Our score
8.4[รีวิว] Dare To Love ให้รักพิพากษา : รอมคอมต่างวัย ชวนจิ้นฟินสองคู่
จุดเด่น
- เป็นรอมคอมเฮฮาที่โรแมนติกด้วยบรรยากาศและบทของคู่เอกคู่รอง ที่งานนี้มีจิ้นคู่จ้ะแต่อาจเผลอเทใจให้คู่รองได้ง่าย ๆ
- พีค กองทัพ สอบผ่านมาก ๆ กับการแสดงเรื่องแรกที่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ และการได้พิ้งกี้ มารับบทคามีเลียช่างเหมาะเหม็ง สมบทสมมง คุณค่าที่เธอคู่ควร
- ไม่ผิดหวังกับเบลล่า และอู๋ ธนากร ที่ฝีมือของทั้งคู่การันตีความเป๊ะ อยู่ตัวอยู่แล้วสำหรับนักแสดงสองคนนี้
จุดสังเกต
- ในความที่เป็นละครคอมเมดี้ ความเกินเบอร์ของแอ็กติ้งนักแสดงในบางฉาก ล้นจนไม่ขำ และพาลนึกไปว่าถ้าลด ๆ ลงมาหน่อยจะดีกว่านี้เอามาก ๆ
- การเล่าเรื่องในบางช่วงบางตอนให้ความสำคัญกับคู่พระ-นางจนทิ้งห่าง เรียกว่าทิ้งตัวละครตัวอื่นไว้ข้างหลัง จนเห็นชัดถึงการขยี้ที่คู่นี้มากจริง ๆ
-
ความสมบูรณ์ของบท
7.5
-
คุณภาพงานสร้าง
8.0
-
คุณภาพนักแสดง
9.0
-
คุณภาพการเล่าเรื่อง
7.5
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
10.0
เรื่องราวของ ‘ทิชากร’ (เบลล่า ราณี) ทนายความสาว ที่สวยและเก่งมาก เพียบพร้อมทุกอย่างแต่โสด!! ถึงแม้มีผู้ชายหลายคนเข้ามาจีบทิชา แต่ทิชาไม่สนใจเรื่องความรักอีกเลยตั้งแต่เลิกกับ ‘นรา’ (อ้น สราวุธ) แฟนเก่าไปแบบจบไม่สวย เป้าหมายของเธอก็คือ การคว้าตำแหน่งพาร์ตเนอร์หญิงคนแรกของบริษัทรอสแอนด์ฮาร์วี่ย์มาเป็นของเธอให้ได้ ซึ่งงานนี้มีคู่แข่งคนสำคัญที่จะชิงชัยในตำแหน่งนี้ด้วยกันกับเธอคือ ‘คามีเลีย’ (พิ้งกี้ สาวิกา) ทนายความสาวสวยที่เก่งมากอีกคนหนึ่งของบริษัทฯ ที่จริงจังเรื่องงานและจับพิรุธคนเก่ง
‘คุณนายชุมพร’ (ใหม่ นัฏฐา) แม่ของทิชาก็อยากจะให้ทิชาตกร่องปล่องชิ้นกับใครสักคน แต่จนแล้วจนรอดทิชาก็ทำให้แม่ผิดหวังมาตลอดจนกระทั่ง ‘เบนจามิน’ หรือ ‘บอสเบน’ (อู๋ ธนากร) MD ของบริษัทฯ มาขายขนมจีบกันดื้อ ๆ ชนิดที่ออกตัวแรงชัดเป๊ะ แต่งานนี้บอสเบนก็มีคู่แข่งเข้าจนได้เมื่อ ‘คิว’ (พีค กองทัพ) เข้ามาเป็นเด็กฝึกตั๋วทนายของบริษัท และหนุ่มหน้ามนคนนี้ก็ทำให้ทิชาหวั่นไหว
เมื่อทนายทิชาสวมวิญญาณอีเรียมซิ่ง
สำหรับใครที่ตั้งเป้ามาดูเรื่องนี้และพกความหวังมาด้วยว่า จะได้เห็นละครเกี่ยวกับการว่าความ สืบคดี ซักค้านในศาลกันถึงพริกถึงขิงแบบซีรีส์เกาหลีแล้วละก็ คุณจะผิดหวัง เพราะให้รักพิพากษาเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ชัดเจน แต่ถ้าหากคุณอยากผ่อนคลาย อยากเติมความกระชุ่มกระชวยให้ชีวิต เรื่องนี้ตอบโจทย์กระตุ้นต่อมอารมณ์สุขสดชื่นของคุณได้ดีเลยทีเดียว
เบลล่า ราณี เล่นเรื่องนี้ได้ไม่ตกฟอร์มแต่ด้วยบทและคาแรกเตอร์ก็อาจจะทำให้เราเอ๊ะอ๊ะอยู่สักหน่อย ว่านี่อีเรียมซิ่งมาเข้าสิงทนายทิชาหรืออย่างไร เพราะหลาย ๆ ฉากที่สร้างความขำและไม่ห่วงสวยของนางเอก เหมือนอีเรียมมาเองยังไงยังงั้น ซึ่งละครแนวนี้ก็แน่นอนว่าบทต้องมีความเกินเบอร์ เวอร์วังในการแสดงอารมณ์กันไปบ้าง อันนี้เข้าใจล้วน แต่เมื่อยังอยู่ในความเข้ากันดีกับบทและบรรยากาศโดยรวม จึงทำให้เรื่องนี้เป็นละครที่เล่าเรื่องหนัก ๆ ให้เป็นความเบาสมองได้กลมกลืน
กับการแสดงเรื่องแรกของพีค ในบทนี้ถือว่าเหมาะสมเป็นธรรมชาติและลื่นไหลไม่ขัดตา นางเอกเป็นทนายที่ว่าความคดีครอบครัวมาแล้วนับไม่ถ้วน ส่วนพระเอกนั้นเพิ่งจะเป็นทนายฝึกหัดเข้ามาฝึกตั๋วทนาย กระดูกคนละ พ.ศ. ทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ ถือเป็นการแคสติ้งที่ลงตัวด้านความห่างของอายุ ส่วนจะตกสาว ๆ ทางบ้านได้รึเปล่านั้นอันนี้แล้วแต่รสนิยม แต่สำหรับผู้เขียนนั้น โดนตกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และอีกหนึ่งตัวแสดงที่หากจะไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะการมาของเธอในครั้งนี้แม่มาฟาดไปเต็ม ๆ กับบทของคามีเลียทนายสาวมาดนิ่ง พิ้งกี้แล่นบทนี้ได้เข้ามือและโดดเด่นเอามาก ๆ สมกับเป็นทนายคู่แข่งของนางเอกและแน่นอนว่า เธอเปรียบเสมือนนางเอกอีกคนหนึ่งของเรื่อง ที่ถึงจะเป็นคู่รองประกบกับอู๋ ธนากร แต่ความโดดเด่นของบทและฝีมือการแสดงที่อดปากชมไม่ได้ ก็ทำให้คู่รองของเรื่องนี้มีคนเชียร์อยู่ทางบ้านกันคึกคัก
บรรยากาศโรแมนติกในอารมณ์คอมเมดี้
เรื่องนี้เป็นรอมคอมชัดเป๊ะ ที่หนักไปทางคอมเมดี้ซะด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ลืมที่จะใส่ความโรแมนติกเข้ามาตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ มุมกล้อง แสงสีที่จงใจย้อมให้ฟุ้งฝันหวานแหวว ราวกับดูซีรีส์เกาหลีอยู่ก็ไม่ปาน แต่เป็นบรรยากาศบ้านเราในมุมกล้องใหม่ ที่เปลี่ยนความทรงจำเดิม ๆ ให้กลายเป็นมุมใหม่ได้น่าดู สร้างความคุ้นชินใหม่ แสงสีใหม่ ๆ สำหรับละครไทย ที่ตั้งใจดึงอารมณ์รับรู้ของแฟนคลับให้มาหยุดอยู่หน้าจอได้มากขึ้น
ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความต่างของสองคู่ ทิชา-คิว และ คามี่-บอสเบน เป็นสีสันให้คนดูได้สลับขั้วอารมณ์กันโช๊ะชะ งานนี้เราไม่ต้องลุ้นกันเลยว่าทนายทิชาจะไปรอดกับบอสเบนหรือเปล่า หลังจากที่ตกลงจะศึกษาดูใจกันไปก่อน เพราะเราเห็นแววแล้วว่าไม่รอดแน่ ๆ ก็ถ้าเคมีจะสลับขั้วกันขนาดนี้คงไม่ต้องลุ้นกันให้เมื่อย แต่มาลุ้นกันดีกว่าว่า บอสเบนกับคามี่ จะลงเอยกันอีท่าไหนเพราะหลายเสียงต่างลุ้นกับบทเข้าพระเข้านางของคู่นี้กันเกรียวกราว
ซึ่งอู๋ ธนากร ก็สวมบทบาทนี้ได้อย่างเข้าง่าม เป็นบอสเบนที่ภูมิฐานสมฐานะและตำแหน่ง และเข้ากันดี๊ดีกับพิ้งกี้ ที่เป็นคามีเลียได้สวยหยด แถมยังเพียบพร้อมไปทุกสิ่ง ในบทเข้าพระเข้านางของคู่รองคู่นี้ พิ้งกี้เล่นได้น่าเอาใจช่วยมาก ๆ ก็ถ้าบอสจะซื่อบื้อขนาดนี้ไม่น่ามีสาวสวยมาแอบรักเลยจริง ๆ แต่ความโรแมนติกของเรื่องนี้ก็มาคู่กับดราม่าที่อบอุ่น ในส่วนความสัมพันธ์ของ ‘พ่อพงษ์’ (กบ ทรงสิทธิ์) พ่อเลี้ยงเดี่ยวที่เลี้ยงคิวมาโดยลำพัง เพราะภรรยาทิ้งไปมีสามีใหม่ ในส่วนนี้มีความอบอุ่นเล็ก ๆ ที่ทำให้เห็นว่าพ่อไม่ได้เอาความบอบช้ำของตัวเอง มาตัดสินความรักของลูก
ดูสนุก ดูเพลินและมีความจิ้นได้สองอารมณ์ ดราม่ามีหน่อย ๆ พอกล้อมแกล้ม แต่ความฮาและความฟินมีมากมาย มีความเกินเบอร์เยอะแยะแบบตั้งใจ แต่เคมีพระ-นางเข้ากันดี๊ดีแบบสอบผ่าน แถมด้วยเคมีคู่รองที่เผลอ ๆ จะจิ้นหนักมากกว่าคู่เอกซะด้วยซ้ำ
Dare To Love ให้รักพิพากษา
- แนวละคร : โรแมนติกคอมเมดี้
- บทประพันธ์ : ทิพย์สุดา ปิยะพันธ์
- บทโทรทัศน์ : ศักดิ์ชาย เกียรติปัญญาโอภาส
- กำกับการแสดง : วุ้น-ทรงศักดิ์ มงคลทอง
- ผลิต : ชลลัมพีโปรดั๊กชั่น
- วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น.
- ช่องทางรับชม : ทางไทยทีวีสีช่อง 3, กด 33 และ NETFLIX
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส