นับตั้งแต่ที่ซีลีน ดิออน (Celine Dion) ศิลปินดีวาเสียงทรงพลังในตำนานชาวแคนาดา เจ้าของบทเพลง “My Heart Will Go On” ได้ออกมาเปิดเผยว่าตัวเธอเองกำลังเผชิญโรคทางระบบประสาทที่เรียกว่าโรคคนแข็ง หรือสติฟฟ์ เพอร์ซัน ซินโดรม (Stiff Person Syndrome) เมื่อช่วงปลายปี 2022 จนทำให้จำเป็นต้องเลื่อนทัวร์การแสดงคอนเสิร์ตในเวลานั้นออกไป
หลังจากที่เธอเริ่มกลับมาปรากฏตัวต่อสื่อ ดิออน วัย 56 ปี ได้มีโอกาสเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของเธอเป็นครั้งแรกในรายการสัมภาษณ์ ‘The Today Show’ ของสถานีโทรทัศน์ NBC ซึ่งเธอได้มีโอกาสเล่าถึงความรู้สึกและเหตุผลที่ทำให้เธอตัดสินใจออกมาเปิดเผยว่าตัวเธอเองกำลังเผชิญกับโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาหาย หลังจากที่เธอเก็บคำวินิจฉัยของแพทย์ และต่อสู้กับอาการนี้เงียบ ๆ มาเป็นระยะเวลานานกว่า 17 ปี
ดิออนเปิดเผยว่า เธอเริ่มพบสัญญาณแรกของอาการเจ็บป่วยเป็นครั้งแรกในระหว่างทำการแสดงทัวร์คอนเสิร์ต ‘Taking Chances World Tour’ (2008–2009) ซึ่งในตอนนั้นเธอเลือกที่จะเก็บคำวินิจฉัยของแพทย์ไว้เป็นความลับโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ในปี 2016 เรอเน อองเชลลีล (René Angélil) สามีและผู้จัดการศิลปินของเธอเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งกล่องเสียงในวันที่ 14 มกราคม
และเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด วันที่ 16 มกราคม หรืออีก 2 วันถัดมา แดเนียล ดิออน (Daniel Dion) พี่ชายของเธอก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำคอ ลิ้นและสมอง การสูญเสียบุคคลสำคัญทั้ง 2 ของเธอในเวลาใกล้ ๆ กันจนทำให้ต้องยกเลิกตารางการแสดง Concert Residency ที่มีชื่อว่า ‘Celine’ (2011-2019) ในลาสเวกัส ยิ่งสร้างความกดดันในการพยายามเก็บซ่อนอาการเจ็บป่วยของเธอให้หนักหนาสาหัสกว่าเดิม
ยังไม่นับภาระหน้าที่ในฐานะแม่ของลูกชายทั้ง 3 คน ที่ประกอบไปด้วย เรอเน-ชาร์ลส์ อองเชลลีล (René-Charles Angélil) ลูกชายวัย 23 ปี และลูกชายฝาแฝด เนลสัน (Nelson Angélil) และเอ็ดดี (Eddy Angélil) วัย 13 ปี เริ่มทำให้เธอรู้สึกหนักใจที่ต้องแบกความลับ ในขณะที่ร่างกายของเธอเองเริ่มทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ จนแฟนเพลงหลายคนเริ่มจับสังเกตได้จากร่างกายที่ผ่ายผอม จนในที่สุดเมื่อถึงจุดหนึ่ง เธอก็ไม่สามารถทนเก็บความลับนี้ได้อีกต่อไป
“ฉันทนทำสิ่งนี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว ฉันไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันไม่ได้ใช้เวลา…ฉันควรจะหยุดและใช้เวลาเพื่อคิดให้ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่สุดท้ายมันก็ไม่ทัน สามีของฉันเองก็กำลังต่อสู้เพื่อชีวิตของเขาด้วยเหมือนกัน”
“ตัวฉันเองต้องเลี้ยงลูก ๆ ฉันต้องปิดบังความลับเอาไว้ ฉันต้องพยายามทำตัวเป็นฮีโร ในขณะที่ฉันกำลังรู้สึกว่าร่างกายของฉันกำลังจะเสื่อมสลายไป ฉันต้องพยายามยึดมั่นในความฝันของตัวเอง แต่แล้วการโกหกเพื่อตัวฉันเองมันก็กลายเป็นภาระที่หนักหน่วงมาก ฉันโกหกผู้คนที่พาฉันมาถึงจุดนี้ ฉันทำแบบนั้นต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว”
ดิออนได้เปิดตัวสตูดิโออัลบั้มชุดใหม่ ‘Courage’ (2019) ตามมาด้วยการประกาศทัวร์คอนเสิร์ต ‘Courage World Tour’ ในปี 2019–2020 ที่ต้องหยุดชะงักไปเพราะโรคระบาด ก่อนที่จะกลับมาทำการแสดงอีกครั้งในปี 2021 แต่แล้วในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน มีรายงานข่าวออกมาว่า เธอได้รับการวินิจฉัยพบว่ามีอาการกล้ามเนื้อหดตัวชนิดรุนแรงและเรื้อรัง (Muscle Spasms) จนทำให้ต้องเลื่อนตารางการแสดงคอนเสิร์ต รวมทั้งตารางแสดง Concert Residency ในลาสเวกัสออกไป
จนกระทั่งในวันที่ 8 ธันวาคม 2022 ดิออนได้ออกมาเปิดเผยผ่านคลิปบน Instagram ว่า เธอกำลังเผชิญกับอาการของโรค Stiff Person Syndrome ซึ่งเป็นโรคทางระบบประสาทและภูมิคุ้มกันที่ทำให้กล้ามเนื้อช่วงลำตัว แขนขาหดเกร็ง และมีความไวต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ เช่น อารมณ์ เสียงรบกวน หรือการสัมผัส โรคนี้เป็นโรคที่พบได้ยาก และยังไม่มีแนวทางการรักษา มีแต่เพียงการรักษาตามอาการ
ทำให้เธอต้องเผชิญความยากลำบากในการดำรงชีวิต เดินและยืนได้ลำบาก และทำให้การร้องเพลงมีปัญหาไปด้วย จนทำให้ต้องยกเลิกตารางทัวร์คอนเสิร์ต ‘Courage World Tour’ ในอเมริกาเหนือและยุโรป ที่จะเกิดขึ้นในปี 2022-2024 ออกไปทั้งหมด
ดิออนเข้ารับการรักษาโดยทีมแพทย์เพื่อพยุงอาการให้ดีขึ้น แต่ในปี 2023 ในขณะที่เธอยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน มีรายงานว่าอาการของเธอเริ่มทรุดโทรมมากขึ้นเรื่อย ๆ อาการโรคคนแข็งทำให้เธอมีปัญหาในการเดินหกล้ม หลังค่อม และเจอสภาวะเสียงดังที่กระตุ้นทำให้เธอเกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุกอย่างรุนแรงในการสัมภาษณ์ Session เดียวกัน เธอยังอธิบายถึงความเจ็บปวดที่เธอต้องเผชิญจากโรคร้ายนี้
“มันเหมือนกับว่ามีคนมาคอยบีบคอคุณ เหมือนว่ามีคนกำลังดันกล่องเสียงและคอหอยของคุณอยู่ (ทำท่าเอามือจับที่ลำคอและร้องเพลงเสียงสูงและต่ำเกินกว่าปกติ) มันเหมือนที่ฉันลองเมื่อกี้นี้เลย คุณไม่สามารถทำเสียงขึ้นสูงหรือลงต่ำได้ เพราะมันมีอาการ (กล้ามเนื้อ) กระตุก”
เธอเคยเปิดเผยอาการนี้ในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vogue หลังจากที่เธอเริ่มพบอาการของโรคดังกล่าวอย่างชัดเจนในปี 2008 “มันเป็นสิ่งที่รวดเร็วมาก ฉันเริ่มมีปัญหาในการควบคุมเสียงของฉันเอง ตอนแรกฉันคิดว่าคงโอเค ไม่เป็นอะไร”
“อาการนี้อาจอยู่ในช่องท้องก็ได้ อยู่ในกระดูกสันหลัง อยู่ในซี่โครงก็ได้ ถ้าหากฉันทำท่าจิกปลายเท้า มันจะค้างในท่านั้น หรือถ้าฉันทำอาหาร เพราะว่าฉันเป็นคนชอบทำอาหาร นิ้วและมือของฉันจะค้างทั้ง ๆ แบบนั้นเลย ถ้าเท้าของฉันเป็นตะคริว คุณจะไม่สามารถคลายกล้ามเนื้อได้ ฉันเคยซี่โครงหักอยู่ช่วงหนึ่ง เพราะบางครั้งเมื่ออาการรุนแรงขึ้น มันจะทำให้ซี่โครงบางส่วนหักได้เหมือนกัน”
แม้ก่อนหน้านี้ คลอเดตต์ ดิออน (Claudette Dion) พี่สาวของเธอจะออกมาเปิดเผยว่า ซีลีนไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อของเธอเองได้อีกต่อไป จนเรียกได้ว่าเป็นการหยุดอาชีพศิลปินของเธอแบบกลาย ๆ แต่เธอก็ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการปรากฏตัวบนเวทีแกรมมี่อวอร์ด (Grammy Awards) พร้อมกับลูกชายคนโต เรอเน-ชาร์ลส์ เพื่อประกาศรางวัลอัลบั้มแห่งปี ที่ตกเป็นของอัลบั้ม ‘Midnights’ (2022) ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ด้วยสีหน้าและร่างกายที่แจ่มใส
หลังจากนั้น เธอได้มีโอกาสถ่ายแบบ ขึ้นปก และให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Vogue ฝรั่งเศส ซึ่งเธอเองเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า เธอไม่แน่ใจว่าจะได้กลับมาโชว์พลังเสียงบนเวทีอีกเมื่อใด “ฉันก็ตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะ เพราะว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ฉันก็บอกกับตัวเองว่าฉันคงไม่กลับไป ฉันคิดว่าฉันพร้อม แต่สุดท้ายก็ไม่พร้อม เมื่อสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้น ฉันคงไม่สามารถบอกคุณตอนนี้ได้ว่า ‘ใช่ อีก 4 เดือนน่าจะได้กลับไปร้องเพลง’ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ร่างกายของฉันจะเป็นตัวบอก”
แม้โรคภัยจะเป็นอุปสรรคอันหนักหนาต่อร่างกาย แต่ดูเหมือนดิออนจะยังคงมีใจที่อยากกลับไปแสดงพลังเสียงบนเวทีอีกครั้ง ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ของเธอในภาพยนตร์สารคดี ‘I Am: Celine Dion’ ของ Prime Video ที่จะเปิดตัวในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงสิ่งนั้นได้ดี
“ก่อนหน้านี้ฉันยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไร แต่ตอนนี้ฉันพร้อมแล้ว ฉันคิดถึงผู้คนเหล่านั้น ฉันคิดถึงพวกเขา ถ้าฉันวิ่งไม่ได้ฉันก็จะเดิน ถ้าฉันเดินไม่ได้ฉันก็จะคลาน ฉันจะไม่หยุด”