[รีวิว] กะรัตรัก : เมื่อองค์แม่มาเองแล้วจะไม่ครื้นเครงได้ยังไง

Our score

8.0

[รีวิว] กะรัตรัก : เมื่อองค์แม่มาเองแล้วจะไม่ครื้นเครงได้ยังไง

จุดเด่น

ตัวละครมีมิติจับต้องได้และนางร้ายทำเอาตะบะแตกแบบมีเหตุผล
เมื่อแอน ทอง มาประชันกับ เจมส์ จิ นอกจากฟินแล้วยังคุ้มกับฝีมือการแสดงที่ต้องยกนิ้วให้
บทเรื่องนี้ดูเผิน ๆ อาจจะธรรมดา แต่ไม่เน่านะจ๊ะ ขอบอกว่าสาระเน้น ๆ ฟินเนื้อ ๆ ครบรสราวชีวิตจริงก็ไม่ปาน

จุดสังเกต

เพลงประกอบคุ้นเคยมากจ้ะ สาวกเกาหลีย้อนยุคต้องได้ยินเพลงนี้บ่อย ๆ แน่นอน แต่เอามาใช้เข้ากับบริบทในเรื่องได้ดี

กระแสสาวใหญ่กินเด็กคงกลายเป็นเทรนของละครปีนี้ไปแล้ว เพราะบรรดาสาวสวยเกิดก่อนหนุ่มที่ยังแซ่บจนเด็กหลงรัก ก็ตบเท้าเดินพรมแดงกันมาเป็นคู่ ๆ จนเกิดเป็นคู่จิ้นต่างวัยที่ทำเอาแฟน ๆ ตามกรี๊ดติดขอบจอ เริ่มตั้งแต่คู่ แอฟ-ต่อ ใน ‘ขอเกิดใหม่ใกล้ ๆ เธอ’ ตามมาด้วยคู่ที่ดังเปรี้ยงปร้างอย่าง จอส-นุ่น ใน ‘เกมรักเอาคืน’ จนทำให้ทีมสร้างต้องทำตอนจบออกมาถึงสองแบบเพื่อซับหัวใจแฟนคลับ ไม่เว้นแม้แต่ ‘ให้รักพิพากษา Dare To love’ ที่ส่งคู่ เบลล่า-พีค มาร่วมวง หรือแม้แต่ ‘กระเช้าสีดา’ ที่สร้างคู่ ก็อต-นุ่น มาให้กรี๊ดสลบ จนสาวน้อยสาวใหญ่อยากสมัครเป็นที่รักของ อำพล กันเป็นแถว

รอบนี้ก็ถึงคราวตัวแม่อย่าง ‘แอน ทองประสม’ ลงมารับบทกินเด็กกับเขาบ้าง แล้วเด็กคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น ‘เจมส์ จิรายุ’ พระเอกแถวหน้าของช่องสามสีเขานี่เอง ก็ถือเป็นการจับคู่ที่หลายคนจับตามอง รวมถึงเราด้วยที่มองไปมองมา กะรัตรัก ก็ออนแอร์ไปถึง 14 ตอนแล้วจ้ะ

พล็อตคล้ายคลึงแต่สีสันไม่ธรรมดา

พล็อตเรื่องนี้ต้องบอกเลยว่าทำให้นึกถึง ให้รักพิพากษา Dare To love ตะหงิด ๆ นางเอกแก่กว่าพระเอกเป็นสิบปี มีหน้าที่การงานเป็นที่นับหน้าถือตา สวย เก่ง พระเอกอ่อนกว่าและเป็นเด็กฝึกงาน ภายในบริษัทนางเอกมีคู่แข่งเป็นหญิงสาวที่เก่งไม่ด้อยไปกว่ากัน และที่สำคัญบอสของบริษัทมีใจให้นางเอกซะด้วยสิ สองเรื่องนี้มีธีมที่คล้ายกัน สำคัญคือเป็นละครของช่องเดียวกันที่ทำให้อดเปรียบเทียบไม่ได้ แต่เนื้อหาภายในนั้นกลับแตกต่างและเข้มข้นหลากรสชาติ จนอดพูดถึงไม่ได้ซะด้วยสิ

กะรัต (แอน ทองประสม) เป็นผู้บริหารคนเก่งวัย 39 แห่งไดมอนด์พรอพเพอร์ตี้ บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ แต่งงานมีสามีชื่อ ชาคริต (ดอม เหตระกูล) ทั้งคู่มีลูกชายวัย 6 ขวบชื่อ พัตเตอร์ (ไฟซัล นากิ๊บ) สามีภรรยาคู่นี้อยู่ในตำแหน่งงานที่เท่ากัน แต่กะรัตมีประสบการณ์มากกว่าและทำงานเก่งกว่าสามีหลายเท่า ทำให้ชาคริตกลายเป็นเป็นมือรองของเมียไปโดยปริยาย เรียกว่าด้อยกว่าเมียในทุก ๆ ทางแบบหือไม่ขึ้น ความกดดันนี้ก็คงสะสมมานานจนชาคริตขอห่างจากเมียสักพัก

ก็ระหองระแหงกันแหละจ้ะ ประจวบกับ มาร์ก (ยุรนันท์ ภมรมนตรี) ซีอีโอพ่อม่ายรูปหล่อผู้กุมบังเหียนไดมอนด์พรอพเพอร์ตี้ ประกาศออกมาว่า คนที่ทำยอดขายได้ดีที่สุดจะได้คุมโปรเจกต์ ‘ริเวอร์ไชน์’ โครงการคอนโดริมน้ำระดับทอล์กออฟเดอะทาวน์ที่รอการเปิดตัว ซึ่งผู้เข้าชิงทั้งหมดได้แก่ผู้บริหารฝ่ายการตลาด 3 คนคือ กะรัต ชาคริตและเวนิส (แพร พิชชาภา) ด้านฝ่ายเวนิสก็ไม่เคยเห็นชาคริตอยู่ในสายตา ศึกคราวนี้นางก็มองกะรัตเป็นคู่แข่งเพียงคนเดียว ทำให้ชาคริตยิ่งฮึดสู้เพราะต้องการพิสูจน์ตัวเอง ที่สำคัญเขาอยากเอาชนะกะรัต ให้เห็นว่าเขาก็มีความสามารถและไม่ต้องพึ่งเมียเสมอไป

แต่ทีนี้สถานการณ์มันก็เข้มข้นขึ้นไปอีก เมื่อกะรัตย้าย นิตา (เม นิศาชล) เลขาแอ๊บแบ๊วของตัวเองที่ทำงานไม่เข้าตาไปอยู่แผนกอื่น ก็เข้าทางเลขาสาวเลยจ้ะเพราะแผนกที่ย้ายไปคือการไปเป็นเลขาของชาคริต สามีของเจ้านายที่นางอยากจะเคี้ยวเอื้อง มารยาร้อยเล่มเกวียนในการจับผู้ชายจึงถูกนิตางัดมาใช้ และโคแก่อย่างชาคริตก็ตกหลุมพรางง่าย ๆ ซะด้วยสิ ก็ไปกินหนุบหนับกันสองคนเอร็ดอร่อย งานก็ต้องแข่ง ครอบครัวก็ร้าวฉาน แต่..ระหว่างที่เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้น หนุ่มน้อยสถาปัตย์อายุราว ๆ 23 ที่กำลังหาที่ฝึกงานก่อนจบนามว่า ไอ่ (เจมส์ จิรายุ) ก็เข้ามาในชีวิตของกะรัตจนได้

กลายเป็นเทพบุตรในร่างเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าถึง 16 ปี บังเอิญเจอกันแล้ว บังเอิญเจอกันอีก จนเรียกได้ว่ากามเทพจงใจอ่ะแหละ ไม่บอกก็รู้ จนกระทั่งไอ่จงใจมาขอฝึกงานที่ไดมอนด์พรอพเพอร์ตี้ เพราะประทับใจในตัวกะรัต เรียกว่าเป็นไอดอลหญิงในดวงใจก็ว่าได้ แล้วก็ไม่พ้นเมื่อไอ่ถูกส่งเข้ามาเป็นเด็กฝึกงานผู้ช่วยของกะรัต การมีไอ่ในชีวิตทำให้กะรัตมีชีวิตชีวาขึ้นสดใสขึ้นเพราะไอ่รู้ใจไปซะทุกอย่าง เมื่อสามีนอกใจจนมาถึงการหย่าร้าง แล้วมีเด็กหนุ่มกระดูกอ่อนมาอยู่ข้าง ๆ แถมเด็กคนนั้นดันเป็นเด็กดีน่ารักเข้ากับพัตเตอร์ลูกชายได้อีกต่างหาก นางเอกของเราก็หวั่นไหวสิจ๊ะ

แต่ รักครั้งนี้ไม่ราบรื่นง่าย ๆ เพราะศึกรอบด้านที่ต้องเผชิญช่างหนักหน่วง ไหนจะงานที่ต้องสู้รบกับตัวป่วนอย่างเวนิส ความห่างเรื่องอายุที่ไม่มีใครสนับสนุน ความรู้สึกคัดค้านในใจตัวเอง ไหนจะบอสที่มาสารภาพรักอีกล่ะ แต่ไม่ว่ากะรัตจะพยายามหนีความรู้สึกตัวเองขนาดไหน เด็กใจสู้อย่างไอ่กลับไม่ยอมแพ้ เรื่องวาบหวิววุ่นวายก็เกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน และทำให้แฟนละครเรื่องนี้ ยิ้มไม่หุบ ฟินหวาน ฮากรุบกริบและน้ำตาตกกันได้ในคราวเดียวกัน เอาซี้

เคมีลงตัว บทส่งเข้าตากรรมการ

ต้องบอกว่ายอมแล้วจ้ากับการแสดงที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง แอนตัวจริงนี่อายุ 45 แล้วนะคะ มาประกบคู่กับเจมส์ จิที่อายุ 28 ปี ก็เรียกได้ว่าเป็นการแคสติ้งที่ความห่างของช่วงอายุเท่ากับในละครกันเลย บทในเรื่องนี้ของแอนไม่ต้องปล่อยพลังอะไรมากมาย แต่เป็นการเคี้ยวบทอย่างเป็นธรรมชาติ บทจะปล่อยแสงคือปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ บทนุบนิบก็ลื่นไหลไม่ขัดตาจนต้องกราบเบญจางคประดิษฐ์กับองค์แม่ แอน ทอง เขาจริง ๆ และการกินเด็กในครั้งนี้ไม่รู้สึกค้านความรู้สึกของคนดูใด ๆ เลย ทำไมล่ะ

แน่นอนว่าต้องเป็นเพราะการแสดงของพระนางที่เข้ากันดี๊ดี กับบทที่ส่งให้กับเขาทั้งคู่เหลือเกิน เจมส์ จิรายุ มีผลงานการแสดงที่เราเห็นกันมาแล้วในฝีไม้ลายมือที่ยกให้เป็นพระเอกเบอร์ต้นของช่อง 3 ได้อย่างไม่ขัดปาก โดยเฉพาะบท อาซา จากกรงกรรม ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เจมส์ จิ เป็นพระเอกที่มีของ และเรื่องนี้ก็เป็นการปล่อยของแบบนิ่ม ๆ เป็นธรรมชาติจนเราเชื่อได้ว่า เจมส์ จิ คือ ไอ่ เจ้าเด็กฝึกงานที่มีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่ แสนอบอุ่น น่ารักน่ากินกรุบได้จริง ๆ

เราจะไม่มีการร้องว่า เฮ้ย!! ผู้บริหารสาวเก่งอย่างกะรัตเนี่ยนะ จะมาหลงรักเด็กฝึกงานที่อายุห่างกันขนาดนี้ได้ยังไง มันเป็นไปได้สิจ๊ะถ้ารู้ว่าชีวิตของกะรัตผ่านอะไรมาบ้าง ความหวั่นไหวจะเกิดก็ไม่ใช่เรื่องแปลกและถ้าคุณฟังรายการ ‘อย่าหาว่าน้าสอน’ ของน้าเน็กกันบ่อย ๆ เรื่องราวทำนองนี้มันก็เรื่องธรรมดาของโลกกันไปเลย เด็ก 19 กับสาว 50 ก็มีมาแล้ว อิชั้นจำได้ แต่สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องนี้ก็คือ บทเขียนให้ไอ่มีวุฒิภาวะที่สาวเก่งอย่างกะรัตจะตกหลุมรักได้ไม่ยาก ไหนจะความอ่อนโยนที่ไม่เคยได้รับจากสามี ไหนจะความใส่ใจที่ละลายหัวใจของน้องพัตเตอร์ได้อีก คะแนนของไอ่ก็มาเต็มแบบไม่ต้องสงสัย แต่ส่วนตัวดิฉันนั้น ขอเลือกบอสได้ไหมล่ะ บอสก็ได้อยู่นะเอาจริง ๆ

นางร้ายน่ารักและน่าตบไปพร้อม ๆ กัน

เรื่องนี้มีนางร้าย 2 คนจ้ะ และเป็นสองคนสองรสชาติที่ทำให้เราแบ่งความรู้สึกได้ชัดเจนกันไปเลย แพร พิชชาภา ฝากผลงานให้เราเห็นกันชัด ๆ มาแล้วในบทสะใภ้รองหมายปองเก๊ะใน กรงกรรม เรื่องนี้นางรับบทเป็นเวนิส ลูกสาวของผู้มีอิทธิพลที่รักลูกสาวดุจแก้วตาดวงใจ เป็นคุณหนูเอาแต่ใจที่เข้ามาทำงานเพราะใช้เส้น แต่ฝีมือของเธอจริง ๆ แล้วก็เก่งพอตัวจนสามารถเป็นคู่แข่งกับกะรัตได้ไม่ยาก หนำซ้ำยังยียวนกวนประสาท ใจกล้าแต่น่ารัก ทำให้เราหมั่นไส้ได้แต่ก็เกลียดตัวละครตัวนี้ไม่ลง เพราะความเอาแต่ใจแบบแปลก ๆ และความน่ารักติดตลกที่กลายเป็นสีสันใหม่ของละครแนวนี้ไปซะฉิบ

ส่วนอีกนางเป็นนางร้ายแอ๊บแบ๊ว ที่บทเขียนให้นิตาเป็นเลขาสายยั่ว ประเภทยั่วโมโห ยั่วอารมณ์ บอกตามตรงว่าถ้าเจอคนแบบนี้ที่ไหนไม่คันไม้คันมือก็ต้องเป็นแม่ชีแล้วละค่ะ เม นิศาชล เล่นบทนี้ได้น่าหมั่นไส้เอามาก ๆ และต้องบอกว่าตัวละครในเรื่องนี้ทุกคนมีมิติ มีความเป็นไปได้ที่จะต้องเจอคนแบบนี้ในชีวิตจริงกันแน่ ๆ เสียงกรี๊ดแบบไม่มีเหตุผลในบรรยากาศเก่า ๆ ของนางอิจฉาจะไม่เกิด จะมีก็แต่เสียงกรี๊ดแตกเพราะความเจ็บปวดที่โดนตบก็เท่านั้น เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวละครจากกรงกรรมถึง 3 ตัวแสดง หากคุณจำ บังอร ในกรงกรรมกันได้ ก็คงร้องอ๋อ ว่านิตาทำไมถึงน่าหมั่นไส้ได้ขนาดนี้กันนะ

แต่นางร้ายหรือจะสู้แม่ได้ เพราะนางเอกเรื่องนี้ไม่งอมืองอเท้าแต่เข่า ศอก เป็นพัลวัน เมื่อร้ายมาก็ร้ายกลับไม่มีโกงและถือไพ่เหนือกว่าทุกประตูซะด้วยสิ ขอบอกว่าฉากนัดตบฉากนี้ไม่เคยเกิดในละครไทยเรื่องไหน ๆ Thai Fight ก็ยังเรียกพี่เลยจ้ะ บอกให้รู้

ความครบเครื่องที่เหนือกว่าไปอีกขั้น

ดูละครแล้วย้อนดูสังคมก็เป็นของคู่กัน เรื่องนี้ยืนยันความจริงให้เราได้อีกข้อหนึ่งว่า อายุเป็นเพียงตัวเลข ที่ไม่ใช่ในแง่ของความรักฉันชู้สาวเท่านั้น แต่บอกเราไปถึงวุฒิภาวะที่ควรจะมี การให้เกียรติกัน การเอาใจเขามาใส่ใจเราความไว้เนื้อเชื่อใจ การแสดงออกทางความรักที่ควรจะเป็น และความรับผิดชอบที่ควรครองสติให้ได้ในฐานะคนเป็นพ่อเป็นแม่ ทำให้ละครเรื่องนี้กลายเป็นละครที่ ทุกตัวละครเป็นสีเทา ยกเว้นน้องพัตเตอร์คนเดียวเท่านั้นแหละที่ไม่ได้เทาไปกับเขาด้วย น้องเล่นเก่งและน่ารักเอามาก ๆ จนทำให้รู้สึกว่า ดาราเด็กสมัยนี้อินเนอร์ได้ขนาดนี้กันเลยเหรอเนี่ย โอ้โหลูก หนูเล่นเก่งมากลูก ป้างี้ปลื้ม

แสงสว่างหนึ่งเดียวของเรื่องนี้อยู่ที่เด็ก แต่ผู้ใหญ่ที่รายล้อมกลับเต็มไปด้วยสภาวะห่วงตัว ที่วนเวียนอยู่กับความรู้สึกของตัวเอง ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องผิดแต่ก็เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ และเป็นเรื่องที่เราเห็นกันดาษดื่นในสังคมทุกวันนี้ เพราะปมต่าง ๆ ที่อยู่ในใจมันทำให้เป็นไปจนหลงลืมไปชั่วขณะ เป็นละครชีวิตที่เล่าเรื่องซีเรียสให้เป็นเรื่องธรรมดา เพราะคราคร่ำไปด้วยอารมณ์ต่าง ๆ ที่สลับสับเปลี่ยนมาสร้างสีสัน ทั้งสุข เศร้า บีบคั้น รื่นเริงและแน่นอน ฟินไม่เลิกกับฉากหวานของพระนาง บทต่าง ๆ ที่ส่งให้เป็นไปอย่างนั้นบวกกับฝีมือการแสดงของทุกตัวแสดง ที่ต้องปรบมือให้ ทำให้ละครพล็อตพื้น ๆ เรื่องนี้ สามารถขึ้นโต๊ะอาหารมื้อเย็น ที่กินอร่อยได้ทั้งครอบครัว