เชื่อไปแล้วว่าบ้านเมืองในแถบชายฝั่งของจีน เขตปินไห่ มีหน้าตาเป็นแบบนี้ละมั้ง เพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่ประกอบออกมาเป็นเรื่องราว มันช่างสมจริงจนไม่ต้องจินตนาการให้ยุ่งยาก
ซีรีส์เรื่องนี้จบแบบเปิดความคิดนะคะ เป็นการทิ้งคำถามให้เราคิดต่อไปได้อีกและสามารถถามตอบกันไปได้ชั่วชีวิต เป็นคำถามเดิมที่ย้ำกับเราว่า เขาเป็นคนแบบไหน เราจะเป็นคนแบบไหน แล้วเราจะเชื่อในโลกแบบไหนกัน? พ่วงมากับความจริงที่ว่า คนทุกคนอยากเป็นคนดีและอยากได้การยอมรับด้วยกันทั้งนั้น
The Bad Kids มุมที่ซ่อนอยู่
- แนว : จิตวิทยาอาชญากรรม /ลึกลับ
- เขียนบท : Hu Kun
- กำกับ : Xin Shuang
- จำนวนตอน : 12 ตอน / ตอนละ 30 นาที
- ช่องทางการรับชม : iQIYI ดูฟรีแบบไม่ต้องเป็น VIP
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส