ข่าวคราวดราม่าฮอลลีวูดที่ยังคงร้อนแรงสืบเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้นดราม่ากองถ่ายหนังโรแมนติกดราม่า ‘It Ends With Us’ ระหว่างนักแสดงสาวและโปรดิวเซอร์ เบลก ไลฟ์ลี (Blake Lively) กับนักแสดงและผู้กำกับหนังเรื่องนี้อย่าง จัสติน บัลโดนี (Justin Baldoni) ที่เริ่มใหญ่โตมากขึ้นจนกลายเป็นคดีความฟ้องร้องบัลโดนี ในข้อหามีพฤติกรรมคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ และรวมไปถึงการว่าจ้างนักประชาสัมพันธ์เพื่อโจมตีชื่อเสียงของไลฟ์ลี

หลังจากที่มีการฟ้องร้อง มีนักแสดงที่ออกมาสนับสนุนไลฟ์ลีมากมาย ในขณะที่ล่าสุด บัลโดนีได้ยื่นฟ้องสำนักข่าว The New York Times เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 250 ล้านเหรียญ หลังจากที่ลงบทความในเชิงหมิ่นประมาทเกี่ยวกับพฤติกรรมการคุกคามทางเพศ และการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษในกองถ่าย

เหตุการณ์นี้ยังส่งแรงกระเพื่อมไปถึง เคต เบ็กคินเซล (Kate Beckinsale) นักแสดงสาวที่หลายคนคุ้นหน้าเธอจากหนังดัง อาทิ ‘Pearl Harbor’ (2001), ‘The Aviator’ (2004) และ ‘Van Helsing’ (2004) รวมทั้งการรับบทในแฟรนไชส์หนัง ‘Underworld’ ซึ่งเหตุดราม่าการถูกคุกคามในกองถ่ายของไลฟ์ลี กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอออกมาเปิดเผยประสบการณ์อันเลวร้ายในกองถ่ายของเธอผ่าน Instagram ส่วนตัว

“ฉันได้ติดตามสถานการณ์ระหว่างเบลก ไลฟ์ลี และจัสติน บัลโดนี เหมือนที่หลาย ๆ คนได้ติดตาม และฉันต้องย้ำว่าฉันไม่รู้จักทั้ง 2 คนเป็นการส่วนตัว ฉันไม่เคยเจอและไม่ได้อยู่ในกองถ่ายนั้น ดังนั้นฉันเลยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นไม่ได้มาก แต่สิ่งที่ฉันพูดได้คือ มันเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อผู้หญิงร้องเรียนเกี่ยวกับบางอย่างที่น่ารังเกียจ น่าหดหู่ หรือสิ่งที่เป็นอันตรายในอุตสาหกรรมนี้”

“ตัวอย่างที่ฉันเคยเจอก็คือ ฉันเคยแสดงในหนังเรื่องหนึ่ง ที่พอหนังจบ ฉันเคยถูกเรียกผ่านวิทยุสื่อสารต่อหน้าว่า ‘อีด-ก’ หลังจากที่ฉันได้พูดว่า ฉันกำลังรู้สึกลำบากใจมาก ๆ เพราะว่านักแสดงร่วมคนหนึ่งของฉันเมาเป็นประจำทุกวัน เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเผชิญกับปัญหาบางอย่างอยู่ ซึ่งฉันเองก็เห็นใจเขามาก ๆ แต่ฉันรวมถึงทีมงานก็ต้องรอ 6 ชั่วโมงในทุก ๆ วันเพื่อให้เขาท่องบทให้ได้ และมันก็ทำให้ฉันไม่ได้เจอกับลูกสาวในช่วงตอนเย็นเลยตลอดการถ่ายทำ”

Kate Beckinsale

“สิ่งที่สตูดิโอทำให้ฉันก็คือ เขาให้จักรยานฉันมาคันหนึ่งเพื่อที่จะได้ปั่นไปรอบ ๆ สตูดิโอระหว่างรอ และแน่นอน ฉันถูกเรียกว่า ‘อีด-ก’ และ ‘นังบ้า’ บางครั้งในระหว่างถ่ายทำ ฉันถูกเรียกว่า ‘อีโง่’ แล้วผู้กำกับก็วิ่งหนีไปทั้งน้ำตา ฉันต้องเป็นคนเรียกเขากลับมา ปลอบใจ และพาเขากลับมาถ่ายทำต่อ”

“ฉันเคยถูกกลุ่มคนมายืนตรงหน้าฉันและพูดว่า ‘เราจะทำยังไงดีเพื่อให้เธอดูสวยขึ้น ? ‘ เรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นได้กับทุกคนค่ะ ฉันถูกบังคับให้ทำตามโปรแกรมควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเข้มงวดในหนังเรื่องหนึ่ง เล่นเอาซะประจำเดือนฉันถึงกับขาดไปเลย”

“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับฉัน 2 ครั้ง ฉันเคยอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ในฉากแอ็กชันกับนักแสดง 2 คนในหนัง 2 เรื่อง ซึ่งบางครั้งก็มีนักแสดงบางคนที่รู้สึกสนุกสนานกับการได้ทำร้ายผู้หญิงแบบถูกกฏหมายในระหว่างฉากต่อสู้นั่น แล้วฉันก็ถูกทำร้ายจนถึงขั้นต้องไปทำเอ็กซ์เรย์ MRI เพื่อพิสูจน์”

“แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ฉันถูกกล่าวหาว่าโกหก และถูกทำให้รู้สึกว่าเป็นต้นเหตุของปัญหา ถูกกล่าวโทษ และถูกแบ่งแยก ฉันไม่ได้รับเชิญให้ไปทานข้าวกับนักแสดงคนอื่น ไม่มีใครพูดด้วย ทันทีที่ฉันพูดว่ามีปัญหา ฉันถูกนักประชาสัมพันธ์ที่ฉันเป็นคนจ้าง บังคับให้ไปถ่ายแฟชั่นในวันถัดจากวันที่ฉันแท้งลูก”

เมื่อปี 2020 เบ็กคินเซลได้เปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า เธอเคยแท้งลูกเมื่อตอนอายุครรภ์ได้ 20 สัปดาห์

“…และฉันก็บอกไปว่า ฉันทำไม่ได้ ฉันกำลังมีเลือดออก ฉันไม่อยากไปเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าคนที่ฉันไม่รู้จัก เพื่อถ่ายภาพฉันตอนที่กำลังมีเลือดออกจากการแท้งลูก แล้วเธอก็พูดว่า ‘คุณต้องไป ไม่งั้นคุณจะถูกฟ้อง'”

“มันคล้ายกับกรณีของ ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน (Harvey Weinstein, อดีตผู้บริหารสตูดิโอ Miramax) ที่มักจะมีชื่อเสียงในเรื่องแบบนี้ รวมถึงตัวฉันด้วย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศเสมอไปนะ ฉันเป็นคนหนึ่งที่โชคดี ที่ยังไม่เคยถูกขอให้โชว์อวัยวะส่วนตัวหรือถูกบังคับขอให้นวด หรืออะไรทำนองนั้น แต่ถ้าคุณปฏิเสธหนังหรือข้อตกลงเกี่ยวกับการผลิต เขาจะไล่โทรหาผู้กำกับทุกคนที่เขารู้จัก และบรรณาธิการนิตยสารทุกคน แล้วบอกว่าอย่าเรียกใช้งานเธอ”

“แล้วมันก็ได้ผลซะด้วย และสิ่งที่สำคัญก็คือ ไม่ว่าคดีนี้จะจบลงยังไง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้ยังคงดำเนินต่อไป มันเป็นแบบนี้มาตลอด ฉันมีเรื่องเล่าประมาณ 47 ล้านเรื่อที่คล้าย ๆ กับเรื่องนี้ที่คุณไม่อยากจะยอมรับ”

“ตอนฉันอายุ 18 ฉันถูกทีมงานที่ฉันไว้ใจลวนลาม ฉันไปหานักแสดงนำหญิงคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงในเรื่องการสนับสนุนผู้หญิง และเล่าให้เธอฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เธอบอกว่า ‘ไม่ เรื่องนี้มันไม่ได้เกิดขึ้น’ ฉันไปหานักแสดงหญิงอีกคน ฉันเล่าและร้องไห้ไปด้วยว่าฉันเพิ่งถูกผู้ชายคนนั้นลวนลาม แล้วเธอบอกว่า ‘ไม่ มันไม่ได้เกิดขึ้น’ เหมือนเดิม”

Kate Beckinsale

“เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นมาโดยตลอด และสิ่งที่น่าหดหู่จริง ๆ ก็คือการที่ฉันเห็นผู้ชายหลายคนพูดกันว่า ‘โอ้ มันแตกต่างจากเมื่อก่อนมากนะ อะไร ๆ มันเปลี่ยนไปและดีมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ’ ซึ่งมันไม่ได้ดีขึ้นอะไรเลย ! คือถ้าคุณเป็นผู้หญิง และมีข้อร้องเรียนที่ดูมีเหตุผล ไม่ใช่แค่บ่นงี่เง่าจะเอาโน่นเอานี่ในรถเทรลเลอร์ แต่มันเป็นเรื่องของการที่มีคนมาจับหน้าอกคุณ หรือเรียกคุณด้วยคำหยาบคายว่าอีด-กท-ง หรืออีนังบ้า หรืออะไรก็ตาม”

“ยังไงก็ตาม เมื่อไหร่ที่คุณพูดถึงมัน คุณจะฉิ-หาย ไม่ว่ายังไงก็ฉิ-หายแน่นอน คุณจะถูกคาดหวังให้ต้องทนรับมัน และหลังจากนั้นคุณก็จะกลายเป็นคนที่หยวน ๆ กับเรื่องพวกนี้ได้ สิ่งที่ต้องทำก็คือหยุด ต้องหยุด และฉันเองก็ขอบคุณ เบลก ไลฟ์ลี ที่ชี้ให้เห็นว่า นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาในอดีตที่ไม่มีใครเคยเผชิญหน้า แต่มันยังเป็นสิ่งที่ยังคงเกิดขึ้นจริง ๆ

“และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็มักจะมีอะไรบางอย่างที่เริ่มพยายามเข้ามาบ่อนทำลายคุณ ฉันมั่นใจว่าในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ก็คงมีอะไรแบบนี้เหมือนกัน และสิ่งนี้มันจะต้องหยุด”