Release Date
23/04/2021
Episodes
8 Episodes
Network
Netflix
Show Runner
Eric Heisserer
Cast
Jessie Mei Li, Ben Barnes, Archie Renaux
Our score
8.5[รีวิวซีรีส์] Shadow and Bone ตำนานกรีชา – ซีรีส์แฟนตาซีที่มีนักแสดงทำเอาใจบางมากที่สุด
จุดเด่น
- เป็นซีรีส์แฟนตาซีที่วางโครงเรื่องได้ชาญฉลาด ดูสนุก เดินเรื่องเร็ว และเล่าเรื่องซับซ้อนให้เข้าใจง่าย
- เจสซี่ เมย์ ลี และ เบน บาร์นส์ โดดเด่นมากทั้งลุคในซีรีส์และฝีมือการแสดง สมกับเป็นศูนย์กลางของซีรีส์
- งานออกแบบงานสร้างสไตล์อาณาจักรรัสเซียทำได้อลังการและสวยงามมาก
- สเปเชียลเอฟเฟกต์ทำได้ดีมาก ไม่บ้ง
จุดสังเกต
- ช่วงตอน 3-5 ซีรีส์จะปรับโทนเล่าเรื่องราวโรแมนติกมากขึ้นแต่ไม่ถึงกับทำให้เรื่องราวดูย้วยมากนัก
- มีฉากที่อ้างอิงการมีเซ็กส์ ไม่ควรปล่อยให้เยาวชนชมตามลำพัง
-
ความลงตัวของบทซีรีส์
8.1
-
คุณภาพงานสร้าง
9.0
-
คุณภาพนักแสดง
8.5
-
ความน่าติดตามในแต่ละตอน
8.5
-
ความคุ้มค่าเวลาในการติดตามชม
8.5
สรุปประเด็นเด่น
- ‘Shadow and Bone’ เป็นนิยายของนักเขียน ลีห์ บาร์ดูโก (Leigh Bardugo) นักเขียนลูกครี่งชาวอเมริกัน อิสราเอลที่สร้างอาณาจักรราฟกาฉากหลังของเรื่องโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาณาจักรรัสเซียต้นยุค 1800
- เป็นไปไม่ได้เลยที่ตัวซีรีส์จะไม่ถูกเปรียบเปรยกับ ‘Game of Thrones’ ทั้งงานสร้างและเรื่องราวที่มีการแก่งแย่งอำนาจกันระหว่างอาณาจักรราฟกาตะวันตกและราฟกาตะวันออก ซึ่งตัว ‘Shadow and Bone’ เองก็มีศักยภาพพอจะเป็นทายาทของ ‘Game of Thrones’ ได้ไม่ยากเลย
- นอกจากนี้มันยังหยิบจับองค์ประกอบที่เคยทำให้นิยายและหนัง ยัง อดัลท์ (Young Adult – YA) หรือนิยายขายวัยรุ่นประสบความสำเร็จมาหยอด ๆ เพิ่มรสชาติได้อย่างฉลาดทั้งความโรแมนติกที่มีกลิ่นของ ‘Twilight’ หรือกระทั่งเรื่องราววัยรุ่นกับเวทมนตร์ที่สืบสานมาจาก ‘Harry Potter’ โดยตรง
- และที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือนี่เป็นซีรีส์ที่รวมวัยรุ่นหน้าตาดีไว้เพียบและแต่ละคนก็มีศักยภาพจะได้แจ้งเกิดกันทั้งนั้น
- แต่ต้องเตือนคุณพ่อคุณแม่ไว้นิดนึงนะครับว่าในซีรีส์มีฉากที่อ้างอิงถึงการมีเพศสัมพันธ์อยู่บ้างไม่ควรปล่อยให้ชมเพียงลำพัง
สงครามแบ่งแยกอาณาจักรราฟกากำลังคุกรุ่นและอำนาจมืดกำลังแผ่ขยายอาณาเขต อาลินา สตาร์คอฟ (เจสซี่ เมย์ ลี Jessie Mei Li) สาวนักวาดแผนที่ได้ค้นพบว่าเธอเป็นผู้เรียกสุริยะ หนึ่งในกรีชาหรือนักเวทที่ทรงพลังที่สุดจากการติดตามมัลเยน โอเร็ตเซฟ หรือ มัล (อาร์ชี่ เรโนซ์ Archie Renaux) เพื่อนชายคนสนิทที่เธอแอบมีใจเดินทางข้ามผ่าน “แดนพยับเงา” ดินแดนแห่งความมืดมิดสุดอันตราย อาลินาต้องปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตใหม่ในวังโดยมีนายพลคิริแกน (เบน บาร์นส์ Ben Barnes) กรีชาเจ้าแห่งความมืดคอยดูแลจนเธอเผลอมีใจให้เขา
ในขณะเดียวกัน 3 หัวขโมยกลุ่มโคร์วคลับอย่างคาซ เบร็คเคอร์ (เฟรดดี้ คาร์เตอร์ Freddy Carter) กุนซือขาเป๋ เจสเปอร์ ฟาฮีย์ (คิต ยัง Kit Young) มือปืนหนุ่มพราวเสน่ห์ที่ไม่เคยยิงพลาดเป้า และ อิเนจ (อมิตา สุมาน Amita Suman) กรีชาผู้มีความสามารถในการซัดมีดบินแม่นราวจับวาง พวกเขาเดินทางจากเคตเทอร์ดามสู่พระราชวังน้อยเพื่อหวังชิงตัวอาลีนาในฐานะกรีชาผู้เรียกสุริยะแลกเงินรางวัล
ส่วนอีกฟากของอาณาจักร นีนา เซนิก (แดเนียล กัลลิแกน Danielle Galligan ) กรีชาผู้มีอำนาจในการเปลี่ยนจิตใจคนถูก แมตไธอัส (คาลาฮาน สคอกแมน Calahan Skogman) ชาวเคิร์ตช์ผู้เกลียดกรีชาเข้ากระดูกดำจับตัวไปเพื่อรอประหารแต่หลังจากเรืออัปปาง ทั้งคู่จำต้องใช้ชีวิตร่วมกันและคู่กัดก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปกลายเป็นคู่รักแต่ทั้งคู่ก็ต้องหนีการตามล่าจากทางการเพราะความขัดแย้งในอาณาจักรราฟกา
จากพลอตเรื่องด้านบนหากผู้สร้างอย่าง เอริก ไฮเซอร์เรอร์ (Eric Heisserer) คิดจะเล่าเรื่องราวสัก 20 ตอนก็ยังเอาอยู่ แต่พอโจทย์ของซีซันแรกคือ 8 ตอนนั่นทำให้เราได้เห็นฝีมือของไฮเซอร์เรอร์ในการคุมทิศทางเรื่องราวที่ซับซ้อนนี้ได้อย่างชาญฉลาด โดย 2 ตอนแรกเขาจะให้ความสำคัญกับพลอตหลักอย่างอาลินากับการค้นพบการเป็นกรีชาของตัวเองพอ ๆ กับเรื่องราวของ 3 โจรกลุ่มโคร์วที่พยายามเดินทางข้ามแดนพยับเงา
ซึ่งมันทำให้คาแรกเตอร์หลักได้รับการปูจนคนดูผูกพันดีแล้วในตอนที่ 3 ถึงค่อยแทรกเรื่องของนีนากับแมตไธอัสเข้ามาเติมด้านโรแมนติกคอมเมดีให้เรื่องราวไปพร้อม ๆ กับฉากการรำพึงรำพันถึงคนรักผ่านการเขียนจดหมายของอาลินากับมัล ซึ่งทำให้ซีรีส์เล่าเรื่องในส่วนนี้ได้อย่างกลมกล่อมมากแม้เรื่องราวของนีนาจะแทบไม่มีผลกับพลอตหลักในซีซันแรกเท่าไหร่แต่ด้วยความฉลาดของ ไฮเซอร์เรอร์ก็ทำให้มันลงตัวได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่กระนั้นสิ่ิงที่ต้องชื่นชมมาตั้งแต่ฉบับนิยายของ ลีห์ บาร์ดูโก ก็คือการแทรกเรื่องราวการเมืองในอาณาจักรราฟกาที่เข้มข้นไม่แพ้นิยายรุ่นพี่อย่าง ‘Game of Thrones’ ที่กลายเป็นซีรีส์ฮิตไปก่อนหน้านี้ รวมไปถึงการกล่าวเรื่องชนชั้นที่ ‘Shadow and Bone’ ก็ดูจะได้อิทธิพลของ ‘Harry Potter’ มาไม่น้อยเลยทีเดียวโดยเฉพาะการใส่ตัวละครกรีชาขี้อิจฉาอย่าง โซยา (สุจายา ดาสกุปตา Sujaya Dasgupta) ที่คอยตอกย้ำสถานะเด็กกำพร้าของอาลินาตลอดเวลาซึ่งแม้จะไม่ใช่ของใหม่สำหรับนิยายวัยรุ่นยุคนี้แต่ก็ถือว่านำมาปรับใช้ให้เรื่องราวเข้มข้นได้อย่างลงตัว
ด้านงานสร้างซีรีส์ได้โจนาธาน แมกคินสทรี (Jonathan Mckinstry) ที่เคยออกแบบทั้งยุคโกธิกเท่ ๆ ในซีรีส์ ‘Penny Dreadful’ของช่อง Showtime และโลกอนาคตสุดหม่นใน ‘Raised by Wolves’ ของ HBO มาออกแบบงานแฟนตาซีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาณาจักรรัสเซียได้อย่างสวยงามและแปลกตา ซึ่งมันทำให้โลกที่ ลีห์ บาร์ดูโก ผู้เขียนนิยายสร้างไว้มีชีวิตและขับเน้นอารมณ์ของเรื่องราวได้เป็นอย่างดี
และจะไม่ชมก็ไม่ได้คือการแคสต์นักแสดงที่ใช่มาก ๆ โดยเฉพาะ เจสซี่ เมย์ ลี นักแสดงสาวชาวอังกฤษลูกครึ่งฮ่องกงที่เคยผ่านงานแสดงละครเวทีเวสต์เอนด์อย่าง ‘All About Eve’ มาแล้ว ซึ่งทำให้ลีไม่ใช่เพียงนักแสดงสาวหน้าเก๋ที่จะมาโชว์แค่ความสวยงามเท่านั้นและบทอาลินาก็ช่วยยืนยันฝีไม้ลายมือของเธอได้อีกครั้ง
และแม้ซีรีส์จะเต็มไปด้วยหนุ่ม ๆ สาว ๆ หน้าตาดีมากมายแค่ไหนแต่ความหล่อของ เบน บาร์นส์ อดีตเจ้าชายแคสเปียนจาก ‘The Chronicle of Narnia : Prince Caspian’ ก็เปล่งประกายจนเหล่าวัยรุ่นหน้าตาดีก็ไม่อาจกลบรัศมีได้ ซึ่งหากใครได้ดูฉากที่นายพลคิริแกนมาคอยเทียวไล้เทียวขื่ออาลีนาก็คงเข้าใจได้ไม่ยากทำไมเด็กสาวอย่างเธอถึงใจแตกและลืมรักครั้งแรกได้รวดเร็วเหลือเกิน ฮ่าาาา
แต่กระนั้นบรรดานักแสดงวัยรุ่นที่มาร่วมจอกันในซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังถือว่าทำหน้าที่ได้ดีและน่าจดจำกันทุกคนตั้งแต่ อาร์ชี่ เรโนซ์ ในบทมัลที่แม้จะโดน “น้าบาร์นส์” กลบรัศมีมากไปหน่อยแต่ด้วยร่างกายกำยำและความสามารถในการเล่นคิวบู๊ก็น่าจะทำให้ซีซันต่อ ๆ ไปยังมีโอกาสกลับมาเก็บคะแนนนิยมต่อสาว ๆ อยู่ แต่ทีมนักแสดงที่ต้องถือเป็น MVP ของซีรีส์จริง ๆ ก็คงหนีไม่พ้นเหล่าโจรนามโคร์วคลับนี่แหละ
โดยเริ่มจากเฟรดดี้ คาร์เตอร์ในบทคาซ กุนซือจอมเจ้าเล่ห์ที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์สูง ซึ่งคาร์เตอร์ก็ทำหน้าที่ได้ดีมากคนดูจะดูไม่ออกเลยว่าคาซคิดยังไงและต้องคอยลุ้นตลอด ส่วนคิต ยังหนุ่มพราวเสน่ห์ในบทนักแม่นปืนอย่างเจสเปอร์ก็น่าจะถูกใจชาว LGBTQ+ ได้ไม่ยากแถมยังมีฉากเลิฟซีนสุดร้อนแรงกับหนุ่มเลี้ยงม้าให้สาว ๆ หนุ่ม ๆ ได้กรี๊ดกร๊าดกันด้วย
ในขณะที่ อมิตา ซูมาน ในบท อิเนจ กรีชาฤทธิ์มีดบิน สุจายา ดาสกุปตา (Sujaya Dasgupta) ในบทโซยา กรีชานักเรียกวายุ และ แดเนียล กัลลิแกน ในบทนีนา เซนิก กรีชาจอมบังคับใจ ต่างก็แสดงฝีมือการแสดงได้อย่างน่าสนใจเพียงแต่อาจได้โอกาสบนจอน้อยไปหน่อยซึ่งก็ต้องคอยลุ้นในซีซันต่อไปว่าพวกเธอจะได้เวลาบนจอมากขึ้นหรือไม่
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส