โฉมหน้าวีรบุรุษ ไมเคิล ออร์ชาร์ด

วีรบุรุษหนุ่มผู้นี้มีนามว่าไมเคิล ออร์ชาร์ด ชาวเมืองฮาล์ฟมูน รัฐนิวยอร์กวัย 43 ปี กลางดึกคืนหนึ่งเขามองไปเห็นบ้านข้างเคียงกำลังไฟลุกท่วม ไมเคิล ไม่รีรอเขากระโดดขึ้นบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำของเขาแล้วขับพุ่งชนทะลุรั้วบ้านข้างเคียง ขับไปบนสนามหญ้า พอเข้าถึงตัวบ้านไมเคิลก็ทุบประตูอย่างแรง ปากก็ตะโกนบอกเพื่อนบ้านว่า “ไฟไหม้ ไฟไหม้” แน่นอนล่ะว่าไม่มีใครกล้าลงมาเปิดประตูให้ไมเคิลหรอก ในเมื่อมันไม่มีไฟไหม้ที่ไหน แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับไมเคิลจึงสวมวิญญาณพระเอกหนังแอ็กชันด้วยการทุบกระจกประตูหลังบ้าน ล้วงมือไปเปิดประตู พอเข้าไปในบ้านได้ไม่พบเพื่อนบ้าน เห็นแต่หมาสีขาวตัวหนึ่งที่มานั่งมองหน้าไมเคิลด้วยความฉงน ไมเคิลไม่พบเพื่อนบ้าน เอาน่ะ! ช่วยได้หนึ่งชีวิตก็ยังดี ไมเคิลตัดสินใจอุ้มเจ้าหมาวิ่งออกจากบ้านที่กำลังไฟลุกท่วม มายืนกอดหมาอยู่กลางถนน

สภาพรั้วบ้านที่ไมเคิล ขับรถพุ่งชน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งถึงวีรกรรมของไมเคิล รีบรุดมาที่เกิดเหตุ พบไมเคิลยืนอยู่กลางถนน เขากอดหมายิ้มเผล่ด้วยความภาคภูมิใจในวีรกรรมของเขา ไมเคิลส่งหมาให้ตำรวจ แต่แล้วตำรวจก็เข้ามารวบตัวเขา ไมเคิลยังงงไม่รู้ตัวว่าเขาอยู่ในอาการประสาทหลอน จึงไม่เข้าใจว่าทำไมตำรวจจับกุมเขา ไมเคิลถูกนำไปตรวจสารเสพติดแล้วก็พบว่ามีสารตกค้างในร่างกายจำนวนมาก ไมเคิลยอมรับว่าเขาเสพ LSD ผมกับยาแก้ไอ แล้วก็เล่าว่าเขาเห็นบ้านข้าง ๆ กำลังไฟลุกท่วมจริง ตั้งใจจะไปช่วยเพื่อนบ้านออกมา แต่ก็ช่วยได้แค่หมาออกมาตัวนึง

ประตูหลังบ้านที่โดนไมเคิลพังเข้าไป

แม้ว่าตำรวจลงความเห็นว่า ไมเคิลไม่ได้มีเจตนาในการก่ออาชญากรรม ที่กระทำไปเพราะเกิดภาพหลอนจากการเสพยาในปริมาณสูง แต่อย่างน้อยไมเคิลก็มีความผิดในข้อหาจารกรรมระดับสอง และข้อหาสร้างความเสียหายระดับสาม แต่ไม่โดนข้อหาอะไรเกี่ยวกับยาเสพติด ไมเคิลถูกส่งตัวเข้าเรือนจำซาราโตกา ศาลตั้งวงเงินประกันไว้ที่ 15,000 ดอลลาร์ ไม่ได้มีการรายงานว่าจะมีใครไปประกันไมเคิลออกมามั้ยนะ แต่สำหรับชาวบ้านในละแวกฮาล์ฟมูนคงจะสงบสุข เพราะเพื่อนบ้านบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะ ที่ไมเคิลเกิดอาการประสาทหลอนแล้วบุกไปทำลายบ้านเรือนข้างเคียงแบบนี้