กลายเป็นข่าวฮือฮาขึ้นมาทันที เมื่อนายอำเภอบ็อบ จอห์นสัน (Bob Johnson) แห่งเมืองซานต้า โรซา เคาน์ตี้ ในรัฐฟลอริดา ออกแถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาใจความตอนหนึ่งที่จอห์นสันให้คำแนะนำกับประชาชนว่า ตำรวจยิ่งกว่าจะยินดีเสียอีก ถ้าเจ้าของบ้านจะยิงโจรที่บุกบ้านให้ตายคาที่ เพื่อเป็นการประหยัดภาษีประเทศชาติ
ย้อนถึงที่ไปที่มาของเหตุการณ์นี้ เมื่อวันที่ 20 เมษายน ในเมืองซานตา โรซา เคาน์ตี้ ตำรวจได้จับกุมตัวนาย แบรนดอน เจ.แฮร์ริส (Brandon J. Harris of Milton) วัย 32 ปีไว้ได้ ที่ย่องเบางัดแงะเข้าไปในหลายบ้านบนถนนทอม ซอว์เยอร์ แต่เคราะห์ร้ายมาเยือนแฮร์ริส เมื่อเขาบุกเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งตอนเวลา 17:12 น. เจ้าของบ้านรู้ตัวแล้วคว้าปืนยิงเข้าใส่นายแฮร์ริสแต่ไม่โดน
“เจ้าของบ้านหลังหนึ่งที่แฮร์ริสงัดเข้าไปนั้น รู้ตัวแล้วยิงเข้าใส่เขา ทำให้เขาวิ่งหนีไป แต่ในที่สุดเขาก็จนมุมเราในบ้านอีกหลังที่เขาบุกเข้าไปบนถนนทอม ซอว์เยอร์”
พอจนมุมในห้องนอน แฮร์ริสก็พุ่งตัวชนกระจกจนแตก ออกมานอกบ้าน แต่ก็โดนเจ้าหน้าที่ที่ปิดล้อมอยู่แล้วเข้าชาร์จในทันที
“พอเจ้าหน้าที่รู้ตำแหน่งของแฮร์ริสที่แน่ชัดแล้ว พวกเขาก็ทำการปิดล้อมพื้นที่โดยทันที พวกเขาทำงานกันได้อย่างดีเยี่ยม”
“ซึ่งงานนี้ต้องใช้เจ้าหน้าที่ถึง 20 นาย แล้วยังมีหมาอีกด้วย เขาก็หนีด้วยการกระโดดข้ามรั้วไปแล้วก็บุกเข้าไปในหลาย ๆ บ้านระหว่างทางที่วิ่งหนีตำรวจ”
ตรงจุดนี้ล่ะ ที่นายอำเภอจอห์นสันระบุว่าจะเป็นการประหยัดภาษีค่าใช้จ่าย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องใช้งบประมาณและเวลามาตามไล่ล่าโจร ถ้าเจ้าของบ้านยิงปืนได้แม่นก็จะเป็นการประหยัดเวลาและภาษี
โดยเฉพาะกับโจรอย่าง แบรนดอน เจ.แฮร์ริส ที่มีประวัติเข้าออกคุกมาตั้งแต่อายุ 13 ปี แล้วยังอยู่ในรายชื่อ ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่ออาชญากรรมทางเพศอีกด้วย นายอำเภอจอห์นสันเล่าถึงแฮร์ริสว่า
“เขาเคยโดนจับมา 17 ครั้งได้แล้วมั้ง ครั้งล่าสุดเราส่งเขาเข้าคุกไป 6 ปีครึ่ง ด้วยข้อหาบุกรุกบ้านคนอื่น แต่เขาก็ยังไม่รู้สำนึกอีกว่าอาชญากรรมที่เขาก่อนั้นไม่เคยส่งผลดีอะไรกับตัวเขาเลย”
แบรนดอน เจ.แฮร์ริส โดนตั้งหลายข้อหา จู่โจมและลักทรัพย์, ขัดขืนการจับกุมจากเจ้าหน้าที่, ทำลายทรัพย์สินโดยเจตนา, พยายามลักขโมย และยังมีอื่น ๆ อีกหลายข้อหา ตั้งวงเงินประกันไว้ที่ 157,500 เหรียญ
ในระหว่างแถลงข่าวนี้ว่า เจ้าของบ้านที่โดนแฮร์ริสบุกเข้าไป แล้วสาดกระสุนเข้าใส่แฮร์ริสนั้น ก็ยังไม่มาแจ้งความกับตำรวจ นายอำเภอจอห์นสันจึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ฝากบอกกับเจ้าของบ้านรายนั้นว่า ไม่ต้องกลัว สิ่งที่เขาทำเป็นการถูกต้องแล้ว เขาจะไม่โดนดำเนินข้อหาใด ๆ
“ผมเดาว่าเขาคงคิดว่าเขาทำผิดกฏหมาย แต่ที่จริงเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ถ้ามีใครบุกรุกเข้าบ้านคุณ ในเมืองซานต้า โรซา เคานต์ตี้นี้ คุณมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะยิงใส่ผู้บุกรุก เรานี่สนับสนุนให้คุณยิงเสียด้วยซ้ำ”
“ไม่ว่าใครที่ป้องกันตัวเองเช่นนี้ คุณไม่มีความผิดนะครับ สามารถมาหาเราได้”
ที่นายอำเภอจอห์นสันกล้าประกาศก้องเช่นนี้ ก็เพราะว่าในปี 2005 ฟลอริดาเป็นรัฐแรกที่มีการบังคับใช้กฏหมาย “ยึดมั่นในสิทธิของตน” (Stand Your Ground) ที่อนุญาตให้พลเมืองสามารถใช้ปืนหรืออาวุธรุนแรงอื่น ๆ จัดการกับผู้บุกรุกได้ ในกรณีที่มีเหตุผลที่เชื่อถือได้ว่าผู้บุกรุกรายนั้นมีแนวโน้มจะเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตและสวัสดิภาพ หลังจากฟลอริดาดำเนินใช้กฏหมายนี้ก็มีอีกกว่า 20 รัฐที่ผ่านร่างบังคับใช้กฏหมายในทำนองนี้ด้วยเช่นกัน
นายอำเภอจอห์นสันยังเชื้อเชิญให้ชาวเมืองซานตา โรซา เคาน์ตี้ มาเข้าคอร์สฝึกหัดยิงปืนกันอีกด้วย ที่สถานีตำรวจมีคอร์สฝึกการยิงปืนที่ปลอดภัยและถูกต้อง
“ที่สถานีตำรวจเรานี้มีคลาสสอนการยิงปืน เราสอนกันทุกวันเสาร์ ถ้าพวกคุณผ่านคอร์สนี้แล้วพวกคุณจะยิงปืนได้ดีขึ้นแน่นอน แล้วที่สำคัญคุณจะช่วยประหยัดเงินค่าภาษีของรัฐได้อีกด้วย”