เคยเห็นฉากนี้แบบนี้ในหนังกันใช่ไหมครับ เวลามีผู้ป่วยฉุกเฉินบนเครื่องบิน แอร์โฮสเตสหรือสจวร์ตก็จะประกาศว่า “บนเครื่องบินมีใครเป็นแพทย์หรือไม่” บางครั้งก็จะมีสักหนึ่ง หรือสองคน บางครั้งก็อาจจะไม่ใช่แพทย์ที่ตรงทางกับอาการป่วยนัก แต่ก็พอช่วยเหลือเบื้องต้นได้บ้าง แต่ในเรื่องที่หยิบมาเล่านี้ กลับมีแพทย์เฉพาะทางอยู่บนเครื่องบินถึง 15 คนเลยทีเดียว
เรื่องราวของความโชคดีบนความโชคร้ายของคุณยาย โดโรธี เฟลตเชอร์ (Dorothy Fletcher) วัย 67 ปี นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อพฤศจิกายน ปี 2004 ในวันนั้นคุณยายเฟลตเชอร์เดินทางจากเมืองลิวเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ไปยังรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เพื่อไปร่วมพิธีแต่งงานลูกสาวของคุณยาย ระหว่างอยู่บนเครื่องบินนั้น คุณยายก็รู้สึกเจ็บที่หน้าอกขึ้นมาเฉียบพลัน สจวร์ตรีบเข้ามาดูแลเธอ เมื่อเห็นว่าคุณยายมีอาการหัวใจวาย จึงรีบประกาศ “บนเครื่องบินมีใครเป็นหมอบ้างไหมครับ ?”
หลังสิ้นเสียงประกาศ ก็ปรากฏว่ามีชายลุกขึ้นยืนพร้อมกัน 15 คน และทั้ง 15 คนนั้นล้วนป็นหมอโรคหัวใจ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าพวกเขากำลังเดินทางไปประชุมทางวิชาการเกี่ยวกับโรคหัวใจที่ออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ตามข่าวไม่ได้ลงรายละเอียดว่า สุดท้ายแล้วมีหมอกี่คนเข้ามาช่วยเหลือคุณยายเฟลตเชอร์ แต่แพทย์ก็ใช้ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นบนเครื่องบินช่วยเหลือคุณยายไว้ได้ทัน เครื่องบินลงจอดฉุกเฉินที่รัฐนอร์ธแคโรไลนา เพื่อส่งคุณยายเข้าห้องฉุกเฉิน ก่อนจะมุ่งหน้าเส้นทางเดิม
“ฉันรู้สึกปวดมากบนแผ่นหลังแล้วก็ลามมาที่หน้าอก ปวดไปจนถึงแขน ตอนนั้นเหงื่อฉันไหลท่วมตัวเลยแล้วก็อาเจียนด้วย”
“ฉันแทบไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ คุณหมอเหล่านี้ต่างพุ่งตรงมาที่ฉัน คุณหมอทุกคนยอดเยี่ยมมาก พวกเขาช่วยชีวิตฉันไว้”
“ตอนนั้นฉันกลัวมากเลยนะ เพราะฉันไม่เคยมีอาการหัวใจวายมาก่อน แต่พอเห็นคุณหมอหลายคนมาช่วยฉัน ความกลัวก็หายไปหมดแล้ว”
คุณยายเฟลตเชอร์ย้อนเล่าเหตุการณ์ แต่อาการหัวใจวายของคุณยายก็รุนแรง ถึงขนาดที่ว่าถ้าไม่มีหมอโรคหัวใจบนเครื่องบิน คุณยายก็จบชีวิตไปแล้ว
“ฉันได้ยินเสียงหมอคนหนึ่งพูดว่า ‘ผมคิดว่าเราเสียเธอไปแล้วล่ะ’ พอได้ยินอย่างนั้น ฉันก็อยากจะบอกหมอนะว่าฉันยังไม่ตาย แต่หมออีกคนก็บอกว่าเขาจับเจอชีพจรฉันแล้ว”
“ตอนนั้นลูกสาวก็อยู่กับฉันด้วย คุณลองนึกภาพดูสิว่าเราจะรู้สึกอย่างไรกันตอนที่เห็นคุณหมอทุกคนลุกขึ้นยืน ฉันอยากจะขอบคุณพวกเขาทุกคน แต่ฉันก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าใครเป็นใครบ้าง แล้วตอนนี้พวกเขาก็เดินทางไปประชุมกันที่ออร์แลนโดหมดแล้ว”
คุณยายเข้ารับการรักษาตัวที่ศูนย์การแพทย์ชาร์ลอตต์เป็นเวลา 2 วัน แล้วโชคก็ยังคงเข้าข้างคุณยาย เพราะอาการเธอทุเลาขึ้น จนสามารถไปร่วมพิธีแต่งงานของลูกสาวได้ในสัปดาห์ต่อมา คริสทิน เพ็นแมน ลูกสาวของคุณยายวัย 32 ปี เข้าพิธีแต่งงานกับ แกเร็ธ คู่หมั้นหนุ่มของเธอ
“พวกเราเป็นหนี้คุณหมอเหล่านั้นอย่างมาก รวมไปถึงสายการบินด้วยที่อำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี ถ้าพวกหมอเหล่านั้นไม่อยู่บนเครื่องบิน คุณแม่ของฉันคงไม่ได้มาร่วมงานแต่งในวันนี้แล้ว แต่ด้วยเหตุที่ทุกอย่างมันฉุกละหุกไปหมด ฉันเลยไม่ได้ถามชื่อคุณหมอทุกคนไว้ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยค่ะ”
คริสติน เพ็นแมน กล่าวกับนักข่าว