แม้ภาพรวมของงานประกาศรางวัลออสการ์ (Academy Awards) ครั้งที่ 96 ประจำปี 2024 จะจบลงไปอย่างน่าประทับใจโดยที่ไม่มีเหตุการณ์ขัดข้อง แต่ก็ยังมีหลายประเด็นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานที่ต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม 1 ในนั้นก็คือเหตุการณ์สำคัญตอนที่ อัล ปาชิโน (Al Pacino) นักแสดงรุ่นเก๋าเจ้าของรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก ‘Scent of a Woman’ (1992) ที่ได้รับเกียรติให้ขึ้นมาประกาศรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
แต่แทนที่จะส่งเข้าคิวเปิดเผยรายชื่อภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอเข้าชิงในสาขาสุดท้ายของงาน แต่ปาชิโนกลับข้ามช็อตด้วยการเปิดซองและประกาศชื่อ ‘Oppenheimer’ หนังที่ได้รับรางวัลนี้อย่างทันควัน ก่อนที่กล้องจะตัดไปยังภาพของ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) รวมทั้งนักแสดง และเหล่าทีมงานที่ขึ้นมารับรางวัลร่วมกัน พร้อมกับเสียงปรบมือเบา ๆ จนทำให้หลายคนถกเถียงกันว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ บางคนแสดงความคิดเห็นว่านี่เป็นการประกาศรางวัลที่เต็มไปด้วยความงุ่มง่ามจนผิดคิว บ้างก็แสดงความคิดเห็นว่าเป็นการแหวกขนบบนเวทีออสการ์ที่น่าสนใจ
หลังจากจบงาน ปาชิโนได้เผยแพร่คำชี้แจงเกี่ยวกับการทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศรางวัลของเขาในค่ำคืนนั้น ซึ่งเขาได้อธิบายว่า การละเว้นการขานชื่อผู้เข้าชิงไม่ได้เกิดขึ้นจากเจตนาของเขา แต่เป็น ‘การตัดสินใจของโปรดิวเซอร์’ เนื่องจากว่าในการถ่ายทอดสด จะมีการแนะนำรายชื่อหนังที่ได้เข้าชิงทุกเรื่องตอนเริ่มต้นการถ่ายทอดสดในแต่ละเบรกอยู่แล้ว และเขาเองก็เห็นอกเห็นใจในฐานะนักแสดงและคนทำหนัง ที่อาจมองว่าการกระทำนี้เป็นการเจตนา ‘ละเลย’ หนังที่เข้าชิงเรื่องอื่น ๆ ไปด้วย
แม้แต่ จิมมี คิมเมล (Jimmy Kimmel) พิธีกรเจ้าของรายการทอล์กโชว์ ‘Jimmy Kimmel Live!’ ผู้ทำหน้าที่ดำเนินรายการในค่ำคืนนี้ ยังออกมากล่าวถึงแบบติดตลกถึงปาชิโน ในบทความเบื้องหลังงานออสการ์ของ Variety แบบ Exclusive ว่า “ผมเดาว่าเขาคงไม่เคยดูงานประกาศรางวัลมาก่อนเลย ดูเหมือนว่าทุกคนในอเมริกาจะรู้จังหวะว่ามันควรจะเป็นยังไงต่อ จนกระทั่งถึงเวลา… ‘และรางวัลออสการ์ตกเป็นของ….’ แต่ไม่ใช่กับ อัล ปาชิโน! พระเจ้าได้โปรดอวยพรเขาด้วย”
“ดูเหมือนว่าจะมีการถกเถียงกันเกี่ยวกับการที่ผมไม่ได้กล่าวชื่อภาพยนตร์ทุกเรื่องในคืนนั้น ก่อนจะประกาศรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผมอยากแค่อธิบายให้ชัดเจนว่า นี่ไม่ใช่ความตั้งใจของผมที่จะละเว้น แต่เป็นทางเลือกของโปรดิวเซอร์ ที่จะไม่ต้องการพูด (รายชื่อหนังที่เข้าชิง) อีกครั้ง เนื่องจากหนังเหล่านี้ถูกแนะนำเป็นรายตัวมาตลอดพิธีการ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของค่ำคืนนี้ และเลือกที่จะปฏิบัติตามแนวทางที่พวกเขาปรารถนาที่จะมอบรางวัลนี้”
“ผมเองตระหนักดีว่า การได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงนั้นถือเป็นก้าวที่สำคัญในชีวิต และการไม่ได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่ ถือเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจและเจ็บปวด ผมพูดเรื่องนี้ในฐานะคนที่มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับผู้สร้างภาพยนตร์ นักแสดง และโปรดิวเซอร์ ดังนั้น ผมจึงมีความเห็นอกเห็นใจผู้ที่ถูกละเลยจากการควบคุมดูแลนี้อย่างลึกซึ้ง และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมผมจึงรู้สึกว่ามีความจำเป็นที่จะต้องออกมาแถลงด้วยข้อความนี้”
นอกจากนี้ มอลลี แม็กเนียร์นีย์ (Molly McNearney) Executive Producer หัวหน้าทีมเขียนบทร่วมของรายการ ‘Jimmy Kimmel Live!’ รวมทั้งยังเข้ามาเป็นโปรดิวเซอร์ของงานออสการ์ตั้งแต่ปี 2023 (นอกจากนี้เธอยังมีศักดิ์เป็นภรรยาของคิมเมล) ได้อธิบายขยายความในฝั่งของทีมงานว่าเป็น ‘การตัดสินใจในเชิงครีเอทีฟ’ ที่ไม่ให้ปาชิโนเสนอรายชื่อผู้เข้าชิงซ้ำอีก เพราะจะกินเวลาการถ่ายทอดสดมากจนเกินไป
“เมื่อถึงเวลาสิ้นสุดการโชว์ (ในแต่ละเบรก) คุณจะได้เห็นคลิปหนังที่เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมทั้ง 10 เรื่องอยู่แล้ว ผู้คนแค่อยากได้ยินว่าใครชนะเฉย ๆ และพวกเขาก็พร้อมที่จะรันงานต่อให้จบ อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่เราคาดหวังไว้ ดังนั้นเราจึงไม่เปิดคลิปนั้นซ้ำ และเราก็ไม่ได้เอาชื่อมาให้เขาอ่านอีกที ฉันเองต้องขอโทษ (ปาชิโน) ด้วย หากการตัดสินใจของเราที่ไม่ต้องการนำเสนอรายชื่อทั้งหมด จะทำให้เขาต้องตกอยู่ในจุดที่ลำบาก”
แม้การตัดสินใจประกาศชื่อแบบด่วน ๆ ของปาชิโน จะทำให้หลายคนในงานรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่เธอเองก็อธิบายเสริมว่า “แต่ว่าฟังฉันนะคะ นี่แหละคือความตื่นเต้นของการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคุณจะได้เจออะไรอย่างแน่นอน!”