ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือได้กำเนิดขึ้นนี่ ก็ทำให้อุบัติเหตุบนท้องถนนเพิ่มขึ้นไปตาม ๆ กัน สถิติเมื่อปี 2560 ในประเทศไทยเรานี่ระบุว่า 38% ของผู้ขับขี่ยานพาหนะใช้โทรศัพท์ระหว่างขับรถ, 36% เข้าสื่อโซเชียลระหว่างขับรถ และอีก 52% ยอมรับว่าเกือบประสบอุบัติเหตุอันเนื่องมาจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ สาเหตุเหล่านี้ก็สามารถสร้างความหงุดหงิดขุ่นเคืองกับคู่กรณีได้ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายประมาทด้วยสาเหตุเพราะกำลังกำโทรศัพท์มือถือไว้ในมือขณะขับรถ คนทั่วไปก็ได้แต่ยอมรับชะตากรรม หรือก็สบถด่าระบายอารมณ์ไปตามเรื่องตามราว แต่นั่นไม่ใช่วิธีของนาย เจสัน ฮัมฟรีย์ (Jason Humphreys) วัย 60 ปี ชาวฟลอริดาผู้นี้
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2014 ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ก็ไม่รู้ที่ไปที่มาว่านายฮัมฟรีย์นี่มีความหลังฝังใจอะไรกับบรรดาผู้ขับขี่ที่ชอบจับโทรศัพท์ขณะขับรถ แกก็เลยไปหาซื้อเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มาติดตั้งไว้ที่ใต้เบาะรถโตโยต้า ไฮแลนเดอร์ของแก แล้วก็ขับรถไปทำงาน-กลับบ้าน บนทางหลวงหมายเลข I-4 ที่เป็นเส้นทางประจำ
พอสตาร์ตรถ แกก็เปิดให้เครื่องรบกวนสัญญาณทำงาน ก็ได้ผลดี บรรดาผู้ขับขี่บนยานพาหนะรอบ ๆ ตัวแกก็จะประสบปัญหาเหมือน ๆ กัน คือส่งข้อความอะไรบนมือถือไม่ได้, เล่นเฟซบุ๊กไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าด้วยวิธีการนี้จะเป็นการแก้ปัญหาในทางบวกหรือว่าจะยิ่งแย่ลงกันแน่ เพราะเมื่ออยู่ดี ๆ โทรศัพท์มือถือก็ใช้การไม่ได้ จะทำให้ผู้ขับขี่ยิ่งเป็นกังวลแล้วมาจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์มากขึ้นไปอีกหรือเปล่า และสิ่งที่ฮัมฟรีย์ลืมคิดไปเสียสนิทก็คือ ไม่ใช่ว่าผู้ขับขี่ทุกคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือนั้้นจะใช้เพื่อความบันเทิง ก็มีบ้างที่จำเป็นต้องใช้ในกรณีฉุกเฉินอย่างเช่นโทร 911 แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายเหล่านี้ ก็ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะโดนเครื่องรบกวนสัญญาณของฮัมฟรีย์เล่นงานซะแล้ว
หลังจากฮัมฟรีย์มีความสุขกับการขับรถไปไหนมาไหนพร้อมกับส่งคลื่นรบกวนสัญญาณโทรศัพท์ชาวบ้านรอบตัวมาได้ราบรื่นตลอด 2 ปี ตำรวจทางหลวงที่ดูแลความเรียบร้อยอยู่บนทางหลวง I-4 ก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปรกติว่าสัญญาณสื่อสารจะหายไป วันละ 2 ครั้ง เวลาเดิมช่วงเช้าและช่วงเย็นเป็นประจำ ทางตำรวจก็เลยใช้เครื่องตรวจหาอุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณรบกวนนี้ โดยไม่ยากเย็นก็ตามมาจนเจอรถของฮัมฟรีย์ขณะอยู่บนถนน ตำรวจก็ส่งสัญญาณให้ฮัมฟรีย์นำรถเข้าจอดข้างทาง แล้วก็พบเครื่องส่งสัญญาณรบกวนมือถือของฮัมฟรีย์โดยง่าย
แน่นอนวาการกระทำของฮัมฟรีย์นั้นผิดกฏหมาย ตามบทบัญญัติของ คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ (Federal Communications Commission) ที่ระบุว่าการกระทำของฮัมฟรีย์นั้นเป็นการกระทำที่ไร้ยั้งคิด และเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับ 48,000 เหรียญ เป็นเงินไทยก็ประมาณ 1.6 ล้านบาทเลยเชียว คณะกรรมการฯ ยังได้ยกให้คดีของฮัมฟรีย์เป็นตัวอย่างเตือนใจประชาชนด้วยว่า การใช้เครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือนั้นถือว่า “ผิดกฏหมายไมว่าจะพิจารณาด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม” และแย่ที่สุดก็อาจจะต้องถึงขั้นติดคุก