หลังจากวางแผง Studio Album ชุดที่ 11 ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ที่ใช้ชื่อว่า ‘The Tortured Poets Department’ ไปเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาให้กับบรรดาสวิฟตี้ รวมทั้งวงการเพลง เพราะนอกจากจะทำเซอร์ไพรส์ด้วยการปล่อยเพลงที่บรรจุอยู่ในอัลบั้มมากถึง 16 เพลงแล้ว ก็ยังมีการปล่อยอัลบั้มเวอร์ชัน ‘The Anthology’ ที่ประกอบไปด้วยเพลงใหม่เพิ่มเติม รวมทั้งหมด 31 แทร็กออกมาให้ได้ฟังกันด้วย
และแน่นอนว่าด้วยความที่สวิฟต์เองมีความเป็นศิลปินและนักแต่งเพลงที่ได้รับการยอมรับชื่นชมในการเล่าเรื่องผ่านเนื้อเพลง จึงเลี่ยงไม่ได้ที่แฟนเพลงจะเอาเนื้อหาจากแต่ละแทร็กมาตีความและวิเคราะห์กันว่าสวิฟต์จะพูดถึงเรื่องอะไรบ้างในแต่ละเพลง 1 ในแทร็กเหล่านั้นก็คือ “The Black Dog” แทร็กแรกของเวอร์ชัน ‘The Anthology’ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้สึกยังมูฟออนกับความรักที่เลิกราไปไม่ได้ ต่อให้เลิกกันแล้วก็ยังอดไม่ได้ที่จะอยากรู้ความเคลื่อนไหวของอดีตคนรักเก่าอยู่ดี
แต่ทฤษฏีที่สวิฟตี้หลายคนเห็นตรงกันมากที่สุดก็คือ สวิฟต์ต้องการใช้เพลงนี้บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของเธอกับแฟนเก่า โจ อัลวิน (Joe Alwyn) นักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษ โปรดิวเซอร์เพลง ที่เคยคบหากับสวิฟต์มายาวนานถึง 6 ปี ก่อนจะเลิกรากันไปในปี 2023 ที่ผ่านมา ส่วนคำว่า The Black Dog หลายคนตีความกันว่าอาจจะหมายถึงร้านผับชื่อ ‘The Black Dog’ ที่ตั้งอยู่ย่านวอกซ์ซอลล์ (Vauxhall) กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ที่พอเพลงปล่อยออกไป ก็มีแฟนคลับไปเช็กอิน สั่งอาหารและเครื่องดื่มกันเพียบ (และตอนนี้บ้านของอัลวินก็อยู่ใกล้ ๆ ย่านวอกซ์ซอลล์ด้วย)
ตีความแบบหลวม ๆ ได้ว่า สวิฟต์อาจแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อสื่อถึงอาการมูฟออนไม่ได้ของเธอที่มีต่ออดีตคนรักรุ่นน้องคนนี้ (แม้ตอนนี้สวิฟต์กำลังหวานชื่นกับแฟนหนุ่มนักกีฬาอยู่ก็ตามที) ล่าสุด เว็บไซต์ People ได้เปิดเผยจากแหล่งข่าววงในว่า ไม่ต้องกังวลว่าอัลวินจะยังเสียใจ (เหมือนกับช่วงแรก ๆ ที่หลายคนจับสังเกตได้ว่าเจ้าตัวมีแอบเฮิร์ต)
เพราะนอกจากตอนนี้เจ้าตัวกำลังมีสมาธิกับงานแสดงในหนัง ‘Kinds of Kindness’ ของผู้กำกับ ยอร์กอส ลานธิมอส (Yorgos Lanthimos) ที่จะมีกำหนดการเปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 77 (77th Cannes Film Festival) ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้แล้ว แหล่งข่าวเองยังเผยว่า เวลานี้เขาน่าจะกำลังอยู่ในระหว่างดูใจกับใครบางคนอยู่
โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า “ช่วงนี้เขากำลังไปได้สวย มีสมาธิกับงาน เขากำลังออกเดตและมีความสุข เขาเป็นคนที่นิสัยดี และไม่อินกับดราม่าใด ๆ แน่นอนว่าเขาไม่เคยพูดถึงเธอ (สวิฟต์) ในแง่ร้ายเลย เขารักเธอมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้”
รวมทั้งเผยว่า “โจเป็นคนที่ชอบการแสดง แต่เขาไม่สามารถอดทนต่อความสนใจที่มาพร้อมกับอาชีพนักแสดงได้ เขาไม่สบายใจเมื่อต้องอยู่ใต้สปอตไลต์”
สวิฟต์และอัลวินรู้จักกันผ่านเพื่อนสนิทของพวกเขา ก่อนจะเริ่มคบหากันแบบเงียบ ๆ มาตั้งแต่ปี 2016 และเปิดตัวคู่กันครั้งแรกในงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ ปี 2020 ส่วนสวิฟต์ก็เคยมางานกาลาดินเนอร์หนัง ‘The Favourite’ (2018) ที่อัลวินร่วมแสดง
อัลวินเคยมีส่วนร่วมในผลงานของสวิฟต์ ตั้งแต่การร่วมเป็นโปรดิวเซอร์ในอัลบั้ม ‘Folklore’ (2020) ร่วมกับสวิฟต์, แจ็ก แอนโทนอฟฟ์ (Jack Antonoff) และ แอรอน เดสเนอร์ (Aaron Dessner) และยังมีเครดิตเป็นผู้ร่วมแต่งเพลง “Betty” และ “Exile” โดยใช้นามแฝงว่า วิลเลียม โบเวรี (William Bowery) ซึ่งทำให้เขามีเครดิตในการรับรางวัล Album of the Year จากเวที Grammy Awards รวมทั้งยังร่วมแต่งเพลงอีกหลายเพลงในอัลบั้มถัดมาของสวิฟต์อย่าง ‘Evermore’ (2020) ด้วย
ตลอดเวลาที่คบหากัน มีรายงานว่าความรักของทั้งคู่กำลังหวานชื่นและมั่นคงมาก ๆ จนถึงขั้นที่ว่ากันว่าสวิฟต์ได้บรรยายอาการตกอยู่ในห้วงและม่านหมอกแห่งความรักของเธอกับอัลวินไว้ในเพลง “Lavender Haze” ที่อยู่ในอัลบั้ม ‘Midnights’ (2022) ในขณะที่เธอก็เคยเปิดเผยว่า ทั้งคู่ก็ต้องคอยหลบเลี่ยงข่าวลือและความสนใจของสาธารณชนที่มีต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่ด้วยเช่นกัน
จนกระทั่งช่วงเดือนเมษายน ปี 2023 หลังจากประกาศทัวร์คอนเสิร์ต ‘The Eras Tour’ ก็มีข่าวออกมารายงานว่าทั้งคู่ได้ตัดสินใจเลิกรากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็มีข่าวที่เธอคบหากับ แมตตี ฮิลลี (Matty Healy) ฟรอนต์แมนของวงดนตรี ‘The 1975’ ชั่วระยะสั้น ๆ (และมีสื่อเชื่อมโยงว่า สวิฟต์เล่าถึงเรื่องของเขาไว้ในเพลง “But Daddy I Love Him”) ก่อนจะมีข่าวคบหากับ ทราวิส เคลซี (Travis Kelce) วัย 33 ปี นักอเมริกันฟุตบอลดาวดังของ NFL จากทีม แคนซัส ซิตี ชีฟส์ (Kansas City Chiefs) ในเวลาต่อมา