Squid Game ซีรีส์แนวเอาชีวิตรอดจากเกาหลีใต้ กำลังสร้างปรากฏการณ์อยู่ในขณะนี้ ด้วยการขึ้นแท่นซีรีส์เรื่องแรกจากเกาหลีใต้ที่ฮิตไปทั่วโลก บวกกับการจบแบบทิ้งปริศนาไว้ ด้วยเหตุที่ซีรีส์ฮิตระเบิดระเบ้อถึงขนาดนี้ แน่นอนว่า Netflix จะต้องไฟเขียวให้ทำซีซัน 2 อย่างเร็ววัน ทำให้ ฮวังดงฮยอก (Hwang Dong-hyuk) ผู้สร้างสรรค์ซีรีส์และควบตำแหน่งกำกับ-เขียนบทอีกด้วย ต้องตอบคำถามสื่อมวลชนถึงไอเดียที่เขามีกับซีซัน 2 ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งดงฮยอกก็เปรย ๆ ไว้ว่า เขาคิดแนวทางไว้บ้างแล้วว่า จากซีซันแรกที่เน้นไปที่ผู้เข้าแข่งขัน แต่ซีซัน 2 นั้นเรื่องราวจะเน้นไปที่ตัวละครสำคัญก็คือ The Front Man ผู้ควบคุมเกมซึ่งอยู่ภายใต้หน้ากากดำ และยังคงไม่มีการเปิดเผยตัวตน
“ตอนที่ผมเขียนซีซันแรกอยู่นั้น ผมก็คิดไว้บ้างแล้วล่ะว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไรในซีซัน 2 ถ้าผมต้องทำต่อเนื่องกัน ฉะนั้นเรื่องราวก็น่าจะเกี่ยวกับ the Frontman”
the Frontman รับบทโดย ลีบุงฮุน (Lee Byung-hun) นักแสดงเกาหลีใต้อีกคนหนึ่งที่ได้ไปฮอลลีวูดมาแล้วใน Terminator Genisys ในซีซัน 2 นี้ The Front Man ยังคงเปิดตัวภายใต้ภาพลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากดำ เมื่อเรื่องราวเดินหน้าไปก็จะค่อย ๆ เผยตัวตนของเขามากขึ้น ตัวจริงของ The Front Man ก็คือ ฮวังอินโฮ พี่ชายที่สาบสูญไปของ ฮวังจุนโฮ นายตำรวจที่แอบซุ่มเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมเกมเพื่อตามหาพี่ชายของเขานั่นเอง และฮวังอินโฮผู้นี่นี่แหละที่เคยเป็นผู้ชนะเลิศในเกมครั้งก่อนหน้า แต่จากผู้ชนะแล้วกลายมาเป็น The Front Man ได้อย่างไรนั้น ก็ต้องติดตามปริศนาข้อนี้กันในซีซัน 2
ส่วนหนึ่งที่มีผลต่อความสำเร็จของ Squid Game ก็คือเนื้อหาที่สอดแทรกการวิพากษ์สังคมในระบบทุนนิยม บวกกับความโหด เลือดสาด ของแต่ละเกมที่ดำเนินไป ถึงแม้ว่าซีซัน 2 จะมุ่งเน้นไปที่ตัว The Front Man ก็ตาม ฮวังดงฮยอก ก็ยังยืนยันว่าเนื้อหาของซีรีส์จะยังคงจุดเด่นในการวิพากษ์สังคมต่อไป แต่จะเล่าผ่านสายตาของทางฝั่งตำรวจแทน
“ผมว่าปัญหาในการทำงานของตำรวจนี่เป็นเหมือนกันทั่วโลกนะ ไม่ใช่แค่เฉพาะในเกาหลีใต้ ผมเคยดูข่าวต่างประเทศผมก็เห็นว่าเวลามีเหตุร้ายอะไรตำรวจก็ทำงานกันช้ามาก สถานการณ์มักแย่ลงจำนวนเหยื่อเพิ่มมากขึ้นในแต่ละเหตุการณ์ก็เพราะตำรวจมักทำงานกันไม่เร็วพอนี่ล่ะ ปัญหาตรงจุดนี้ล่ะพี่ผมอยากจะหยิบยกขึ้นมาพูด บางทีในซีซัน 2 นี่ล่ะ ที่ผมจะพูดถึงเรื่องนี้มากขึ้น”