หลังจากเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Homeland Security Investigations – HSI) ได้บุกเข้าจับกุม ฌอน จอห์น คอมบ์ส (Sean John Combs) ศิลปินแรปเปอร์ โปรดิวเซอร์ และเจ้าของค่ายเพลง Bad Boy Records วัย 54 ปี ที่ใช้ฉายาในวงการเพลงฮิปฮอปนาม พี ดิดดี (P. Diddy) หรือ ดิดดี (Diddy) ในข้อหาการขนส่งข้ามรัฐเพื่อการค้าประเวณี ค้ามนุษย์ และฉ้อโกง ในโรงแรม Park Hyatt New York เมืองแมนฮัตตัน หลังจากพบหลักฐานที่เปิดเผยกิจกรรมปาร์ตี้ลับอื้อฉาวที่มีชื่อว่า ‘Freak Offs’
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีความของอดีตเจ้าพ่อวงการเพลงฮิปฮอปผู้ทรงอิทธิพล ที่กำลังส่งแรงสั่นสะเทือนไปถึงบรรดาคนดังหลาย ๆ วงการที่เคยเกี่ยวข้องกับเขา และกำลังหนาว ๆ ร้อน ๆ ว่าจะถูกโยงใยมาถึงหรือไม่ ล่าสุดดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่ได้หยุดอยู่แค่ในแวดวงคนดัง เพราะล่าสุดมีการออกมาเปิดเผยว่า มีเหยื่อที่เคยถูกดิดดีล่วงละเมิดทางเพศมากกว่า 120 ราย และเหยื่อหลายรายยังเป็นผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะในช่วงเวลาที่เกิดเหตุด้วย
ผู้ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้คือ โทนี บัซบี (Tony Buzbee) ทนายความในฐานะตัวแทนของเหยื่อในคดีล่วงละเมิดทางเพศของดิดดี ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเขาได้เปิดเผยว่า ในเวลานี้มีบุคคลที่เข้ามาแจ้งความกล่าวหาดิดดีว่าเคยล่วงละเมิดทางเพศมากกว่า 120 คน ที่เกิดเหตุมาตั้งแต่ปี 1991 รวมเป็นระยะเวลา 25 ปี
โดยบัซบีได้แจกแจงข้อมูลว่า เหยื่อเหล่านี้มาจากกว่า 25 รัฐ ส่วนใหญ่มาจากนิวยอร์ก, แคลิฟอร์เนีย, จอร์เจีย, และฟลอริดา รวมทั้ง 62% จากผู้กล่าวหาทั้งหมดเป็นคนเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน เหยื่อเหล่านี้แบ่งเป็นเพศชายและหญิงจำนวนเท่า ๆ กัน และมีเหยื่อ 55% ที่เปิดเผยเรื่องราวของตนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือโรงพยาบาล
สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ในจำนวนเหยื่อนับร้อยราย มี 25 รายกล่าวหาว่าดิดดีเคยล่วงละเมิดทางเพศตอนที่ตนยังเป็นผู้เยาว์ ซึ่ง 1 ในนั้นกล่าวอ้างว่า เขาเคยถูกดิดดีล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่ตอนที่อายุเพียงแค่ 9 ขวบด้วย โดยทนายได้พูดถึงกรณีของเด็กชายวัย 9 ขวบว่า เด็กชายถูกดิดดีล่วงละเมิดทางเพศในระหว่างออดิชันที่ค่ายเพลง Bad Boy Records ของดิดดีในนิวยอร์ก
ทนายบัซบีให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีกว่า “ตอนนั้นมีเด็กชายคนอื่น ๆ มาร่วมออดิชันด้วย พวกเขาทั้งหมดยังเป็นผู้เยาว์ พวกเขาพยายามจะทำให้ตัวเองได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง ส่วนบุคคลนี้ (เด็กชายวัย 9 ขวบ) กลับถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยกล่าวอ้างว่าเป็นฝีมือของ ฌอน คอมบ์ส และคนอื่น ๆ ในสตูดิโออีกหลายคน โดยได้ให้สัญญากับตัวเขาและพ่อแม่ว่าจะให้เซ็นสัญญาเข้าสังกัด”
ทนายบัซบีได้เปิดเผยในการแถลงข่าวว่า นับตั้งแต่มีข่าวการจับกุมดิดดี สำนักงานกฎหมายของเขาได้รับโทรศัพท์จากผู้คนที่อ้างว่าเป็นเหยื่อของดิดดีนับพันราย โดยบางส่วนถูกคัดออกไปเพราะเหตุการณ์ที่ไม่สมเหตุสมผล โดยสำนักงานกฎหมายของเขา และ สำนักงานทนายความ AVA Law Group จะเป็นตัวแทนของเหยื่ออย่างน้อย 120 ราย ที่จะยื่นฟ้องร้องในคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา (Civil Claims – คดีที่ผู้กระทำผิดอาญาต้องรับผิดในทางแพ่งด้วย) แยกเป็นรายบุคคล
เหยื่อหลายรายได้ให้รายละเอียดว่า เคยถูกดิดดีล่วงละเมิดทางเพศ หรือก่อเหตุข่มขืนในงานปาร์ตี้ที่เขาจัดขึ้น ตั้งแต่ปาร์ตี้ฉลองอัลบั้มใหม่, ปาร์ตี้ฉลองวันปีใหม่ รวมถึงงานปาร์ตี้ชุดขาว (White Party) ในขณะที่บางคนเผยว่าถูกล่วงละเมิดตอนไปออดิชันที่ค่ายเพลง Bad Boy Records โดยเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นทั้งที่เมืองลอสแอนเจลิส, ไมอามี, แมนฮัตตัน และแฮมป์ตัน ในช่วงระหว่างปี 1991 จนถึงปี 2024
นอกจากนี้ เหยื่อหลายคนมีประวัติทางการแพทย์ที่พิสูจน์ได้ว่าตนถูกข่มขืนหรือวางยา หลังจากเข้ารับการตรวจหาสารเสพติดในช่วงหลังเกิดเหตุ และพบว่ามียาไซลาซีน (Xylazine) หรือยาสลบที่ใช้กับม้าอยู่ในร่างกายของเหยื่อเหล่านั้นด้วย
ทนายบัซบียังได้เปิดเผยข้อมูลของเหยื่อรายอื่น ๆ ด้วยว่า มีบุคคลหนึ่งอายุ 22 ปี ถูกทำร้ายหลังจากปฏิเสธที่จะดื่มเครื่องดื่มในงานปาร์ตี้ เนื่องจากรู้ว่ามีอะไรบางอย่างถูกผสมในเครื่องดื่ม ในขณะที่เหยื่อซึ่งในเวลานั้นเป็นผู้หญิงตั้งครรภ์กล่าวอ้างว่าถูกดิดดีและพรรคพวกรุมข่มขืน โดยเธอเล่าว่าไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มที่ดูน่าเสี่ยงเลย แต่กลายเป็นว่าเครื่องดื่มทุกชนิดกลับมีอะไรบางอย่างผสมอยู่ด้วย จึงทำให้เธอสลบไป ก่อนจะตื่นขึ้นมาบนเตียงในบ้านของดิดดีที่ไมอามี และพบว่าทั้งอวัยวะเพศและทวารหนักของเธอมีบาดแผล
เหยื่ออีกรายซึ่งในเวลานั้นอายุ 15 ปี กล่าวอ้างว่า เธอได้ถูกเชิญไปร่วมงานปาร์ตี้ ก่อนจะถูกวางยาและพาเข้าไปในห้อง ก่อนจะถูกดิดดีและพรรคพวกของเขาผลัดกันข่มขืน นอกจากนี้ เหยื่อที่เป็นผู้เยาว์อีกคนอ้างว่าดิดดีจะช่วยเขาให้ได้เป็นดารา แต่ต้องนัดมาคุยกันเป็นการส่วนตัวและห้ามบอกพ่อแม่ แต่กลายเป็นว่าดิดดีกลับบังคับให้เขาทำออรัลเซ็กซ์ให้
ทนายบัซบีได้กล่าวย้ำในระหว่างการแถลงข่าวว่าจะดำเนินการเกี่ยวกับคดีความตามข้อกล่าวหาจนถึงที่สุด “เราจะเปิดเผยผู้ที่มีส่วนสนับสนุนพฤติกรรมที่เกิดขึ้นอย่างลับ ๆ เหล่านั้น เราจะดำเนินการในเรื่องนี้ไม่ว่าหลักฐานจะพาดพิงไปถึงใครก็ตาม หลายคนเป็นคนที่มีอำนาจล้นเหลือ แต่เต็มไปด้วยความลับแสนสกปรก”
“ทีมของเราได้รวบรวมภาพถ่าย วิดีโอ ข้อความที่เป็นหลักฐาน ซึ่งข้อกล่าวหานี้ยังรวมไปถึงการล่วงละเมิดทางเพศอย่างรุนแรงหรือการข่มขืน การอำนวยความสะดวกให้สามารถมีเพศสัมพันธ์โดยใช้สารควบคุม การเผยแพร่วิดีโอ การล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์…แน่นอนว่ารายชื่อต้องยาวอยู่แล้ว แต่เนื่องจากรูปคดี เราจึงต้องทำให้แน่ใจว่าทุกอย่างถูกต้องก่อนจะดำเนินการต่อไป และรายชื่อเหล่านี้จะทำให้คุณต้องตกใจอย่างแน่นอน”
ในขณะที่ เอริกา วูล์ฟฟ์ (Erica Wolff) ทนายความของดิดดี ได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “ตามที่ทีมกฎหมายของคุณคอมบ์สได้เน้นย้ำว่า เขาไม่สามารถตอบทุกข้อกล่าวหาที่ไร้มูลความจริง ซึ่งกลายเป็นกระแสข่าวที่สื่อต่าง ๆ นำไปประโคมโจมตีกันอย่างไร้ความรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม คุณคอมบ์สได้ปฏิเสธอย่างชัดเจนและเด็ดขาดว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าเขาล่วงละเมิดทางเพศบุคคลใด รวมถึงผู้เยาว์ ถือเป็นข้อกล่าวหาเท็จและเป็นการหมิ่นประมาท เขามุ่งหวังที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองและล้างมลทินในชั้นศาล ซึ่งความจริงจะถูกพิสูจน์ด้วยหลักฐาน ไม่ใช่การคาดเดา”
หลังจากถูกจับกุม ขณะนี้ดิดดีถูกควบคุมตัวไปฝากขังที่ศูนย์กักกันเมโทรโพลิแทน (Metropolitan Detention Center) ในเขตบรูกลิน หลังจากที่อัยการได้ปฏิเสธข้อเสนอขอประกันตัวถึง 2 ครั้ง ในขณะที่ดิดดียังปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา โดยโจมตีข้อกล่าวหาเหล่านั้นว่าเป็นข้อกล่าวหาน่ารังเกียจที่มาจากคนหิวเงิน โดยคดีความที่ฟ้องดิดดีหลายคดีนั้นเกิดขึ้นในกรุงนิวยอร์ก ซึ่งมีกฎหมายคุ้มครองเหยื่อจากเหตุความรุนแรงทางเพศ โดยอนุญาตให้เหยื่อสามารถยื่นฟ้องในข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศได้ แม้จะสิ้นสุดระยะเวลาในการดำเนินคดีก็ตาม