เค็น อัลเล็น (Ken Allen) เป็นชื่อของอุรังอุตังชื่อดังประจำสวนสัตว์ซานดิเอโก เป็นอุรังอุตังเพศผู้ตัวใหญ่ น้ำหนักถึง 113 กิโลกรัม เค็นเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างตั้งแต่ยุค 80s ไปจนถึง 90s แม้ว่าเค็นจะเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2000 แต่ช่วงที่มันอยู่นั้นก็ค่อนข้างสร้างวีรกรรมไว้มากจนเป็นสร้างชื่อเสียงให้กับสวนสัตว์ซานดิเอโก เรามาดูกันสิว่าเจ้าอุรังอุตังตัวแสบนี้สร้างวีรกรรมอะไรไว้บ้าง
เหตุการณ์ครั้งแรกเกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1985 วันนั้นเจ้าเค็นคงจะรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องนั่งอยู่ในคอกไปวัน ๆ แล้วก็มีมนุษย์มากมายเวียนกันมาหยุดดูมัน เค็นก็เลยเกิดความสงสัยว่ามนุษย์ทำอะไรกันนอกกรงบ้างนะ การมาแวะเวียนดูพวกมันนี่รื่นรมย์บันเทิงใจตรงไหนหนอ ไม่เพียงแค่คิด ว่าแล้วเค็นก็ปีนกำแพงคอกออกมาอย่างง่ายดาย พอออกมาได้ มันก็ทำอย่างที่ตั้งใจไว้ คือเดินไปมาบนทางเดินในสวนสัตว์เสมือนนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง แล้วก็ไปหยุดดูสัตว์ตามกรงนั้นกรงนี้ แต่ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะแตกตื่น เจ้าเค็นก็รีบปีนกลับเข้าพื้นที่ตัวเอง ไปนั่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะอย่างนั้น หลังข่าวเรื่องเจ้าเค็นหลุดจากกรงมาทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวแพร่ขยายออกไป ก็ทำให้เจ้าหน้าที่บริหารอกสั่นขวัญแขวน ว่าถึงคราวซวยของสวนสัตว์แล้วแน่เลย สื่อต้องโจมตีเรื่องความบกพร่องในการดูแลสัตว์ในกรง แล้วคนจะไม่มาเที่ยวสวนสัตว์แล้ว แต่ผลตอบรับกลับตรงข้าม ผู้คนกลับฮือฮาชื่นชมความแสนรู้ของเจ้าเค็น แล้วมันก็กลายเป็นฮีโรประจำสวนสัตว์ไปในบัดดล
แม้เค็นจะสร้างชื่อเสียงให้กับสวนสัตว์ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่นิ่งนอนใจ ไม่คิดว่าจะปล่อยให้มันออกเพ่นพ่านเป็นครั้งที่ 2 ทีมงานจึงระดมกำลังกันปิดกั้นคอกของเจ้าเค็นอย่างแน่นหนา เอาโครงเหล็กมาครอบพื้นที่เปิดของคอก และเหนือคูน้ำใหญ่ในคอก เลยจากหลังคูน้ำไป ก็เป็นกำแพงซึ่งทางสวนสัตว์ก็ก่อกำแพงให้สูงขึ้นไปจากเดิมอีก 1.2 เมตร แต่นั่นเพียงพอแล้วเหรอ ที่จะปิดกั้นเค็นไม่ให้ออกไปสู่โลกภายนอก
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เค็นก็ออกมาเดินเล่นอีกครั้ง แต่รอบนี้ไม่ค่อยน่ารักเหมือนเดิมแล้ว เค็นออกจะหงุดหงิดเล็กน้อย เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เจอมันยืนอยู่หน้ากรงของ ‘โอติส’ อุรังอุตังอีกตัวหนึ่งที่เคยอยู่ร่วมคอกเดียวกัน เค็นหยิบก้อนหินแล้วก็เขวี้ยงเข้าใส่กรงของโอติส หนังสือพิมพ์รายงานข่าวว่า “เค็นไม่เป็นมิตรเหมือนเดิมแล้ว”
ต่อให้ทางสวนสัตว์จะปิดล้อมแน่นหนาอย่างไร ก็ไม่สามารถกันเค็นได้สำเร็จ ผ่านมาในเดือนสิงหาคม เค็นเจอชะแลงที่คนงานดันมาลืมไว้ในคอก เค็นหยิบขึ้นมาแล้วก็โยนต่อไปให้วิกกี้ เพื่อนร่วมคอก วิกกี้นี่ก็ไม่เบา พอได้ชะแลงมาก็รู้งาน เอาไปงัดหน้าต่างจนเปิดออก แล้วเค็นก็มุดหน้าต่างออกไปเดินเล่น แต่วิกกี้ไม่ได้ออกตามไปด้วย พอเค็นออกมาได้รอบนี้ เจ้าหน้าที่บอก ไม่ไหวแล้ว ต้องบูรณะพื้นที่คอกของเค็นแบบยกใหญ่กันเลย ว่าแล้วก็ย้ายเค็นไปไว้ในกรงภายในอาคาร แต่ก็กลัวมันเหงา เลยเอาทีวีขาวดำไปตั้งให้ดูด้วย แล้วเจ้าหน้าที่ก็ทำการบูรณะปิดล้อมพื้นที่คอกของเค็นกันแบบแน่นหนา
ที่จริงแล้วเค็นไม่ได้มาโชว์ความสามารถในการแหกกรงเอาตอนโตเป็นอุรังอุตังหนุ่มนี่หรอก มันเคยแหกกรงให้ดูมาแล้วตอนเป็นอุรังอุตังเด็ก ประจักษ์พยานก็คือ เค็น วิลลิงแฮม (Ken Willingham) และ เบ็น อัลเล็น (Ben Allen) 2 เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่ดูแลเค็นมาตั้งแต่ยังแบเบาะ ก็เลยเอานามสกุลของทั้งคู่มาตั้งเป็นชื่อให้เจ้าเค็นนี่เอง เค็นเกิดในสวนสัตว์ซานดิเอโกนี่แหละ แต่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด แม่ของเค็นทุบตีเค็นตอนยังเป็นอุรังอุตังน้อยจนเกือบตาย ดีที่เค็นและเบ็นเห็นเข้าเลยแยกเจ้าเค็นน้อยออกมาซะ พอมาอยู่ในคอกอนุบาลสัตว์ เค็นก็เริ่มฉายแววของความอัจฉริยะ ด้วยการหยิบประแจมาขันน็อตแล้วเปิดกรงได้สำเร็จ แล้วเค็นก็ออกไปวิ่งเล่นตอนกลางคืน พอเช้าก็รีบกลับเข้ากรง แถมยังขันน็อตกลับคืนที่เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ความแสนรู้ของเค็นนั้นส่งให้มันมีชื่อเสียงอย่างมาก ผู้คนก็รักเค็น สื่อก็ระดมทำข่าวเค็นไม่หยุดหย่อน บางสื่อเขียนบทความเกี่ยวกับเค็น แล้วก็ตั้งฉายาให้มันว่า “แฮร์รี่ ฮูดินี” ตามชื่อของนักมายากลระดับตำนาน มีพ่อค้าหัวใสทำเสือยืดรูปเค็นออกมาก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เค็นมีแฟนคลับจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่วัยเกษียณอายุ ตั้งกลุ่มคนรักเค็นขึ้นมาชื่อว่า “The Otang Gang” หนึ่งในสมาชิกกลุ่มชื่อว่า ทไวลา เบเคอร์ ลงทุนทำจดหมายข่าวขึ้นมาในชื่อ “The Orang Gang News” มีคนสมัครสมาชิกมากกว่า 100 ราย
ในขณะที่เค็นยังสร้างชื่อเสียง เพิ่มจำนวนแฟนคลับไปเรื่อย ๆ นั้น ทางสวนสัตว์เองก็ไม่ลดละความพยายามที่จะเอาชนะเจ้าเค็นให้ได้ รอบนี้พวกเขาขุดคูน้ำเพิ่มขึ้นตลอดแนวกำแพงเลย แล้วปราการด่านสุดท้ายก็คือเดินลวดไฟฟ้าอีกชั้นหนึ่ง ไม่แค่นั้น ทางสวนสัตว์ยังลงทุนจ้างนักปีนเขามืออาชีพให้มาลองปีนกำแพงหนีออกจากคอกนี้ดู ว่ามีทางไหนที่เค็นจะปีนออกมาได้อีก ก็ได้หาทางป้องกันไว้แต่เนิ่น ๆ
เจ้าหน้าที่สวนสัตว์รู้ทันเค็นอยู่เรื่องหนึ่ง ว่าถ้ามันเห็นเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เมื่อใด มันจะไม่พยายามหนี แต่ถ้าลับตาเจ้าหน้าที่ปั๊บ มันจะหาทางปีนออกจากคอกทันที เจ้าหน้าที่ก็เลยถอดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ออก แต่งตัวให้กลมกลืนกับนักท่องเที่ยวแล้วมาแอบดูพฤติกรรมของเจ้าเค็น ก็เห็นชัดเลยว่ามันพยายามปีนออกจากคอก พอไปถึงลวดไฟฟ้ามันก็ลองเอามือแตะ ๆ ดู พอรู้ว่ารอบนี้ออกไม่ได้แน่ มันก็ล้มเลิกความพยายาม เจ้าหน้าที่ต่างดีใจที่เอาชนะเจ้าเค็นได้สักที ทางสวนสัตว์รายงานความสำเร็จว่า “เค็นกลายเป็นอุรังอุตังผู้รักครอบครัวแล้ว”
แต่นั่นคืออุบายอันซับซ้อนของเค็นต่างหาก หลอกให้เจ้าหน้าที่ตายใจ ผ่านไป 2 ปี เค็นก็ออกมาเดินเล่นหน้าตาเฉยอีกครั้ง รอบนี้เค็นออกมาได้ไงนั่นน่ะเหรอ ด้วยความอัจฉริยะของมัน เค็นทำให้เครื่องปั๊มน้ำเสีย น้ำไม่ไหลลงคูน้ำ คูน้ำก็เลยแห้ง เค็นก็แค่เดินผ่านคูน้ำมาอย่างสบาย ๆ แล้วก็ปีนกำแพงหินออกมาแค่นั้นเอง รอบนี้เค็นออกมาแบบพระเอกขวัญใจนักท่องเที่ยวเลย เดินไปทั่วสวนสัตว์ มีหยุดถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวเป็นระยะ ๆ เจ้าหน้าที่ดูแลสวนเป็นคนแรกที่เห็นว่าเค็นหลุดออกมาอีกแล้ว เขารีบเคลียร์พื้นที่ แล้วเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ก็กรูกันมาล้อมเค็น พอเห็นเจ้าหน้าที่มากันหลายคน เค็นก็เลยวิ่งหนีมุ่งหน้าไปทางคอกสิงโต แต่ก่อนจะไปถึง สัตวแพทย์ก็มาถึงทันเวลาพอดี เขากันเค็นได้ แล้วต้อนมันกลับไปคอกของตัวเองได้สำเร็จ ครั้งนี้เค็นดูท่าทางตื่นตระหนก แต่ไม่ทำอันตรายใคร นับเป็นครั้งที่เค็นออกมาไกลจากคอกตัวเองมากที่สุดแล้ว
เจ้าหน้าที่คิดกันหัวแทบแตกว่าจะกันเค็นไม่ให้ออกจากคอกอย่างไรดี ว่าแล้วพวกเขาก็ลองเอาอุรังอุตังเพศเมียมาให้อยู่ร่วมคอกกับเค็น คิดว่าน่าจะเบนความสนใจเค็นจากการหนีออกจากคอกได้
“เราเดากันว่า มันคงอิจฉาเจ้าโอติสมั้ง ที่อยู่ร่วมกับตัวเมียอีก 3 ตัว เราก็เลยเอาตัวเมียให้เค็นไปเลย 4 ตัว ก็หวังว่ามันจะเลิกความพยายามแหกคอก มามีความใคร่ต่อตัวเมียแทน”
แต่ผลตอบรับกลับผิดคาด แทนที่เค็นจะมีความสนใจต่อตัวเมีย มันกลับเสี้ยมสอนบรรดาตัวเมียให้มาปีนคอกหนีแบบมัน เจน กับ คุแมง 2 อุรังอุตังเพศเมีย เก็บลูกกลิ้งเช็ดกระจกติดก้านยาว 1.5 เมตรได้อันหนึ่ง เพราะคนงานลืมทิ้งไว้ เค็นน่าจะแนะนำ 2 ตัวเมียให้นำไม้ยาวนี้เอามาใช้เป็นอุปกรณ์ช่วยในการปีนกำแพงคอกออกมาได้สำเร็จ แต่รอบนี้เค็นไม่ได้ออกมาด้วย เจ้าหน้าที่พบเจนเดินเล่นอยู่ใกล้ ๆ กรงนกฟลามิงโก เจ้าหน้าที่ยิงปืนยาสลบใส่ ส่วนคุแมงว่าง่ายกว่าปีนกลับกรงเองเงียบ ๆ
รอบนี้สวนสัตว์ยอมควักกระเป๋าก้อนใหญ่ 45,000 เหรียญ เพื่อล้อมคอกเค็นแบบแน่นหนาสุด ๆ ไปเลย ด้วยทุนขนาดนี้ก็สำเร็จสักที เค็นไม่สามารถแหกคอกได้อีกต่อไปแล้ว มีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นบันทึกสถิติไว้ว่า ที่ผ่านมาเค็นหนีออกมาได้สำเร็จ 9 ครั้ง “แล้วทุกครั้งนักท่องเที่ยวจะเป็นฝ่ายเชียร์เค็นตอนที่วิ่งหนีเจ้าหน้าที่”
พอเค็นไม่สามารถหนีออกมาได้อีกต่อไป สื่อต่าง ๆ ก็ทยอยเลิกรายงานข่าวเกี่ยวกับเค็น กระแสความฮือฮาของเค็นก็ค่อย ๆ ซาไป ใครไปเที่ยวสวนสัตว์ก็จะเห็นเค็นนั่งนิ่ง ๆ อยู่ในคอก คอยยกนิ้วกลางให้เด็ก ๆ
ในช่วงฤดูหนาวปี 2000 เค็นก็เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะ สัตวแพทย์ตรวจพบว่าเค็นเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (B-cell lymphoma) นับเป็นข่าวร้ายของบรรดาแฟนคลับ จดหมายข่าว “The Orang Gang News” ลงบทความพิเศษ 2 หน้าเพื่อเป็นการสดุดีต่อเค็น แล้วบรรดาแฟนคลับก็ออกมาจุดเทียนเพื่อส่งกำลังใจให้เค็น สัตวแพทย์ที่ดูแลอาการของเค็นให้ความเห็นว่าเค็นมาถึงวาระสุดท้ายแล้ว โอกาสรอดริบหรี่เกินไป ตัดสินใจฉีดยาการุณยฆาตให้เค็น ทำพิธีฌาปณกิจในวันที่ 1 ธันวาคม 2000 รวมอายุเค็นได้ 29 ปี ทางสวนสัตว์สร้างอนุสรณ์เป็นเกียรติให้เกับเค็น