[รีวิว] ดวงใจในมนตรา Ep1-8 : ครบรส ฟินเกินคาด

Our score

9.2

[รีวิว] ดวงใจในมนตรา Ep1-8 : ครบรส ฟินเกินคาด

จุดเด่น

ดำเนินเรื่องเร็วน่าติดตามตั้งแต่ฉากแรก
พระ-นางเคมีดีงาม จิกหมอนกันได้ตั้งแต่ยังไม่ครึ่งเรื่องเลยจ้ะ
ชอบงานกราฟิกที่ใส่เข้ามาในเรื่องเป็นพิเศษ ลงตัว ไม่ขาดไม่เกิน

จุดสังเกต

คอสตูมสวยงาม ถึงจะมีบางจุดที่ดูขัดตาไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วไม่ขี้เหร่

ความสมบูรณ์ของบท

9.0
คุณภาพงานสร้าง

8.0
คุณภาพนักแสดง

10.0
คุณภาพการเล่าเรื่อง

9.0
ความคุ้มค่าในการรับชม

10.0

ละครสลับภพของค่ายนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยจริง ๆ หลังจากที่ บรอดคาซท์ ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับ บุพเพสันนิวาส ก็ทำให้ย้อนรำลึกไปถึงละครพีเรียดเรื่องก่อนหน้าอย่าง กำไลมาศ สะใภ้จ้าว กี่เพ้า สาปภูษา ที่ทำเอาไว้น่าชมเชย เรียกว่าเป็นละครที่อยู่ในใจแฟนละครสายนี้กันเลยละ

มาถึงเรื่องนี้ที่ตั้งความหวังเอาไว้ แต่ก็มีมุมหนึ่งที่ผู้เขียนแอบกังวลในแคสติ้งนักแสดง เพราะจากคาแรกเตอร์ของ พชรและมทิราแล้ว สารภาพตามตรงว่ามองภาพไม่ออกว่าคู่ โน่-ณิ จะทำออกมาได้ถึงอารมณ์และน่าติดตามสักแค่ไหน อาจเป็นเพราะเราไม่เคยเห็นเขาทั้งสองคนจับคู่กันในบทบาทย้อนอดีตก็เป็นได้ แต่หลังจากที่ดูมา 8 ตอน บอกเลยว่าพระนางคู่จิ้นคู่นี้ ผ่านฉลุยในทุกบทบาทได้ง่าย ๆ เลยจริง ๆ ปรบมือ

ดวงใจในมนตราเล่าเรื่องราวของ พชร (โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ) แม่ทัพหนุ่มแห่งเมืองตารวะปุรัม เมืองที่เคยรุ่งเรืองเมื่อ 2,000 ปีก่อน และหายสาปสูญไปจากแผ่นดินจนกลายเป็นตำนานเล่าขาน เขาถูก มทิรา (ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ) หญิงคนรักที่โกรธแค้นในตัวของเขา ใช้มนตร์ดำและกริชกรีดเอาหัวใจของเขาออกมา แล้วสาปให้หัวใจกลายเป็น “เพชรดวงใจนักรบ” ทำให้พชรเป็นอมตะ อยู่อย่างเดียวดายมาตลอด 2,000 ปี และเขาจะลบคำสาปได้ก็ต่อเมื่อได้หัวใจกลับคืนมา

คือสองคนนี้เขารักกัน แต่รักไม่สมหวัง พ่อและพี่ชายของมทิราเป็นกบฎ ส่วนพชรเป็นแม่ทัพใหญ่ผู้ภักดี แน่นอนว่าการเมืองก็เข้ามายุ่งในการมุ้งจนรักพิโรธ มทิราคิดว่าพชรไม่รักเธอเพราะไม่ช่วยพ่อของเธอ “ถ้ารักข้าต้องเลือกข้าสิไม่ใช่เลือกบ้านเมืองและองค์ราชันย์” เธอว่างี้ ความที่โดนพ่อเป่าหูว่าถ้าเขารักเจ้าจริง เขาต้องมาเป็นพวกเรา และความที่นางเป็นธิดาเทวาที่งดงามที่สุดในเมือง ต้องถือครองพรหมจรรย์ แต่ก็ยังทิ้งทุกอย่างเพื่อมารักกับพชรได้ แล้วทำไมพชรไม่เลือกเธอ นางโกรธจ้ะ เสียใจ ผิดหวัง สับสน ทั้งรักทั้งแค้น เลยรับเวทมนตร์ดำ แล้วเข้าสู่ด้านมืดจนสาปพชรในที่สุด

พชร (โตโน่-ภาคิน) พราวพลอย (ณิชา-ณัฏฐณิชา)

เธอเก็บหัวใจพชรไว้กับตัว โดยสาบานเอาไว้ว่าจะตามพชรไปทุกชาติ และทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างจากเธอ ในแต่ละชาติที่ได้เจอมทิราหน้าตาไม่เหมือนเดิม แต่จดจำอดีตชาติได้ทั้งหมด เธอฆ่าตัวตายต่อหน้าเขาทุกครั้ง เพื่อทำให้เขาเจ็บปวดทุกภพทุกชาติ มาถึงปี 2021 พชรในชาตินี้เป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง เป็นเจ้าของเกาะมุกดำ เกาะส่วนตัวที่ใครก็เข้าไปไม่ได้ ในชาตินี้เขาได้เจอกับมทิราอีกครั้ง เธอกลับมาเกิดหน้าตาเหมือนเดิมทุกอย่าง และมีชื่อว่า พราวพลอย ศิลปินผู้ออกแบบงานศิลปะที่โด่งดังแต่เป็นโรคหัวใจมาแต่กำเนิด เขาคิดว่าเธอคือมทิรา แต่พราวพลอยกลับจำอดีตชาติไม่ได้เลยและมีนิสัยที่แตกต่างจากมทิราอย่างสิ้นเชิง จนพชรตกหลุมรักพราวพลอยเข้าเต็มเปา

**รีวิวต่อจากนี้เปิดเผยเนื้อหา บางส่วน

บทบาทที่น่าจับตามองของสองพระ-นาง

สำหรับ ณิชา-ณัฏฐณิชา นี่ไม่ใช่เรื่องแรกที่เธอรับละครพีเรียด จากเพลิงพรางเทียนที่เป็นเรื่องราวสองภพจนผ่านมาถึงเรื่องนี้ ณิชา ได้พิสูจน์ฝีมือให้เห็นแล้วว่า สาวน้อยน่ารักเสียงใสทำอะไรให้เราได้ว้าวกันอีกมาก กับสองคาแรกเตอร์ที่ต่างกันสุดขั้ว ฉากรำถวายเทพเจ้าที่สวยงามจนพระเอกตกหลุมรัก หลายคนเอ่ยปากชมว่างดงามมากนั่นยังไม่เท่าไหร่ค่ะ เจอฉากรำสาปแช่งใน Ep8 เข้าไป อินเนอร์ทั้งรักทั้งแค้นส่งผ่านสายตาท่าทางออกมาเต็ม ๆ ต้องบอกว่ามงลงณิชาที่เรื่องนี้เลยจริง ๆ

ในด้านพระเอกอย่างโตโน่ ถึงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่เห็นโตโน่เล่นพีเรียด แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องแรกที่เป็นละครย้อนไปไกลถึง 2,000 ปี กับลุคของท่านแม่ทัพใหญ่ ยอมรับว่าแปลกตากับการแต่งตัวของโตโน่คราวที่เห็นภาพฟิตติ้ง ใจคิดไปเองว่ามันจะเข้ากับโตโน่เหรอเนี่ย แต่…ด้วยจริตธรรมชาติที่ไม่ทิ้งตัวตนของโตโน่ และการเข้าไปอยู่ในบทบาทที่ได้รับอย่างเต็มร้อย ทำให้ พชร มีชีวิตอยู่บนหน้าจอให้ได้ดูกันอย่างจับต้องได้ เราลืมโตโน่ไปชั่วขณะค่ะเมื่อละครพาเราย้อนกลับไปในยุคอดีต แต่แล้วโตโน่ก็กลับมาให้เราได้จิ้นไปกับสายตาเยิ้ม ๆ ที่มองณิชาได้อีกครั้งในยุคปัจจุบัน เรียกว่าสองคนนี้เป็นพระนางที่เข้าขากันได้เป็นอย่างดี และส่งอินเนอร์มาถึงผู้ชมได้อย่างโดนใจ จนฟินกันแก้มแตกไปแล้วจ้ะ

กับพล็อตย้อนอดีตที่ ทิ้งปมใหม่สร้างปมเก่า

เราเคยชินกับละครย้อนอดีตแนว ๆ นี้มาก็หลายเรื่อง พระเอก-นางเอกกลับชาติมาเกิด ทั้งรักทั้งแค้น ตามเอาคืนกัน คลี่คลายปมต่าง ๆ นานา และสุดท้ายก็รักกันบ้าง เกลียดกันบ้าง แต่เรื่องนี้มีปมหนึ่งที่แตกต่างออกไป แถมบรอดคาซท์ก็สปอยล์เอาไว้แล้วซะอีกด้วย และเป็นสปอยล์ที่หลายคนถ้าดูมาถึง ep8 น่าจะตบเข่าฉาดไปตาม ๆ กันว่านั่นไง ฉันว่าแล้ว

สปอยล์ของบรอดคาซท์ที่ว่านั่นก็คือ การสร้างความสงสัยในความเหมือนของตัวละครสองตัว ที่ต่างชาติภพคือ พราวพลอย และ ลตา (มาริลิน เคท การ์ดเนอร์ ) น้องสาวบุญธรรมของท่านแม่ทัพพชร ในชาติที่แล้ว ที่อยากสวยและมีแต่คนรักอย่างมทิรา หนำซ้ำคือแอบมีใจให้กับพชรเกินกว่าคำว่าพี่ชายจนยอมตายแทนตั้งแต่ชาติที่แล้ว ก็เล่นสปอยล์ไว้แบบเนี้ย เราก็เลยรู้กันเลยว่า พราวพลอยไม่ใช่มทิรากลับชาติมาเกิดอย่างแน่นอน

ในจุดนี้บทสร้างปมขึ้นมาอีกปมหนึ่งแล้วค่ะ ว่าแล้วใครกันที่กลับมาเกิดเป็นมทิราในชาตินี้ เป็นไปได้ไหมที่จะเป็น มัทนี (อัฐมา ชีวนิชพันธ์ ) เลขาคนสนิทของวิภู หรือ คาริสา (ติช่า-กันติชา ชุมมะ)เจ้าของเพชรดวงใจนักรบที่เดินทางมาพร้อมเพชรเพื่อเปิดงานแสดง แต่หัวใจของการตามหาตัวละครตัวนี้คือ เธอจะต้องเป็นคนที่จำอดีตได้อย่างแม่นยำ เชื่อว่าแฟนละครหลายคนอาจจะเดาออก แต่ก็ไม่แน่ที่บทอาจจะหลอกเราไปอีกทาง ถ้าเป็นอย่างนั้นเรื่องนี้ก็จะถือเป็นละครย้อนอดีตที่รสชาติแซบอีกเรื่องหนึ่งเลย และที่มากไปกว่านั้นก็คือ หลายคนในภาพปัจจุบันอาจเป็นคนในอดีตคนไหนสักคนอีก ก็เป็นได้

คอสตูมสวยงามกับการตัดต่อที่ชอบใจ

การทำกราฟิกเป็นภาพคอลลาจ มาสลับในการเล่าเรื่อง ด้วยบทบรรยายปูมหลัง จุดนี้น่าสนใจมาก ๆ ค่ะ อาจไม่ใช่ความแปลกใหม่อะไรนักกับซีรีส์ต่าง ๆ ที่เราเห็นอยู่ในสมัยนี้ ซีรีส์เกาหลี วีรีส์จีน ทำแบบนี้ออกมาเยอะแยะและทำได้ดีจนชื่นชอบ แต่ดวงใจในมนตราถือเป็นละครไทยสลับภพเรื่องแรกที่นำเทคนิคนี้มาใช้อย่างลงตัว เรียกว่าได้จังหวะ ถูกที่ถูกเวลาและทำให้เนื้อหาของละครน่าสนใจมากขึ้น ไม่มากไม่น้อยจนเกินไปและเข้ากับเนื้อเรื่องที่ต้องการสื่อซะด้วยสิ

CG ที่ใช้ในเรื่องนี้เข้าขั้นฉลาดใช้ เรียกว่าประหยัดทรัพยากรมนุษย์อย่างเห็นได้ชัดในฉากสู้รบ ใช้คนน้อยแล้วปล่อยเบลอฉากหลังได้แบบไม่ขี้เหร่ ในทางกลับกันสามารถมองให้เป็นศิลปะการสื่อสารได้เฉยเลย บวกกับแอ็กติ้งตัวแสดงหลัก เสื้อผ้าหน้าผมที่จัดเต็มทำให้ CG ต่าง ๆ ถึงจะดูไม่กลมกลื่นแต่ก็กลายเป็นกลมกล่อมซะอย่างนั้น ที่สำคัญเรื่องนี้ขอชมงานวิกที่พัฒนาดีขึ้นกว่าเรื่องอื่น ๆ ถึงจะยังไม่เนียนเท่างานวิกจีน แต่ก็เนียนตากว่าละครในแนวเดียวกันอีกหลายเรื่องทีเดียวค่ะ แต่ที่อดชื่นชมไม่ได้จริง ๆ ก็ชุดนักแสดงในภพอดีตทุก ๆ คน และพรอปยิบย่อยต่าง ๆ ที่ทำให้ละครเรื่องนี้สมบูรณ์ขึ้นจนรู้เลยว่า ผู้สร้างไม่ได้ปล่อยผ่านและตั้งใจกับฉากอดีตจริงจัง

ดวงใจในมนตรา

ออกอากาศ : ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.23 น. ทางช่อง 3 กด 33
บทประพันธ์โดย : แพรณัฐ
บทโทรทัศน์โดย : ปิยรส สุนทรวิภาต/กุศลิน เมฆวิภาต/ภูธิดา หน่อสวรรค์/วิมลรัตน์ สระแก้ว
กำกับการแสดงโดย : ภวัต พนังคศิริ/ษรัณยู จิราลักษม์
ผลิตโดย : บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ควบคุมการผลิตโดย : หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธ์

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส