ในช่วง 6 เดือนที่ทำการหาเสียงในการเลือกตั้งชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีนั้น โจ ไบเดน รู้ดีถึงฐานเสียงจากกลุ่มคนรักหมาที่มีจำนวนมหาศาลและเป็นกลุ่มที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่แยแสเลยด้วย ซึ่งโจ ไบเดน ก็ได้มุ่งเป้ากวาดคะแนนเสียงจากกลุ่มนี้ตลอดมา อ้างอิงได้จากประโยคที่เขาใช้หาเสียงผ่านทวิตเตอร์

“ชาวอเมริกันบางคนก็ร่วมฉลอง วันแมวแห่งชาติ บางคนก็ฉลองวันหมาแห่งชาติ แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่เอาทั้ง 2 อย่าง มันสื่อได้ถึงอะไรมากมายเลยนะ ถึงเวลาแล้วที่เราจะเอาสัตว์เลี้ยงกลับมาในทำเนียบขาวเสียที”

อธิบายนัยในข้อความที่โจ ไบเดน ต้องการสื่อก็คือโจมตีนโยบายไม่ให้เลี้ยงสัตว์ในทำเนียบขาวของประธานาธิบดีทรัมป์นั่นเอง ย้อนอดีตไปตั้งแต่ปี 1897 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ละคนต่างก็เป็นคนรักหมากันแทบทั้งสิ้น รายแรกก็คือ จอร์จ วอชิงตัน แล้วก็สืบเนื่องกันมาอีก 30 คน ที่เป็นประธานาธิบดีที่เลี้ยงหมา จากทั้งหมด 45 คน จนมาถึงประธานาธิบดีทรัมป์ ที่สร้างสถิติว่าเป็นประธานาธิบดีคนแรกในศตวรรษที่ไม่เลี้ยงสัตว์เลยสักตัว บรรดากลุ่มต่อต้านทรัมป์ก็เลยหยิบเอาจุดนี้มาเป็นเป้าโจมตี ขยายความไปไกลเลยว่า เห็นมั้ยตลอด 4 ปีที่ผ่านมานี่ การที่ทรัมป์ไม่เป็นคนรักสัตว์ก็เลยสะท้อนออกมาให้เห็นถึงความไม่ใยดีต่อสุขภาพพลานามัยประชาชน ซึ่งทรัมป์เองก็รู้ถึงข้อด้อยนี้ จึงได้ยกมาอธิบายในระหว่างที่หาเสียงในเท็กซัส


“ผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกนะถ้าจะมีสักตัวหนึ่ง แต่ที่จริงแล้วผมไม่มีเวลาดูแลมันมากกว่า ผมยังนึกภาพตัวเองไม่ออกถ้าจะต้องจูงหมาเดินในสนามหญ้าหน้าทำเนียบขาว”

ทางซ้ายคือ แชมป์ ที่นอนเบียดทางขวาคือ เมเจอร์

แล้ววันของหมาในทำเนียบขาวก็ถึงคราวกลับมาในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ บรรยากาศที่คุ้นเคยจะกลับคืนสู่ทำเนียบขาวเมื่อ โจ ไบเดน และสตรีหมายเลขหนึ่ง จิล ไบเดน จะเข้ามาพำนักในทำเนียบขาวพร้อมกับ 2 หมาพันธุ์เยอรมันเชปเพิร์ม แชมป์ วัย 12 ปี และ เมเจอร์ วัย 2 ปี

หลังมีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าชัยชนะตกเป็นของ โจ ไบเดน บรรดาคนรักหมาทั่วสหรัฐฯ ต่างก็โห่ร้องยินดี โดยเฉพาะกลุ่มที่นิยมอุปการะสัตว์แทนที่จะซื้อจากฟาร์มเพาะเลี้ยง ที่เป็นกลุ่มที่ โจ ไบเดน ให้ความสำคัญในฐานะฐานเสียงสำคัญของเขา เพราะเมื่อทศวรรษที่แล้วนั้น โจ ไบเดน ไปซื้อเจ้าแชมป์มาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงในเพนซิลวาเนีย ด้วยความที่เป็นนักการเมืองมีชื่อเสียง ก็เลยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มคนรักสัตว์จำนวนมากที่ออกมาตำหนิว่าทำไม โจ ไบเดน ไม่เลือกอุปการะสัตว์จากสถานสงเคราะห์แทนที่จะไปเสียเงินซื้อหมาแพง ๆ จากฟาร์มมาเลี้ยง

ภาพที่ทางศูนย์ the Delaware Humane Association นำมาช่วยหาเสียงให้ โจ ไบเดน

ซึ่ง โจ ไบเดน ก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อเสียงเหล่านี้ ในปี 2018 โจ ก็เลยไปรับ เมเจอร์ มาจากสถานสงเคราะห์สัตว์ he Delaware Humane Association มาเลี้ยง และเจ้าเมเจอร์นี่ล่ะ จะเป็นสุนัขจากสถานสงเคราะห์ตัวแรกที่ได้เข้าไปพำนักในทำเนียบขาว เท่ากับเมเจอร์ได้ทำหน้าที่อันมีเกียรติเป็นตัวแทนของบรรดาหมาจร ทำเอาบรรดาสถานสงเคราะห์สัตว์ทั่วประเทศต่างชื่นชมยินดีกับวาระสำคัญนี้ หลาย ๆ แห่งก็โพสต์ข้อความอวยเจ้าเมเจอร์กันยกใหญ่ โดยเฉพาะ The Delaware Humane Association บ้านเดิมของเจ้าเมเจอร์ก็โพสต์ภาพ โจ ไบเดน กับ เมเจอร์ พร้อมข้อความว่า
“สุนัขตัวแรกที่ได้รับการเลือกตั้ง”

แพททริก แคร์รอล ผู้อำนวยการบริหารของ The Delaware Humane Association กล่าวว่า
“เมเจอร์จะแสดงให้โลกเห็นว่ายังมีหมาดี ๆ อีกมากที่ยังรอคอยที่จะมีบ้านอยู่ตามสถานสงเคราะห์”

พร้อมกันนี้ แพททริกยังย้อนเล่าเหตุการณ์ในวันที่ โจ ไบเดน มารับเจ้าเมเจอร์ไปเลี้ยงเมื่อปี 2018 เขาเล่าว่าในวันนั้นโจ ไบเดน มาเหมือนรีบ ๆ แบบว่ามาพอเป็นพิธี แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าเขาอยู่ในสถานสงเคราะห์นานเป็นชั่วโมงเลย เขาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่และถ่ายเซลฟีด้วย
“เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์และเป็นแบบนี้เสมอมา”

ในเดือนกันยายน กลุ่มคนรักหมาปล่อยคลิปวิดีโอยาว 30 วินาที ออกมาเพื่อแสดงการสนับสนุนโจ ไบเดน ในคลิปนี้เป็นภาพขาว-ดำ ของประธานาธิบดีในอดีตซึ่งมีทั้ง โรนัลด์ เรแกน, จอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช และ จอร์จ ดับเบิลยู บุช, บิล คลินตัน และ บารัก โอบามา กำลังกอดหมาของเขา พร้อมกับข้อความสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า

“จงเลือกตัวแทนของคุณอย่างฉลาด”

ร็อบ ชวาร์ตซ์ CEO ของเอเยนซี่ TBWA/Chiat/Day สำนักงานกรุงนิวยอร์ก ผู้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาตัวนี้เผยว่า เขาได้แนวความคิดในการทำโฆษณาตัวนี้มาจากการได้พูดคุยปรึกษากับกลุ่มหาเสียงของ โจ ไบเดน ถึงสารสำคัญที่โจต้องการสื่อ และเป็นสารสำคัญที่แยกเป็นเอกเทศจากนโยบายหาเสียงหลัก ที่เขาอยากจะสื่อแบบง่าย ๆ ตรง ๆ และเข้าถึงกับกลุ่มผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง หลังจากไปทำการบ้านศึกษาข้อมูลมาแล้ว ร็อบ ชวาร์ตซ์ กล่าวว่าเขาพบข้อมูลที่น่าตกใจว่าเกือบ 70% ของครอบครัวอเมริกันนั้นเลี้ยงหมา ภาพยนตร์โฆษณาของเขาตัวนี้ล่ะน่าจะช่วยโน้มน้าวฐานเสียงจำนวนมากที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครได้สำเร็จ

มาร์ก แม็กคินน็อน ที่ปรึกษาในทีมงานหาเสียงของประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ในปี 2012 ก็เคยให้ความสำคัญในเรื่องคนเลี้ยงหมามาแล้วเหมือนกัน
“ประชาชนเค้ามักจะมองภาพรวมและคุณสมบัติของผู้ท้าชิงว่าเขาจะเลือกใครดี กลุ่มคนรักสัตว์แม้จะไม่ได้มีจำนวนสูงมาก แต่เขาก็มีสิทธิ์เลือกตั้ง”

ปลอกคอแมว สินค้าของ โจ ไบเดน

แม้ว่าจะเป็นกลุ่มที่ไม่ใหญ่มาก แต่โจ ไบเดน และทีมหาเสียงของเขาก็ให้ความสำคัญกับฐานเสียงกลุ่มคนรักสัตว์มาตลอด อย่างเช่นการผลิต ปลอกคอแมว No Meowlarkey ออกมาขาย เพื่อเป็นทุนในการหาเสียง และการโพสต์ย้ำเตือนผ่านสื่อโซเชียลเรื่อย ๆ ถึงความสำคัญของการมี “ประธานาธิบดีที่รักสัตว์” เป็นการยกระดับภาพลักษณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มักจะใช้คำว่า “dog” เป็นคำแสลงในเชิงดูถูกเหยียดหยามมาโดยตลอด เขามักจะใช้คำนี้กับผู้สตรีเพศที่ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะมาเป็นคู่ครอง และใช้คำนี้ในเชิงเปรียบเทียบกับผู้ชายที่อ่อนแอ

จะว่าไป สินค้าในการหาเสียงเรี่ยไรทุนของทรัมป์ก็มีปลอกคอหมา และบังเหียน ขายด้วย และในช่วงนี้ หลังการพ่ายแพ้ของทรัมป์ทาง RepublicanDogs.com ก็กำลังลดราคาสินค้าเหล่านี้อยู่ด้วยนะ

อ้างอิง

อ้างอิง