วานนี้วันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2563 ณ บ้านหลังใหม่ RS GROUP Headquarter (RSHQ) ถนนประเสริฐมนูกิจ บนพื้นที่กว่า 16 ไร่ ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ที่มีอาณาจักรยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้ เส้นทางระหว่างบรรทัดเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย หากจะให้เท้าความ…

  • RS เริ่มต้นจุดเล็ก ๆ ภายใต้ชื่อ โรสซาวด์ ในปี 2519 จากธุรกิจตู้เพลง ค่ายเพลง
  • ก่อนจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจเพลงช่วงปี 2525 – 2535 ภายใต้ “บริษัท อาร์.เอส.ซาวด์ จำกัด” โดยมีศิลปินในยุคแรก ๆ คือวงอินทนิล คีรีบูน เรนโบว์ และรวมดาว
  • จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น 1992 จำกัด” และเริ่มแตกไลน์ธุรกิจเพิ่มเติม คือผลิตภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ ทั้งยังก้าวเท้าเข้าสู่วงการวิทยุอีกด้วย
  • ต่อมาไม่นานนักอาร์เอสก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2546 เปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)” โดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 28 ล้านหุ้น (25% ของทุนชำระแล้ว 112 ล้านหุ้น) ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 28 บาท (พาร์ 5 บาท) มีมูลค่าตามราคาตลาดรวมเท่ากับ 3 พันล้านบาท เติบโตสูงกว่า 60,000 หมื่นเท่าในช่วงเวลา 27 ปี

ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท มาถึงปีนี้ 2563 กับการรีแบรนด์ครั้งสำคัญ ทั้งในรูปแบบของการดำเนินธุรกิจใหม่ และการกลับมารุกในธุรกิจเพลงอีกครั้ง โดยนำชื่อ Rs Siam ที่ยังคงดำเนินอยู่ การกลับมาอีกครั้งของ 2 แบรนด์ที่ยังคงอยู่ในใจของแฟนเพลงจวบจนทุกวันนี้อย่าง Kamikaze และ Rose Sound ซึ่งแน่นอนเพลงที่จะใช้ ศิลปินที่จะออกผลงานย่อมต้องเข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป คำตอบมีอยู่ในบทสัมภาษณ์ในย่อหน้าถัดไปนี้

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ยุคเริ่มต้นของอาร์เอส ผมแบ่งอาร์เอสเป็นสามช่วง ยุคแรกที่เราได้ยินกันว่า ยุคปลาใหญ่กินปลาเล็ก ยุคนั้นอาร์เอสเป็นปลาเล็ก กลยุทธในการทำธุรกิจแรก ๆ ในสมัยที่เอียยังเป็นวัยรุ่น เราเป็นปลาเล็ก กลยุทธก็คือปลาเล็กจะเอาตัวรอดได้อย่างไรให้ไม่ถูกกินไปก่อนที่จะโต นั่นคือวิธีคิด

ช่วงที่ 2 คือช่วงปี 1992 ตอนนั้นอาร์เอสย้ายมาที่ลาดพร้าวซอย 15 แล้ว อันนั้นเราเริ่มเป็นบริษัทที่ใหญ่ ช่วงนั้นเรามีกลยุทธว่าปลาเร็วกินปลาช้าเพราะฉะนั้นความใหญ่ของอาร์เอสจะต้องเร็ว ก็เป็นยุคที่เราใช้กลยุทธความเร็วเข้ามาเพราะวันนั้นอาร์เอสเริ่มใหญ่แล้ว มาถึงยุค 5 ปีที่ผ่านมาไปจนถึงอนาคต เป็นยุคของปลาฉลาดกินทุกปลาเพราะฉะนั้นใหญ่หรือเล็กไม่สำคัญ ผมจึงคิดว่าเรากำลังอยู่ในยุคของปลาฉลาด

ต่อข้อถามที่ว่า อะไรคือเงื่อนไขที่ทำให้ตัดสินใจกลับมารุกธุรกิจเพลงอีกครั้ง “เพราะวันนี้อาร์เอสมีบิสสิเนสโมเดลรองรับ” ต้องยอมรับอย่างว่าในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ต้องเรียนว่าศิลปินสักคนหนึ่งจะเป็นนักร้อง ค่ายเพลงไม่มีความหมาย บทบาทของค่ายเพลงน้อยลง เพราะฉะนั้นศิลปินก็สามารถโชว์ตัวเอง สร้างตัวเองบนโลกโซเชียลได้เลย ธุรกิจต่าง ๆ ก็เกิดที่ตัวเค้า ถามว่าสิ่งนั้นยังอยู่ไหม สิ่งนั้นก็ยังอยู่ แต่วันนี้สิ่งที่อาร์เอสมิวสิกสตาร์คอมเมิร์ซ จะเข้ามาเชื่อมโยง ต่อยอด ให้กับศิลปิน โดยศิลปินที่เราเลือกในวันนี้ไม่ใช่เลือกที่ร้องดีมีคุณภาพ จะต้องเป็นศิลปินที่เรามองแล้วว่าต่อยอดจากบิสสิเนสโมเดลคอมเมิร์ซของเราได้ ไลฟ์สไตล์ แอตติจูด เค้ามีความเข้าใจไหม และเป้าหมายเดียวกับเราไหม เราจะสร้างให้เค้าเป็นนักธุรกิจ ที่เราซัปพอร์ต (หมายความว่าศิลปินทุกเบอร์ก็ควรจะมีสินค้าที่เข้ากันได้) ก็เป็นไปได้ครับ ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ล่ะศิลปิน

Rs Siam, Kamikaze และ Rose Sound จะกลับมาให้รูปแบบใด จะเป็นแบบเดิมหรือไม่

คำตอบที่ได้ชัดเจนก็คือ “เพลงคือสิ่งที่สะท้อนวัฒนธรรมในช่วงเวลานั้น ๆ เพราะฉะนั้นเรากำลังพูดถึงคนฟังวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ต้องออกมาสำหรับคนฟังวันนี้”

ทั้งนี้ทั้งหมดจะถูกเปิดเผยในเดือนตุลาคม 2563 นี้ จะได้เห็นว่าอาร์สยาม ศิลปินเดิม และศิลปินใหม่จะได้เห็นว่าเป็นอย่างไร Kamikaze ในวันนี้เป็นอย่างไร แล้วก็ Rose Sound ในรูปแบบ มิวสิกสตาร์คอมเมิร์ซ จะมีรูปร่างเป็นยังไง ตุลาคมนี้รู้พร้อมกัน

Rs Siam, Kamikaze และ Rose Sound
Rs Siam, Kamikaze และ Rose Sound

ว่าด้วยเรื่อง “โลโก้ใหม่ของ RS”

โลโก้ RS

โลโก้ ซึ่งน้อยแต่มาก ดูทรงพลัง ซึ่งได้รับการออกแบบโดย มารีน่า วิลเลอร์ อาร์ตไดเร็คเตอร์ ของเพนตาแกรม นี่คือเป็นที่มานำไปสู่ New legacy การสืบทอดตัวตนใหม่ของ อาร์เอส กรุ๊ป โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดเป็นอันดับแรกก็คือ โลโก้ใหม่ RS ที่แปลกตา เพื่อแสดงให้เห็นว่า อาร์เอส กำลังเปลี่ยนกระบวนการคิดใหม่ทั้งหมด

มารีน่า วิลเลอร์ มีผลงานสำคัญ คือการออกแบบโลโก้ให้แก่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ เทต โมเดิร์น ในอังกฤษ ที่แปลกใหม่และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นผลงานออกแบบที่เหนือกาลเวลา ยังคงทันสมัยแม้จะผ่านไปแล้วกว่า 20 ปี ซึ่งมารีน่า ได้ให้มุมมองเกี่ยวกับความสำคัญของโลโก้ไว้ว่า

“จำเป็นต้องโดดเด่นสะดุดตาเพื่อแสดงถึงความแตกต่าง โลโก้ถือเป็นบทสรุปของจิตวิญญาณขององค์กรที่ทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าใจถึงแก่นของความเป็นองค์กรนั้นได้อย่างรวดเร็ว Visual Identity เป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับมนุษย์ เพราะโลโก้ก่อให้เกิดการรับรู้ได้รวดเร็วทันทีไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาที่เร่งรีบแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่มีการสื่อสารถาโถมจากทุกสารทิศ”

มารีน่า ยังได้เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบโลโก้ RS ครั้งนี้ว่า “อาร์เอส กรุ๊ป เป็นองค์กรใหญ่ที่ก่อให้เกิดธุรกิจมากมายผ่านแรงขับเคลื่อนที่สร้างสรรค์ และเป็นเจ้าของธุรกิจหลากหลายแบบ หากโครงสร้างมีการวางแผนที่ดี ก็จะเป็นจุดกำเนิดและเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้กับธุรกิจย่อยให้ผสานกันได้อย่างแนบแน่น ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะเกี่ยวกับอะไรก็ตาม และไม่จำเป็นว่าตัวองค์กรต้องโดดเด่นนำหน้าแบรนด์อื่น ๆ ของกลุ่มเสมอไป ดังนั้น โลโก้ RS จึงต้องสื่อความหมายได้ลึกซึ้ง มีความทันสมัย และมีนัยยะ เพื่อบ่งบอกว่า อาร์เอส กรุ๊ป ในฐานะแกนกลางสำคัญ พร้อมสนับสนุนงานของบริษัทในเครือและเป็นศูนย์กลางการบ่มเพาะธุรกิจอื่น ๆ ให้เติบโตขยายกิ่งก้านสาขาออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทีมออกแบบพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และความแตกต่างของโมเดลธุรกิจ ‘Entertainmerce’ รวมถึงวิสัยทัศน์ที่องค์กรต้องการจะมุ่งไป แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานดีไซน์ ซึ่งการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้การถ่ายทอดจิตวิญญาณ รูปแบบธุรกิจ และสร้างกรอบการทำงานที่ถูกต้องและตรงกับความเป็น อาร์เอส มากที่สุด”

https://www.rs.co.th/th/rs-group-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%89%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/?fbclid=IwAR3xkf2mVK5CaVI_VNdk3AG7L_38ZnONTfUaUUrECMVCTUeNJREMuRRWrws

ก้าวใหม่ของ อาร์เอส กรุ๊ป

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RS Group

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RS Group เปิดเผยว่าทุกคนใน อาร์เอส กรุ๊ป ต้องมีค่านิยม 4 ประการ ฝังอยู่ในดีเอ็นเอ ได้แก่ Inspiring (แรงบันดาลใจ) Passionate (แรงผลักดัน) Inquisitive (ใฝ่เรียนใฝ่รู้) และ Goal-Oriented (แน่วแน่ที่เป้าหมาย) ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce ซึ่งเป็นการดึงศักยภาพ ความเชี่ยวชาญจากธุรกิจสื่อและธุรกิจบันเทิงในมือออกมาใช้ให้มากที่สุด สร้างคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ เพื่อเปลี่ยนผู้ชมและผู้ฟังเป็นผู้ซื้อ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการ Synergy กันระหว่างกลุ่มธุรกิจในเครือ ที่สามารถควบคุมและบริหารงานได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ”

ปัจจุบัน อาร์เอส กรุ๊ป แบ่งกลุ่มธุรกิจ ออกเป็น

  • ธุรกิจคอมเมิร์ซ ประกอบด้วย อาร์เอส มอลล์ และ บริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด
  • ธุรกิจสื่อและบันเทิง ประกอบด้วย สถานีโทรทัศน์ช่อง 8, คูลลิซึ่ม และ อาร์เอส มิวสิค
  • ธุรกิจคอมเมิร์ช
    • อาร์เอส มอลล์ (RS Mall)
      อาร์เอส มอลล์ ได้ดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว และเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยความสำเร็จของ อาร์เอส มอลล์ เกิดจาก Value Chain ที่แตกต่าง ดังนี้
      • สินค้าที่มีคุณภาพ อาร์เอส มอลล์ มีทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ผ่านการดำเนินงานของบริษัท ไลฟ์สตาร์ โดยร่วมมือกับสถาบันวิจัยชั้นนำ เพื่อนำนวัตกรรมที่มีการจดสิทธิบัตรในระดับโลกมาผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน เพื่อส่งมอบสินค้าคุณภาพที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในหลากหลายประเภทสินค้า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าได้ทันท่วงที
  • มีเดีย เราเป็นเจ้าของสื่อสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ที่มีสายตาคนดูที่พร้อมให้ความสนใจกับสินค้าที่นำเสนอ ผ่านการเล่าเรื่องราวที่แตกต่าง และยังมีพันธมิตรเป็นช่องดิจิทัลทีวีจากหลากหลายช่องชั้นนำ
  • ระบบ Fulfillment ที่เติมเต็มทุกความต้องการอย่างครบถ้วน มีเทเลเซลล์ กว่า 500 คน เพื่อให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีคลังสินค้าเพื่อการจัดเก็บและบริหารสินค้าด้วยระบบที่มีมาตรฐาน รวมถึงสามารถส่งมอบสินค้าถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
  • Data and Voice Analytics อาร์เอส มอลล์ จะนำข้อมูลของลูกค้ามาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และสร้างแคมเปญ CRM ที่หลากหลาย ปัจจุบันเรามีฐานข้อมูลกว่า 1.4 ล้านรายที่มีการซื้อซ้ำมากกว่า 2 ครั้งต่อปี

ด้วยความแตกต่าง และจุดแข็งข้างต้น ทำให้ในปี 2563 อาร์เอส มอลล์ สามารถสร้างยอดขายทุบสถิติเดิมตั้งแต่ไตรมาส 2 ด้วยรายได้ 586.2 ล้านบาท และเชื่อมั่นว่าจะเติบโตต่อไปในทุกไตรมาส ด้วยอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด

บริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด

หนึ่งในผู้นำนวัตกรรมด้านสุขภาพ และความงามระดับโลก ส่งตรงสู่ผู้บริโภคคนไทย ช่วยแก้ปัญหาสุขภาพและความงาม เพื่อตอบโจทย์ที่หลากหลายของผู้บริโภคในยุคนี้ ด้วยสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในราคาที่เหมาะสม และมีคุณภาพผลิตภัณฑ์เทียบเท่ามาตรฐานสากล
ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากกลยุทธ์ในปีนี้ของไลฟ์สตาร์ ได้แก่

  • S.O.M. Probio – 10 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันพร้อมปรับสมดุลการขับถ่ายไปพร้อมๆ กัน
  • Functional Ready-to-Drink การต่อยอดความสำเร็จของกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของไลฟ์สตาร์ ที่สามารถขยายช่องทางไปยังร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ ได้ มาในรูปแบบเครื่องดื่มปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม สะดวก อร่อย ให้คุณค่า เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบัน ได้แก่ รังนก และเครื่องดื่มน้ำผลไม้และสมุนไพรสกัดเข้มข้น
  • ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร (Meal replacement) ในรูปแบบผงชงดื่ม ใน 1 ซอง ให้สารอาหารเทียบเท่าที่ร่างกายต้องการในครึ่งวัน อิ่ม อยู่ท้อง รสชาติอร่อย ลดความอยากในการทานอาหารมื้อหนัก และช่วยลดการบริโภคอาหารขยะในมื้อที่เร่งรีบอีกด้วย
  • อาหารสุนัขและอาหารแมว มีมูลค่าตลาดที่สูงถึงกว่า 4 หมื่นล้านบาท และเติบโตต่อเนื่องทุกปี ปีละ 10% ไลฟ์สตาร์จึงเห็นโอกาสที่จะนำผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์มานำเสนอขายผ่านช่องทางทีวีดิจิทัล
  • ผลิตภัณฑ์คอสเมติกส์ การนำศิลปินดาราชื่อดัง มาร่วมคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มแฟนคลับ ภายใต้กลยุทธ์ Star Commerce Model เริ่มต้นที่ใบเตย อาร์สยาม กับแบรนด์ BT Cosmetics Color Collection ที่ประกอบไปด้วยแป้ง Color Palette และ Lipstick โดยเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากผู้ผลิตรายใหญ่จากประเทศเกาหลีที่ผลิตสินค้าให้กับแบรนด์เครื่องสำอางค์ระดับโลกมากมาย ขายผ่านช่องทางออนไลน์และขนาดพิเศษในร้านสะดวกซื้อ

ธุรกิจสื่อและบันเทิง

สถานีโทรทัศน์ช่อง 8
ดิจิทัลทีวีที่โดนใจผู้ชมทั่วประเทศ ด้วยคอนเทนต์รายการที่มอบอรรถรสอันหลากหลายและน่าติดตาม ทั้งละคร ข่าว และรายการมวยไทยที่เป็นอันดับหนึ่งในใจคนไทย ดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ เก้าอี้ 4 ขา กระจายรายได้มาจาก 4 ช่องทาง ซึ่งได้แก่ มีเดียสปอนเซอร์ 40% การจัดอีเวนท์ 10% การขายลิขสิทธิ์ 15% และ Entertainmerce 35%

คูลลิซึ่ม (COOLISM)
สัดส่วนรายได้จากกลยุทธ์แม่น้ำ 3 สาย เป็นดังนี้

  • Coolfahrenheit สัดส่วนรายได้ 40% ด้วยจำนวนเรตติ้งและคนฟังคลื่นคูลฟาเรนไฮต์ที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง
  • COOLive สัดส่วนรายได้ 30% ด้วยการยกระดับการทำงานด้านคอนเสิร์ตและอีเวนต์ ให้เป็นหน่วยธุรกิจอิสระ สร้างสรรค์คอนเสิร์ต และมิวสิค เฟสติวัล โดยในปี 2564 เตรียมจัดงานทั้งหมด 10 งาน ที่มีทั้งศิลปินชั้นนำระดับประเทศและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าเข้าถึงผู้ชมคอนเสิร์ตทั้งหมดกว่าหนึ่งแสนคน
  • COOLanything สัดส่วนรายได้ 30% เป็นส่วนหนึ่งของโมเดล Entertainmerce ที่เปลี่ยนผู้ฟังให้เป็นลูกค้า สร้างประสบการณ์ที่ดีในการช้อปปิ้ง ด้วยสินค้าคุณภาพที่รู้ใจและการบริการที่เข้าใจ ผ่านแอปพลิเคชันคูลลิซึ่ม ซึ่งเป็นต้นน้ำแหล่งใหม่ สำหรับยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ฟังเพลงได้ ช้อปเพลิน ในแอปเดียว’

อาร์เอส มิวสิค (RS Music)

ในเดือนตุลาคม 2563 นี้พบกับศิลปินใหม่ ผ่าน 3 ค่ายเพลง ได้แก่ Rsiam, Kamikaze, Rose Sound

ซึ่งการมาของ อาร์เอส มิวสิค ในครั้งนี้ จะสร้างปรากฏการณ์ให้วงการเพลงของไทยอีกครั้ง เพื่อเติมเต็มความรู้สึกให้คนไทยได้หายคิดถึงเพลงในแบบฉบับของ อาร์เอส อย่างแน่นอน และเป็นก้าวใหม่ที่ท้าทายของ อาร์เอส มิวสิค ด้วย

ทั้งหมดนี้คือความมหัศจรรย์ที่เกิดจาก Passion ของผู้บริหารและทีมงานทุกคนของ อาร์เอส กรุ๊ป ภายใต้ โมเดลธุรกิจ Entertainmerce ที่แตกต่าง ซึ่งยึดโยงกันอย่างแข็งแกร่ง และทรงพลัง ซึ่งทีมงานทุกคนพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ร่วมกัน และทั้งหมดนี้คือ New Legacy ของ อาร์เอส กรุ๊ป

ก่อนปิดท้ายในช่วงบ่ายด้วยการทัวร์บริเวณต่าง ๆ โดยรอบอาณาจักร Rs Group (อ่านต่อหน้า 2)

ทัวร์สำนักงาน RS Group

บริเวณด้านหน้า RS Group
บริเวณด้านหน้า RS Group
เทเลเซล
เทเลเซล
ห้องข่าว
ห้องข่าว
ปากท้องต้องรู้
รายการที่ Entertainmerce มามีบทบาทร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรายการ
ปากท้องต้องรู้
รายการที่ Entertainmerce มามีบทบาทร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรายการ
ห้องออกอากาศ
ที่มีความพร้อม และมีหลากหลายมุมเพื่อใช้ให้เข้ากันกับสินค้า
ห้องออกอากาศ
ที่มีความพร้อม และมีหลากหลายมุมเพื่อใช้ให้เข้ากันกับสินค้า
ห้อง SERVER ขนาดใหญ่ เพื่อจัดการระบบ
ห้อง SERVER ขนาดใหญ่ เพื่อจัดการระบบ
ห้องควบคุมการออกอากาศ
ห้องควบคุมการออกอากาศ
สถานีวิทยุ COOLISM
สถานีวิทยุ COOLISM
ห้องบันทึกเสียง
ห้องบันทึกเสียง
รายการ ราคาพารวย The Price is right ลิขสิทธิ์จากอเมริกา
รายการ ราคาพารวย The Price is right ลิขสิทธิ์จากอเมริกา
รายการนายจ๋า ทาสมาแล้ว รายการที่จะมีบทบาทกับการจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงในลำดับถัดไป
รายการนายจ๋า ทาสมาแล้ว รายการที่จะมีบทบาทกับการจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงในลำดับถัดไป

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส