เหตุเกิดที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เมื่อวานนี้ 28 มกราคม หญิง 2 คน ที่เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมได้สาดซุปใส่ภาพโมนาลิซา จากนั้นก็ตะโกนคำขวัญเกี่ยวกับสภาพอากาศ และเรียกร้องสิทธิใน “อาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีความยั่งยืน”
หญิง 2 รายนี้เป็นผู้ประท้วงจากองค์กร ‘Riposte Alimentaire’ ของฝรั่งเศส แปลได้ใจความว่า “การตอบสนองด้านอาหาร” ทั้งคู่ได้ร่วมกันสาดซุปฟักทองเข้าใส่ภาพโมนาลิซา อันเลื่องชื่อ ผลงานชิ้นเอกของ เลโอนาร์โด ดาวินซี ในศตวรรษที่ 16 ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยช่วงเวลาที่เกิดเหตุว่า หญิงสองคนนี้มุดลอดแผงกั้นเข้าไป จากนั้นก็สาดซุปสีส้มไปที่ภาพโมนาลิซา จากนั้นพวกเธอทั้งคู่ก็ยืนอยู่หน้าภาพ ขณะที่เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ก็กรูกันมายังที่เกิดเหตุ พร้อมแผงป้องกัน จากนั้นหนึ่งในสองหญิงก็ถอดแจ็กเก็ตออกเผยให้เห็นเสื้อยืดสีขาวที่มีข้อความพิมพ์ด้วยตัวพิมพ์ใหญ่สีดำว่า “Riposte Alimentaire” ที่เป็นชื่อขององค์กร
“อะไรจะสำคัญกว่ากัน? ศิลปะหรือสิทธิ์ในอาหารเพื่อสุขภาพและมีความยั่งยืน” ทั้งคู่ตะโกนถามหลังจากสาดซุปแล้ว
“ระบบเกษตรกรรมของคุณกำลังป่วย ชาวนาของเรากำลังตายขณะที่ทำงาน”
หลังเกิดเหตุ ทางพิพิธภัณฑ์ได้ออกแถลงทันทีว่า ได้ทำการอพยพนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ ‘Salle des Etats’ ในส่วนที่แสดงภาพโมนาลิซาทันที และปิดพื้นที่เป็นเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อทำความสะอาด และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกครั้งในเวลา 11:30 น. ของวันนั้น การก่อเหตุครั้งนี้ไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ ต่อภาพโมนาลิซา เพราะตัวภาพนั้นจัดแสดงอยู่ภายใต้เกราะป้องกันที่เป็นกระจกใส แต่ถึงอย่างนั้นทางพิพิธภัณฑ์ก็จะทำการฟ้องร้องต่อองค์กรนี้
“ไม่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นกับภาพวาด ซึ่งได้รับการป้องกันอย่างดีอยู่ภายหลังกระจกหุ้มเกราะซึ่งติดตั้งมาตั้งแต่ปี 2005”
“เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ได้เข้าระงับเหตุทันที”
“The Salle des Etats ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงภาพโมนาลิซา ได้ทำการอพยพผู้ชมออกอย่างสงบเรียบร้อย”
“จากนั้นก็ได้ระงับการเข้าชมในพื้นที่ The Salle des Etats เป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อทำความสะอาดพื้นที่”
“ห้องนี้เปิดให้เข้าชมอีกครั้งในเวลา 11:30 น.”
“ทางพิพิธภัณฑ์จะทำการยื่นเรื่องร้องเรียน”
‘โมนาลิซา’ เป็นหนึ่งในภาพวาดที่มีค่ามากที่สุดในโลก ได้รับการบันทึกลงกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ดว่า เป็นภาพที่ได้รับการประเมินมูลค่าในการประกันภัยสูงที่สุดที่ 100 ล้านเหรียญ ส่วนราคาในปัจจุบันสูงถึง 1,000 ล้านเหรียญแล้ว
องค์กร Riposte Alimentaire ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการก่อเหตุดังกล่าว ระบุว่านักเคลื่อนไหว 2 คนนั้นคือ ซาชา และมารี-จูเลียตต์ วัย 24 ปี และ 63 ปี
การก่อเหตุครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเหตุการประท้วงของกลุ่มเกษตรกรชาวฝรั่งเศสที่ดำเนินการต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว พวกเขาเรียกร้องค่าจ้าง ภาษี และให้ปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ
เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มกราคม นายแกเบรียล แอตทาล นายกรัฐมนตรีได้ประกาศมาตรการหลายประการแล้ว แต่กระนั้นการประท้วงปิดถนนก็ยังคงดำเนินต่อไปหลาย ๆ จุดในฝรั่งเศส
ที่มา : Dailymail