อย่างที่ทราบกันดีกว่า เอลเลียต เพจ (Elliot Page) นักแสดงชาวแคนาดาวัย 36 ปีที่มีผลงานการแสดงมากมาย อาทิ เจ้าของบทบาท วิกเตอร์ ฮาร์กรีฟส์ จากซีรีส์ ‘The Umbrella Academy’ ของ Netflix ในอดีตคือ เอลเลน เพจ (Ellen Page) นักแสดงสาววัยรุ่นที่แจ้งเกิดจากบทบาท จูโน่ สาวตั้งครรภ์ในวัยเรียน จากหนังอินดี้กระแสแรงเจ้าของรางวัลออสการ์ ‘Juno’ (2007) รวมทั้งบทบาทใน ‘Whip It’ (2009) และ ‘Inception’ (2010)
ก่อนที่เธอจะออกมา Come Out หรือเปิดเผยตัวเองว่ามีรสนิยมทางเพศเป็น Queer ที่เป็น Non-Binary เมื่อปี 2014 ก่อนที่เขาจะเปิดเผยตัวเองว่าเป็นผู้ชายข้ามเพศ (Transgender Men) ในปี 2020 ในหนังสือชีวประวัติของเขาที่มีชื่อว่า ‘Pageboy’ มีส่วนหนึ่งที่เล่าเรื่องช่วงชีวิตของเขาตอนที่กำลังถ่ายทำหนังตลกดราม่า Coming of Age เรื่อง ‘Juno’ ในช่วงที่เขายังไม่ได้ Come Out โดยเขาได้เปิดเผยว่า ในระหว่างการถ่ายทำ เขาเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนนักแสดงคนหนึ่ง
นั่นก็คือ โอลิเวีย เธิร์ลบี (Olivia Thirlby) วัย 36 ปีที่แสดงเป็น ลีอาห์ เพื่อนของจูโน และเธอยังเคยมีผลงานการแสดง อาทิ ซีรีส์ ‘Y: The Last Man’ (2021) และร่วมแสดงในหนัง ‘Oppenheimer’ (2023) ซึ่งเพจได้อธิบายความสัมพันธ์ของเขากับเธิร์ลบีว่าเป็น “ผู้หญิงคนแรกที่ผมได้มีความสัมพันธ์ทางเพศที่เกิดจากการยินยอมพร้อมในกันอย่างแท้จริง” และเป็นความสัมพันธ์ทางเพศที่ไม่ได้เกิดจากความสัมพันธ์ทางใจไปมากกว่าการเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทสนมเท่านั้น
เพจเล่าถึงความสัมพันธ์ของเขากับเธอว่า “เราต่างอายุเท่า ๆ กัน แต่เธอกลับดูอายุมากกว่ามาก มีความสามารถ เป็นคนที่เป็นกลางและเปิดกว้างทางเพศ ซึ่งมันห่างไกลกับตอนที่ผมเป็นอยู่ ณ เวลานั้น” เพจเล่าเสริมว่า เขาเก็บความสัมพันธ์อันซ่อนเร้นนี้ไว้ และเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจว่าแม่ของเขา ที่พักอยู่ด้วยกันในระหว่างถ่ายทำที่โรงแรมในแวนคูเวอร์จะสงสัยอะไรในตัวเขาบ้างหรือไม่
ในหนังสือ เพจยังเขียนเล่าว่า “เคมีของเรานั้นเข้ากันอย่างเห็นได้ชัด และเวลาที่ผมอยู่ใกล้เธิร์ลบี ผมเองก็รู้สึกขี้อายจนเกินเบอร์ หลังจากที่ผมเป็นเพื่อนกับเขา เขาบอกผมว่า ‘ฉันสนใจเธอนะ’ แล้วหลังจากนั้นเราก็จูบกันอย่างดูดดื่ม”
“เราทั้งคู่ต่างเริ่มมีเซ็กส์กันตลอดเวลา ไม่ว่าจะทั้งในห้องพักในโรงแรมของเธอ ในรถเทรลเลอร์ในกองถ่าย หรือครั้งหนึ่งในห้องส่วนตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ในร้านอาหาร ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นเราคิดอะไรกันอยู่ ? แต่เราทั้งคู่ต่างก็ชิดใกล้กัน โอลิเวียทำให้ความอับอายในตัวผมลดลง ผมไม่เห็นสิ่งนั้นในประกายตาของเธอ ซึ่งผมเองก็ต้องการแบบนั้น – การหยุดยั้งความรู้สึกน่าสมเพชในตัวของผมเอง”
หลังจากที่เพจได้ประกาศ Come Out เขาต้องเผชิญกับทัศนคติการเหยียดเพศที่รุนแรง เขาเปิดเผยไว้ในหนังสือเล่มเดียวกันว่า หลังจากเปิดเผยรสนิยมทางเพศได้เพียง 2 เดือน เขาเคยถูกนักแสดงชายแถวหน้าคนหนึ่งคุกคามเขาด้วยการพูดเชิญชวนให้เขาไป ‘เปลี่ยนทอมให้เป็นเธอ’ กลางงานปาร์ตี้ เมื่อปีที่แล้ว เขาเคยถูกชายบ้าคลั่งคนหนึ่งพูดข่มขู่ว่า “กูจะฟาดหัวมึ-ให้แหลกไปเลย” จนเขาต้องเดินเข้าไปหลบในร้านสะดวกซื้อ
รวมทั้งความอึดอัดที่เขาต้องเผชิญภายใต้เพศสภาพผู้หญิงที่ติดตัวเขามาตลอดชีวิต ไม่เว้นแม้แต่ช่วงที่หนัง ‘Juno’ ที่ทำให้เขาได้แจ้งเกิดและมีผลงานตามมาอีกมากมาย เขาได้บรรยายความอึดอัดนี้ในบทความที่เขาเขียนให้กับนิตยสาร Esquire
“ผมเองต้องปกปิดรสนิยมทางเพศ ต้องสวมชุดเดรส รองเท้าส้นสูง และดูลุคนั่นสิ-ผมไม่รู้สึกโอเคเลย และผมก็ไม่รู้ว่าจะบอกเรื่องนี้กับใครและยังไงดี ตอน ‘Juno’ ดังเปรี้ยง มันเป็นสิ่งที่ฟังดูแปลกสำหรับผู้คน และผมก็คิดว่าผู้คนคงไม่เข้าใจสิ่งนี้หรอก แม่-เอ๊ย คุณเป็นทั้งคนดัง ทั้งมีเงิน แล้วคุณก็ต้องสวมชุดเดรสแบบที่ โอยยย… ผมไม่เข้าในปฏิกิริยานั้นเลย แต่ผมเองก็หวังด้วยว่าคนอื่นจะเข้าใจนะว่าชุดเชี่-นั่นน่ะมันทำให้ผมอยากตายได้จริง ๆ นะ”
ในขณะที่เธิร์ลบีเองเคยเปิดเผยว่าตัวเองมีรสนิยมทางเพศเป็นไบเซ็กชวล (Bisexual) กับ Brooklyn Magazine เมื่อปี 2011 ก่อนที่ในปี 2014 เธอจะแต่งงานกับ ฌาคส์ ปินาร์ (Jacques Pienaar) ในระหว่างถ่ายทำหนังไซไฟ ‘Dredd’ (2012) ก่อนจะหย่ากันในปี 2021
โดยเธอได้เปิดเผยว่า “ไม่มีใครควรจะต้องปิดบังรสนิยมทางเพศ สำหรับฉัน การแสดงความรักต่อผู้คน เป็นส่วนสำคัญของการเป็นมนุษย์ และการจะรักใครแบบแอบ ๆ ซ่อน ๆ นั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก การบังคับให้ผู้อื่นทำล้วนเป็นสิ่งที่น่ากลัว และฉันเองไม่ใช่สเตรท (Straight) 100% และฉันโชคดีมากที่ได้ทำงานที่ไม่จำเป็นต้องแอบซ่อนรสนิยมทางเพศ”
เธิร์ลบีได้อธิบายถึงการสำรวจความสัมพันธ์ท่ามกลางความหลากหลายทางเพศ โดยไม่ขึ้นกับเพศสภาพของตนเอง ในซีรีส์ ‘Y: The Last Man’ ที่เธอร่วมแสดงกับนิตยสาร Interview
“แนวคิดที่ว่า การจะดึงดูดใครสักคนโดยไม่ต้องคำนึงว่าเขาจะเป็น Cisgender (เพศสถานะสอดคล้องกับเพศสภาพ), ทรานส์ หรือ Intersex มันยังค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับคนหมู่มาก แต่กลับคนบางกลุ่มกลับไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย และฉันเองก็เป็นแบบนั้น และตัวละครของฉันก็เป็นแบบนั้นด้วย”
“มันเป็นตัวบ่งบอกถึงความต้องการอันลึกซึ้ง ที่เราทุกคนต้องสามารถก้าวออกจากความเป็น Binary และการแปะป้ายเพศได้ ตามวัฒนธรรมแล้ว เราถูกกดขี่ทางเพศมาโดยตลอด และมันขยายไปสู่ความหลงไหลในอวัยวะเพศของผู้อื่น และนั่นแหละคือเป้าหมายที่กำลังจะมุ่งไป ขอบคุณพระเจ้า ที่ทำให้ความเข้าใจไม่ใช่เพียงแค่การแสดงออกทางเพศ แต่ยังเกี่ยวกับเรื่องของความดึงดูดใจระหว่างมนุษย์ด้วยกันอีกด้วย”
เพจได้อธิบายกับนิตยสาร People เกี่ยวกับความสุขที่เขาค้นพบหลังจากที่ได้เปิดเผยรสนิยมทางเพศของตัวเองว่า “มันให้ความรู้สึกในแบบที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้รู้สึก และนั่นมันก็หมายถึงความรู้สึกที่ผมมีในปัจจุบันด้วย ผมรู้สึกสบายใจและดำรงชีวิตอยู่ได้ ในขณะที่เคยมีช่วงหนึ่งในชีวิตของผมที่ไม่เคยได้รู้สึกแบบนี้จริง ๆ “