เมื่อวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ประจำเรือนจำเวลิคาดา จับตัวเจ้าเหมียวจรได้ขณะเดินเข้าเรือนจำ ถ้าเป็นแมวจรทั่วไปก็คงไม่มีใครสนใจหรอก แต่เผอิญเจ้าหน้าที่สังเกตได้ว่าที่คอเจ้าเหมียวตัวนี้มีถุงอะไรผูกอยู่ พอจับตัวมันได้แล้วแกะดู ก็พบว่าในถุงนั้นมีเฮโรอีน 2 กรัม แล้วยังมีซิมการ์ดอีก 2 อัน, เมโมรี่การ์ดอีก 2 อัน กะว่าขนทีเดียวได้คุ้มเลย แต่เจ้าหน้าที่ก็จับได้แต่แมว แต่เกินความสามารถที่จะสืบรู้ได้ว่าเจ้าเหมียวจะเอาเฮโรอีนไปส่งนักโทษคนไหน
พอจับได้เจ้าหน้าที่ก็เลยเอาเหมียวไปใส่กรงขังไว้ก่อน อาจจะค่อย ๆ คิดทีหลังว่าจะสืบหาผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวพันกับเหมียวตัวนี้ได้ภายหลัง แต่พอขังไว้ได้แค่วันเดียว พอวันอาทิตย์เจ้าหน้าที่จะเอาอาหารไปให้เหมียว ก็พบว่าเหมียวแหกคุกหนีไปแล้ว
กรณีของเหมียวขนเฮโรอีนนี้เป็นแค่หนึ่งเหตุการณ์ความวุ่นวายในเรือนจำเวลิคาดาในช่วงนี้ เฉพาะแค่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เจ้าหน้าที่สังเกตได้ว่ามีผู้ต้องสงสัยโยนถุงบรรจุยาเสพติด, โทรศัพท์มือถือ, สายชาร์จ ข้ามกำแพงคุกเข้ามาบ่อยมา ตลอดเดือนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รวบรวมโทรศัพท์มือถือที่แอบนำเข้ามาแล้ว 38 เครื่อง, แบตเตอรี่ 264 ก้อน, ซิมการ์ด 20 อัน และเฮโรอีน 3.5 กรัม จากผู้ต้องหา 15 รายที่ถูกจับเพราะพยายามจะนำของต้องห้ามและยาเสพติดซุกซ่อนเข้ามาในสัมภาระ แต่รายที่ผูกมากับปลอกคอเจ้าเหมียวนี่ยังหาต้นตอไม่ได้
กรณีเหล่านี้เป็นดรรชนีชี้ให้เห็นว่า ศรีลังกากำลังประสบปัญหายาเสพติดมากขึ้น เจ้าเหมียวจรตัวนี้ไม่ใช่สัตว์รายแรกที่ถูกใช้เป็นพาหะขนยาเสพติด เมื่อสัปดาห์ที่แล้วตำรวจก็จบนกอินทรีได้ตัวหนึ่งที่ถูกใช้เป็นพาหะขนยาเสพติดเช่นกัน
อีกข่าวหนึ่งที่คล้าย ๆ กันที่เกิดเมื่อปี 2018 คู่ผัวเมียที่อยู่ในย่านเซนต์พอล เมืองบริสทอล ประเทศอังกฤษ ตื่นขึ้นมาพบว่าเจ้าเหมียวที่เขาเลี้ยงไว้ นอนอยู่ข้างถงพลาสติหูหิ้วใบใหญ่ ที่ลากมาวางไว้ข้างเตียง เมื่อเจ้าของเปิดออกดูก็แทบช็อก เพราะในนั้นมีโคเคนอยู่ 30 ถุง มูลค่าในตลาดนี่หลายร้อยปอนด์เลย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลคดีนี้ ทวีตแบบขำ ๆ บอกว่า
“จากนี้ไปลืมเรื่องหมาตำรวจไปได้เลย เราจะฝึกแมวแทน”