ญี่ปุ่น เป็นชาติที่มีอายุขัยยืนยาวมากที่สุดในโลก ซึ่งนี่ถือเป็นการครองแชมป์มากกว่า 20 ปี แล้ว โดยมีอายุเฉลี่ยเกิน 100 ปี มากกว่า 20,000 คน ซึ่งทางรัฐเองก็ภูมิใจในสถิตินี้ และมีการจัดคณะเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมเยียนบรรดาผู้สูงอายุที่อายุยืนเพื่อมอบเกียรติบัตรและแสดงความยินดีกันอยู่เนือง ๆ ที่ผ่านมาก็เป็นกิจกรรมที่สร้างความปิติยินดีทั้งผู้มอบและผู้รับ และดำเนินการกันมาตลอดอย่างราบรื่นดี ยกเว้นกรณีเมื่อปี 2010 เมื่อทางหน่วยงานสังคมสงเคราะห์ของญี่ปุ่นต้องการเดินทางไปมอบเกียรติบัตรและแสดงความยินดีต่อคุณตาโซเก็น คาโตะ พวกเขาต้องเจอกับเรื่องไม่คาดฝัน
อ้างอิงตามทะเบียนราษฏร์แล้ว คุณตาโซเก็น คาโตะ นั้นเกิดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 1899 ในปี 2010 นั้น เขาจะมีอายุครบ 111 ปี ครองสถิติคนที่อายุยืนที่สุดในปีนั้น ในการนี้ทางหน่วยงานสังคมสงเคราะห์จึงเดินทางไปยังบ้านของคุณตาคาโตะเพื่อขอมอบเกียรติบัตรและแสดงความยินดี แต่เมื่อไปถึงบ้านของคุณตาคาโตะ ที่ย่านอะดะชิ ในกรุงโตเกียว ก็พบกับบรรดาหลาน ๆ ที่ออกมารับหน้าเจ้าหน้าที่แล้วปฏิเสธไม่ให้เข้าพบคุณตาคาโตะ อ้างว่า “คุณตาไม่ต้องการพบใคร”
การปฏิเสธครั้งนั้น สร้างความสงสัยให้กับเจ้าหน้าที่ฯ อย่างมาก จึงมีการแวะเวียนกลับไปติดต่อขอพบคุณตาคาโตะอยู่หลายครั้ง แต่ก็ได้รับการยืนกรานปฏิเสธ โทโมโกะ อิวามัตสึ เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์เขตอะดะชิ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจท้องถิ่น เพราะเกรงว่าน่าจะเกิดเรื่องร้ายกับคุณตาคาโตะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้ข้ออ้างทางกฎหมายขอเข้าตรวจค้นภายในบ้าน แล้วทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ต่างก็พากันตกตะลึงกับความลับที่ครอบครัวนี้ปิดบังมาตลอด 30 ปี เมื่อพบว่าร่างของคุณตาคาโตะกลายเป็นซากมัมมี่อยู่บนเตียง ร่างของคุณตาคาโตะนั้นอยู่ในชุดนอนแล้วมีผ้าห่มคลุมทับไว้
พอความจริงถูกเปิดเผยเช่นนี้ หลาน ๆ ก็แก้ต่างว่า เป็นเพราะคุณตาเองที่ขังตัวอยู่ในห้องเช่นนั้นมากว่า 30 ปีแล้ว เพราะคุณตาอ้างว่าจะเขาจะเป็นพระพุทธเจ้าที่กลับมาจุติใหม่ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สืบค้นลงลึกไป ก็เจอเจตนาที่แท้จริง ๆ ของหลาน ๆ คุณตาคาโตะว่า คุณตาคาโตะนั้นเคยอยู่กับคุณยาย ที่เป็นคุณครูเกษียณอายุ คุณยายนั้นเสียชีวิตไปก่อนหน้าคุณตาคาโตะได้ 6 ปี คุณตาจึงได้รับเงินช่วยเหลือจากทางรัฐในฐานะคู่สมรสตลอดมา และคุณตาก็อยู่ในบ้านหลังนี้กับลูกสาว ลูกเขย และหลาน ๆ หลังจากคุณตาเสียไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เมื่ออายุ 79 ปี เงินจากกองทุนช่วยเหลือนี้ก็ยังคงโอนเข้าบัญชีของคุณตาอยู่ทุกเดือน รวมแล้วเป็นเงินกว่า 109,000 เหรียญ ประมาณ 3 ล้านกว่าบาท และเงินจำนวนนี้เพิ่งถูกถอนไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ลูกหลานเลือกที่จะไม่แจ้งกับหน่วยงานรัฐว่าคุณตาคาโตะเสียชีวิตไปแล้ว
“ครอบครัวของคุณตาทราบกันดีละครับว่าคุณตาน่ะเสียไปนานแล้ว แต่พวกเขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันช่างน่าขนลุกมากครับ”
ยูกาตะ มุโรอิ เจ้าหน้าที่หน่วยงานสังคมสงเคราะห์ประจำกรุงโตเกียวกล่าว
หลังเรื่องราวอันน่าขนลุกของครอบครัวได้ถูกเปิดเผย บรรดาสมาชิกครอบครัวก็ต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาเจตนาฉ้อโกงต่อรัฐ