เวลามีหนังฟอร์มใหญ่เรื่องใหม่เปิดตัว เรามักจะเห็นงานแถลงข่าวเปิดตัว แล้วฉายหนังรอบปฐมทัศน์ ถายในงานก็มักจะมีนายแบบ นางแบบ หรือเซเลบมาแต่งคอสเพลย์เป็นคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ในหนังเรื่องนั้น แต่รู้ไหมครับว่าธรรมเนียมการโปรโมตแบบนี้มีมาเกือบ 100 ปีแล้วเชียว แล้วครั้งหนึ่งมันก็เคยเป็นความผิดพลาดจนเป็นประวัติด่างพร้อยของดิสนีย์ ธุรกิจบันเทิงยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่รักษาภาพตัวเองในฐานะผู้สร้างสื่อสำหรับครอบครัวที่ขาวสะอาดมาโดยตลอด
ย้อนไปในยุคเริ่มต้นของ Walt Disney Animation Studios ดิสนีย์เปิดตัวได้สวยงามมาก กับอนิเมชันเรื่องแรกอย่าง Snow White and the Seven Dwarfs ออกฉายในปี 1937 หนังใช้ทุนสร้างไปเพียง 1.49 ล้านเหรียญ แต่ทำเงินจากการฉายไปถึง 7.8 ล้านเหรียญ (แต่ด้วยความที่เป็นภาพยนตร์การ์ตูนคลาสสิกที่ทั่วโลกรู้จัก หนังถูกนำกลับมาฉายใหม่หลายต่อหลายครั้ง หนังทำรายได้รวมไปมากถึง 418 ล้านเหรียญ)
3 ปีต่อมา ดิสนีย์สร้างภาพยนตร์อนิเมชันเรื่องที่ 2 คือ Pinocchio ออกฉายในปี 1940 และจัดรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 1940 ในโรงภาพยนตร์สุดหรูในวันนั้นคือ The Center Theater ในนิวยอร์ก ภายในงานนี้ ทีมงานดิสนีย์ได้มีไอเดียในการสร้างบรรยากาศสนุกครึกครื้น และดึงดูดความสนใจเด็ก ๆ ด้วยการ ว่าจ้างคนแคระถึง 11 คนให้มาแต่งคอสเพลย์เป็น พิน็อกคิโอ แล้วให้ขึ้นไปกระโดดโลดเต้นกันบริเวณด้านบนกันสาด เหนือซุ้มประตูทางเข้าของโรงหนัง เพื่อดึงดูดความสนใจเด็ก ๆ ระหว่างที่ต้องเข้าคิวซื้อตั๋วหนังเป็นเวลานาน
เผอิญว่าวันนี้อากาศร้อนอบอ้าวเป็นพิเศษ 11 คนแคระที่ต้องอยู่บนกันสาดมาตั้งแต่เช้า ยิ่งเวลาผ่านไปอากาศก็ยิ่งร้อนขึ้น ชุดที่ใส่นั้นก็หนาและยิ่งทวีความร้อนต่อผู้สวมใส่หนักขึ้นไปอีก เพราะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้เผชิญอากาศร้อนเช่นนี้ ก็ทำให้บรรดาคนแคระเริ่มหงุดหงิดกัน ทีมงานก็พยายามเอาใจบรรดาคนแคระด้วยการส่งอาหาร น้ำ และแถมด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ มีทั้งจิน และวิสกี้ เผื่อว่าพวกเขาจะใจเย็นลงกันบ้าง
แต่นั่นล่ะคือจุดพลิกผันที่ทำให้สถานการณ์นี้แย่ลงไปอีก เพราะทั้ง 11 คนนั้น ซัดแอลกอฮอลล์กันจนเมาปลิ้นตั้งแต่บ่ายต้น ๆ หลังทนอึดอัดกับชุดพิน็อกคิโอที่ใส่มาตั้งแต่เช้าแล้ว พอเมาได้ที่ก็เลยตัดสินใจถอดชุดออกหมด กันจนล่อนจ้อน บางคนเมาแล้วก็เริ่มพูดจาไม่ถูกหูกัน ทะเลาะตบตีกันอีก บางรายเมาหนักก็เริ่มออกท่าทางบ้า ๆ บอ ๆ พวกเขาลืมคิดไปหมดแล้วว่าถูกจ้างมาทำอะไร และพวกเขาอยู่ในสายตาของฝูงชนด้านล่าง บรรดาครอบครัวที่มาดูหนังก็ตกตะลึงกับภาพเหล่าคนแคระที่กำลังเมาเหล่านั้น คนแคระบางคนก็สบถถ้อยคำหยาบคายใส่ผู้คนด้านล่าง ทำเอาบรรดาพ่อแม่ที่พาลุกมาดูหนังถึงกับหลอนไปตาม ๆ กัน เพราะไม่คิดว่าจะต้องมาเห็นอะไรแบบนี้
ในที่สุดก็ตกเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องมาแก้ไขสถานการณ์ ด้วยการเอาบันไดมาพาดกับขอบกันสาด แล้วปีนขึ้นไปไล่จับบรรดาคนแคระ ที่พอเห็นตำรวจมาก็วิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุนกันไปคนละทิศทาง กว่าจะจับได้ครบทั้ง 11 คน ก็เล่นเอาเหนื่อยพอดู เมื่ออ่านเรื่องนี้ เราอาจจินตนาการออกมาเป็นภาพขำ ๆ เหมือนในหนังตลก ที่ตำรวจวิ่งไล่จับคนแคระ แต่สำหรับดิสนีย์แล้ว คงตลกไม่ออก เพราะนี่คือเรื่องน่าอายที่สุดแล้วในประวัติศาสตร์ของดิสนีย์ แม้จะผ่านมากว่า 80 ปีแล้วก็ตาม