ก่อนหน้านี้สตูดิโอยูนิเวอร์แซลมีปัญหากับ AMC แฟรนไชส์โรงหนังรายใหญ่ เหตุเพราะยูนิเวอร์แซล ปล่อยหนัง Trolls World Tour ทางสตรีมมิงไม่เก็บหนังไว้รอให้โรงหนังกลับมาเปิดหลังสถานการณ์คลี่คลาย สร้างความไม่พอใจกับ AMC มาก ถึงกับประกาศว่า ถ้าสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ โรงหนังเปิดบริการแล้วก็จะไม่ฉายหนังของยูนิเวอร์แซล
มาวันนี้ ดูวี่แววออกไปในทางดีเมื่อทั้งสองฝ่ายหันหน้ามาคุยกันแล้วได้ข้อตกลงที่ทั้งคู่เป็นที่พอใจ เมื่อทั้งคู่ได้ข้อตกลงเรื่องเงื่อนไขระยะเวลาว่า ยูนิเวอร์แซลจะเอาหนังเข้าโรงฉายก่อนเป็นเวลา 17 วัน แล้วจากนั้นจึงจะใช้สิทธิ์ในการปล่อยให้ผู้ชมเช่าดูผ่านระบบ VOD (Video on demand), เจฟฟ์ เชลล์ CEO ของ NBCUniversal คิดว่าการสัมฤทธิ์ผลทางข้อตกลงนี้จะช่วยให้หนังฟอร์มใหญ่ได้กลับมาเข้าโรงฉายเร็วกว่ากำหนดเดิม
ย้อนความไปนิด โรงหนังทั่วสหรัฐฯ ปิดบริการมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม จนถึงตอนนี้หลาย ๆ ฝ่ายคิดว่าอย่างเร็วสุดโรงหนังน่าจะกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งราว ๆ กลางเดือนสิงหาคม หรือช้าสุดก็ปลายเดือนสิงหาคมนี้ แล้วก็จะมีหนังฟอร์มใหญ่มาทยอยลงโรงฉาย เริ่มจาก Tenet เป็นหัวหอกนำก่อนเลย ซึ่ง เจฟฟ์ เชลล์ เห็นว่าแนวทางนี้น่าจะทำรายได้ให้กับสตูดิโอเจ้าของหนังเพียงพอ แทนที่จะปล่อยสตรีมมิงเพียงอย่างเดียว
“เดิมทีเรามีปัญหากับทางโรงหนังแบบว่า ‘ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน’ อธิบายสถานการณ์ก็คือ สตูดิโอเจ้าของหนังอย่างเราไม่อยากปล่อยหนังลงโรงฉายในขณะที่เปิดกันแค่ไม่กี่โรง เราอยากจะปล่อยหนังออกฉายในโรงก็ต่อเมื่อ โรงฉายเปิดบริการเต็มพิกัดแล้ว นั่นถึงจะมีรายได้เพียงพอให้คุ้มทุนสร้าง แต่พอมองทางด้านเจ้าของโรงหนัง เขาก็จะเปิดโรงหนังมาทำไมในเมื่อเขาไม่มีหนังใหม่มาฉายดึงดูดคนดู ถ้าให้เอาหนังเก่ามาวนฉาย คนก็ค่อยอยากออกมาดู เราก็เลยคิดว่าทางออกนี้น่าจะทำให้เจ้าของหนังปล่อยหนังมาฉายตามโรงได้อย่างปลอดภัย และน่าจะเร็วกว่ากำหนดเดิมที่เคยคาดกันไว้ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้”
แล้วก็เพราะสถานการณ์เกี่ยงกันไปมาระหว่างแฟรนไชส์โรงหนัง กับสตูดิโอเจ้าของหนังนี่แหละ ที่ทำให้หนังที่แฟนหนังรอดูอย่าง Tenet และ Mulan ต้องเลื่อนกำหนดฉายออกไปหลายต่อหลายครั้ง ส่วนข้อตกลงที่ว่านั้น สตูดิโอเจ้าของหนังน่าจะพิจารณากำหนดฉายใหม่ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นผลมาจากข้อตกลงใหม่ที่พึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย เจ้าของโรงหนังก็มีหนังใหม่มาดึงคนดูกลับเข้าโรงหนัง โดยมีระยะเวลาเรียกคนดูให้ได้มากที่สุดในช่วง 17 วันแรก พอหลังจากนั้นสตูดิโอเจ้าของหนังก็มีสิทธิ์ที่จะปล่อยหนังตัวเองผ่านช่อง VOD ซึ่งสตูดิโอก็อ้างว่าด้วยแนวทางนี้จะใช้ได้กับหนังที่มีทุนสร้างในระดับกลาง ๆ ถ้าตักตวงรายได้ทั้งจากโรงหนังที่ยังเปิดตัวไม่มาก และรายได้จาก VOD ก็ยังพอมองเห็นช่องทางคืนทุนอยู่ แต่สำหรับหนังฟอร์มใหญ่อย่าง Fast9 ที่ใช้ทุนสร้างในระดับ 200ล้านเหรียญ นั้นยังต้องรอให้โรงหนังเปิดตัวเต็มที่ทั่วสหรัฐฯ ก่อนถึงจะปล่อยฉายได้แล้วมองเห็นช่องทางคืนทุน
“ผมยังคาดหวังอยู่นะว่าหนังบางเรื่องถ้าทำรายได้ดี ๆ ก็น่าจะได้อยู่ในโรงฉายเกินกว่า 17 วัน”
เห็นได้ชัดว่า ทางสตูดิโอเองก็อยากจะให้หนังของตัวเองได้มีช่วงเวลาการฉายอยู่ในโรงนานขึ้น โดยเฉพาะหนังระดับบล็อกบัสเตอร์อย่าง Fast & Furious 9 และ Jurassic World: Dominion ซึ่งหนังระดับนี้ควรได้รับการพิจารณาให้มีช่วงเวลาการฉายนานขึ้นเป็นพิเศษ แล้วก็เป็นข้อดีกลับมากับทางโรงหนังด้วยที่ทางสตูดิโอก็จะกลับไปใช้เงื่อนไขเดิมว่าหนังจะต้องออกฉายตามโรงภาพยนตร์แล้วอย่างน้อย 3 เดือน สตูดิโอถึงจะปล่อยให้เช่าทาง VOD ทางโรงหนังก็มีเวลาเก็บเกี่ยวรายได้จากหนังมากขึ้นด้วย
“แต่เราก็ยังเชื่ออยู่ว่า ขณะนี้มีกลุ่มผู้ชมที่ไม่อยากออกไปดูหนังในโรงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตรงนี้แหละที่ทำให้ AMC เข้าใจในจุดนี้และยอมรับในเรื่องเงื่อนไขระยะเวลาการฉายในโรง 17 วันก่อนปล่อยทาง VOD แต่ในเวลาไม่ช้า กลุ่มผู้ชมที่ไม่ออกไปดูหนังในโรงก็มีแนวโน้มจะขยายตัวขึ้นแล้วมาดูหนังทาง VOD แทน”
ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นระหว่างยูนิเวอร์แซลและเครือข่ายโรงหนัง AMC เท่านั้น เครือข่ายโรงหนังอื่นอย่าง Cineworld ยังไมเห็นชอบด้วย แต่ขอรอดูสถานการณ์ต่อไปก่อน อาจจะยาวไปถึงปีหน้านู่นเลยก็เป็นได้