ยังจำเรื่องราวของ อารอน ราลสทัน (Aron Ralston) กันได้ใช่ไหมครับ ชายหนุ่มที่มือโดนหินก้อนใหญ่ทับค้างอยู่อย่างนั้นกว่า 5 วัน จนต้องตัดสินใจใช้มีดพกอันเล็ก ๆ ค่อยตัดข้อมือตัวเองออกเพื่อเอาชีวิตรอด เรื่องราวของเขากลายมาเป็นภาพยนตร์เรื่อง 127 Hours เมื่อปี (2010)
ที่อ้างอิงถึงเรื่องราวของราลสทัน ก็เพื่ออยากจะบอกว่าวิบากกรรมของ อีริก เมอร์ดา (Eric Merda) ชายชาวฟลอริดาวัย 43 ปีผู้นี้ก็ทรหดไม่แพ้กัน แม้ช่วงเวลาที่ต้องดินรนชีวิตรอดจะสั้นกว่า แต่บาดแผลของเขานั้นฉกรรจ์กว่ามาก เพราะโดนจระเข้กระชากหลุดไปทั้งแขน แล้วต้องเดินระหกระเหินอยู่แบบนั้นอีก 3 วัน กว่าจะได้รับความช่วยเหลือ
เรื่องราวของ อีริก เมอร์ดา นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมานี้ล่ะ เขาเป็นชาวเมืองซาราโซทา เป็นเมืองชายฝั่งทางใต้ของรัฐฟลอริดา ในวันนั้นเขาได้ไปพักผ่อนที่รีสอร์ตชื่อ Lake Manatee Fish Camp ในเมือง Myakka City ระหว่างที่พักอยู่ที่นี่ เมอร์ดาก็ออกไปเดินเล่นในป่าแล้วเกิดหลงทาง จนดั้นด้นมาเจอทะเลสาบมานาเต ละแวกเดียวกับรีสอร์ตที่เขาพักอยู่ ด้วยความที่ทะเลสาบมีพื้นที่กว้างขวาง เมอร์ดาจึงตัดสินใจกระโดดลงทะเลสาบเพื่อว่ายน้ำตัดข้ามไปอีกฝั่งเพราะคิดว่าเร็วกว่าเดินอ้อมชายฝั่ง
“ไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดเอาซะเลย สำหรับคนพื้นที่ฟลอริดาอย่างผมนี่”
เมอร์ดาย้อนเล่าเหตุการณ์ในระหว่างให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 5 กันยายนนี้ ว่าระหว่างที่เขากำลังว่ายน้ำอย่างขมักเขม้นอยู่นั้น
“ผมก็เหลือบไปเห็นจระเข้ตัวใหญ่ว่ายน้ำขนาบอยู่ด้านขวาของผม ทันใดนั้นมันก็งับเข้าที่แขนขวาช่วงล่างนี่ ผมก็รีบคว้าตัวมันไว้ แต่มันก็หมุนตัวทันทีแขนผมก็หักกลับด้านเลยทันที”
เมอร์ดาเล่าต่ออีกว่า ระหว่างนั้นจระเข้ก็ดึงร่างเขาลงไปในน้ำถึง 3 ครั้ง ก่อนที่มันจะใช้ท่าไม้ตายของจระเข้ที่เรียกว่า death roll คือการหมุนตัวเพื่อฉีกเนื้อออกจากร่างเหยื่อ แล้วมันก็จากไปพร้อมกับแขนขวาของเมอร์ดา
ต้องบอกว่าเมอร์ดานี่คือมนุษย์สุดทรหดตัวจริง แม้กระทั่งเขาเพิ่งโดนจระเข้ฉีกแขนขวาหลุดออกจากร่างไป แต่เมอร์ดาก็ยังสามารถว่ายน้ำด้วยแขนซ้ายเพียงข้างเดียว แล้วพาตัวเองขึ้นฝั่งมาได้ จากนั้นเขาก็เริ่มตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็เปล่าประโยชน์ เพราะเขาน่าจะเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่อยู่กลางป่าในขณะนั้น
“ผมมองเห็นกระดูกผมโผล่พ้นเนื้อออกมาเลยตอนนั้น ถ้าแค่ผมคิดจะขยับนิ้ว ผมก็จะเห็นกระดูกขยับไปมาแบบนี้เลย”
เป็นการบรรยายภาพที่แค่นึกตามก็หวาดเสียวแล้ว
หลังจากนั้น เมอร์ดาที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส แต่กลับต้องเดินระเหเร่ร่อนอยู่ในป่าอีก 3 วัน เมอร์ดาเล่าว่าเขาพยายามอย่างที่สุดที่จะพาตัวเองออกจากป่า แต่ก็เหมือนว่าตัวเขาจะเดินวนกลับมาที่เดิมอยู่เรื่อย ๆ สุดท้ายเขาตัดสินใจเดินตามดวงอาทิตย์และสายไฟฟ้าไปเรื่อย ๆ จนมาพบรั้วบ้านหลังหนึ่ง มองเข้าไปก็เห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ เขารีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือทันที
“ผมบอกกับเขาว่า จระเข้กัดแขนผมขาดครับ ช่วยผมด้วย ชายคนนั้นก็ตอบกลับมาด้วยความตกใจ ‘โอ้คุณพระคุณเจ้า’
พลเมืองดีที่ช่วยชีวิตเมอร์ดาไว้ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ เขาย้อนเล่าเหตุการณ์ว่า
“ผมไม่รู้หรอกว่าเขาจะอยู่หรือตายตอนที่ผมเดินเข้าไปหาเขาน่ะ พวกเราช่วยกันตัดรั้วออก แล้วนำร่างเขาเข้ามา แต่เขาก็ยังเดินไปขึ้นรถพยาบาลได้ไหวอยู่นะ”
หลังได้รับความช่วยเหลือ เมอร์ดาก็ถูกส่งตัวกลับไปยังเมืองซาราโซทา และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ซาราโซทา เมโมเรียล ซึ่งหมอก็จำเป็นต้องตัดแขนส่วนที่เหลือของเขาออกเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ถ้าเอ่ยชื่อว่า ‘ฟลอริดา’ เรา ๆ ต่างก็รู้กันดีว่านี่คือรัฐที่ชุกชุมไปด้วยจระเข้ รายงานล่าสุดว่ามีจระเข้อยู่ตามหนองตามบึงในฟลอริดาประมาณ 1.3 ล้านตัว
คณะกรรมการปกป้องคุ้มครองปลาและสัตว์ป่าแห่งฟลอริดา ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เมอร์ดาโดนจระเข้โจมตีในวันที่ 21 กรกฎาคม ก็ส่งทีมงานไปวางกับดักจับจระเข้ทันที แต่ไม่มีการรายงานว่าจับจระเข้ตัวดังกล่าวได้หรือไม่ แต่ทางคณะกรรมการฯ ก็ให้ความเห็นว่า เหตุการณ์จระเข้โจมตีคนอย่างรุนแรงนั้นเกิดขึ้นน้อยมาก ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อัตราเฉลี่ยที่มนุษย์ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกจระเข้กัดจนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลนั้น อยู่ที่ 8 รายต่อปี อย่างกรณีของเมอร์ดานี้นั้นก็ถือว่าเป็น 1 ในไม่กี่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฟลอริดาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี่ ถ้านับย้อนไปถึงปี 1948 จนถึงปัจจุบัน มีเหตุการณ์ที่ผู้คนโดนจระเข้กัดนั้นเกิดขึ้น 442 ครั้ง มีเพียง 26 ครั้ง ที่เป็นเคสรุนแรง
หลังเหตุการณ์ผ่านไปได้เกือบ 2 เดือน เมอร์ดาก็เริ่มคุ้นชินกับรูปแบบการดำเนินชีวิตใหม่ของเขา แต่เขาก็ยังมีกำลังใจที่ดีมาก ล่าสุดเขาก็โพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า จิตวิญญาณเขายังคงแข็งแกร่งมาก สภาพจิตเขาก็แข็งแรงดี และสภาวะอารมณ์เขาก็ยังดีอยู่มาก
“มันเป็นเรื่องของความเป็นความตาย คุณอยากจะรอดไหมล่ะ ตัวผมได้รับโอกาสให้เลือกแล้ว ซึ่งผมเลือกที่จะมีชีวิตรอด ผมก็เลือกที่จะสู้ต่อไป ผมจะสู้ต่อไปจริง ๆ ผมพาตัวเองขึ้นมาได้แล้ว ก็จะไม่กลับลงไปอีก”
แม้ว่าเขาเกือบโดนจระเข้าเอาชีวิตไปแล้ว แถมยังต้องดำเนินชีวิตจากนี้ในสถานะคนพิการ แต่เมอร์ดากลับไม่มีความอาฆาตแค้นต่อเหล่าจระเข้ ตรงกันข้ามเขากลับเตือนชาวฟลอริดาว่าอย่าไปยุแหย่บรรดาจระเข้เลย
“อย่าให้อาหารพวกมันเลย หวังว่ารู้ตัวกันนะว่าผมหมายถึงใคร พวกที่ชอบเขวี้ยงปาหินใส่จระเข้น่ะ ผมเห็นบ่อย ๆ แถวที่ทำงาน ปล่อยพวกมันอยู่อย่างสงบเหอะ”
ในขณะที่คณะกรรมการปกป้องคุ้มครองปลาและสัตว์ป่าแห่งฟลอริดาออกตัวว่า เหตุการณ์จระเข้โจมตีชาวบ้านเกิดขึ้นน้อยมาก แต่ตรงกันข้ามกลับมีข่าวจระเข้จู่โจมชาวฟลอริดาอยู่เนือง ๆ ในสัปดาห์นี้เองมีรายงานว่า คุณยายวัย 77 ปี อยู่ในชุมชน เบรเดทันเกต ก็เพิ่งโดนจระเข้จู่โจม ย้อนไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คนเลี้ยงจระเข้ในฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองวีนัส ก็โดนจระเข้กัดแขนขาดไป