พระเอกหนังโป๊ ลัทธิคลั่งชาติ หัวหน้าแก๊งยากูซ่า และการพลีชีพแบบกามิกาเซ่ มาอยู่ในเรื่องเดียวกันได้อย่างไร จะค่อย ๆ เล่าให้ฟังครับ เหตุการณ์ประหลาดนี้ต้องย้อนความไปเมื่อปี ค.ศ.1976 หรือปี พ.ศ.2519 นู่นเลย ต้นเหตุของเรื่องนี้คือชายวัย 29 ปีชื่อ มิตซูยาสุ มาเอโนะ (Mitsuyasu Maeno)เขาเป็นพระเอกหนังโป๊หรือถ้าว่าตามศัพท์เฉพาะของหนังญี่ปุ่นก็คือหนังเอวีนั่นแหละ ถึงแม้จะเล่นแต่หนังโป๊ แต่มาเอโนะไม่ใช่นักแสดงระดับบ้าน ๆ นะ เพราะเรียนจบการแสดงโดยตรงจากมหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนียเลยเชียวนะ แต่สุดท้ายเส้นทางอาชีพการแสดงก็มาลงเอยด้วยการเป็นพระเอกหนังเอวีระดับแถวหน้าในยุคนั้น ช่วงที่เขาเสียชีวิตนั้นก็กำลังอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพการแสดงเลยก็ว่าได้ ผลงานโด่งดังสุดคือ Tokyo Emmanuelle (1976) ที่จัดได้ว่าเป็นหนังคลาสสิก

มิตซูยาสุ มาเอโนะ (Mitsuyasu Maeno)

แต่สาเหตุที่มาเอโนะก่อเหตุกระฉ่อนโลกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาชีพพระเอกหนังโป๊แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะอุดมคติส่วนตัวที่มีความคลั่งชาติในระดับรุนแรง เรื่องนี้พ่อของมาเอโนะเผยว่า สาเหตุที่มาเอโนะมีความคลั่งชาติขั้นรุนแรงนั้นเพราะเขามีความเคารพนับถือในตัวตนของ ยูกิโอะ มิชิมา นักการเมืองขวาจัดที่เคยพยายามผลักดัน “กองกำลังป้องกันตนเอง” เข้ายึดครองอำนาจการปกครองญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายน ปี 1970 ด้วยความมุ่งหวังว่าจะนำวัฒนธรรมการปกครองแบบซามูไรกลับมาใช้อีกครั้ง แต่เมื่อแผนการล้มเหลว มิชิมาเลยทำการคว้านท้องตัวเอง

Tokyo Emmanuelle (1976)

ในปี 1971 มาเอโนะได้เข้าร่วมงานพบปะสังสรรค์ของกลุ่มคลั่งชาติ (ultra-nationalists) จัดขึ้นที่โรงแรมโอคูระ งานนี้ละที่มาเอโนะได้พบกับ โยชิโอะ โคดามะ แล้วทำให้เขารู้สึกนับถือชื่นชมในตัวตนของชายผู้นี้อย่างรุนแรง ความประทับใจแรกมาจากเพลง “Song of the Race” ที่โคดามะเป็นคนเขียนเนื้อร้องเพลงนี้ได้ประทับใจมาเอโนะอย่างมาก โคดามะยังเสนอแนวคิดว่าจะพยายามผลักดันให้เพลงนี้เป็นเพลงชาติใหม่ของญี่ปุ่น พร้อมกันนั้นยังเสนอปนิธานของกลุ่มว่าต้องการล้มล้างระบอบปกครองในปัจจุบัน แล้วนำระบอบจักรพรรดิ์เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 กลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง ปูมหลังของโคดามะนั้นเป็นหัวหน้าแก๊งยากูซ่าและเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองแบบขวาจัด เขาเป็นบุคคลผู้ทรงอำนาจอย่างมากในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ผลงานสร้างชื่อของเขาก็คือ หัวหอกในการรวบรวมความเป็นปึกแผ่นสมานฉันท์ของแก๊งยากูซ่า ด้วยผลงานทั้งในอดีตและปัจจุบันของโคดามะ ทำให้มาเอโนะมองโคดามะเป็นบุคคลแบบอย่างหรือไอดอลของเขา

โยชิโอะ โคดามะ (Yoshio Kodama)

มาเอโนะยอมรับนับถือในตัวตนของโคดามะมาตลอดจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์พลิกผันในปี 1976 เมื่อมีข่าวฉาวโฉ่ขึ้นในแวดวงการเมืองญี่ปุ่น เกี่ยวกับเงินสินบนของบริษัท ล็อกฮีด ที่จ่ายให้กับนักการเมืองระดับสูงของญี่ปุ่น และชื่อแรก ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ก็คือ โยชิโอะ โคดามะ (Yoshio Kodama) ว่าเขานี่เองคือตัวแทนของบริษัท ล็อกฮีด เป็นผู้ถือเงินสินบนมูลค่ากว่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาจ่ายให้กับนักการเมืองเพื่อให้อนุมัติซื้อเครื่องบินของล็อกฮีด แทนบริษัทคู่แข่ง หลังจากเรื่องนี้แดงขึ้นมา เลยมีการขุดคุ้ยเจอความลับว่า โคดามะทำงานลับ ๆ ให้กับล็อกฮีดมา 18 ปีแล้ว

ตรงจุดนี้ล่ะที่ทำให้มาเอโนะรู้สึกผิดหวังในตัวโคดามะอย่างรุนแรง เขาไประบายกับเพื่อน ๆ ว่าการที่โคดามะทำเช่นนี้เท่ากับทรยศต่ออุดมการณ์ของกลุ่มการเมืองขวาจัดและจรรยาบรรณของซามูไรทั้งที่โคดามะเคยปวารณาตัวรับวิถีซามูไรมาแล้วด้วย การกระทำของโคดามะถือว่าเป็นการกระทำที่สร้างความเสื่อมเสียต่อประเทศชาติ ถือเป็นบุคคลที่น่าอับอาย

มาเอโนะ ในชุดฟอร์มนักบิน

แม้ว่าจะเป็นแผนการที่บังเกิดจากความโกรธแค้น แต่มาเอโนะก็ไม่กระทำการโดยผลีผลาม ด้วยความที่เขาเป็นนักบินที่มีใบอนุญาต มาเอโนะเลยขับเครื่องบินเล็กบินไปลาดตระเวนแถวบ้านของโคดามะเพื่อศึกษาลู่ทางก่อนลงมือจริง จนกระทั่งถึงวันลงมือ 23 มีนาคม 1976 มาเอโนะมาที่สนามบินโชฟูกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์อีก 2 คน ทั้ง 3 คนแต่งชุดฟอร์มนักบินกามิกาเซ่ มาเอโนะบอกเจ้าหน้าที่สนามบินว่าเขาเช่าเครื่องบิน 2 ลำนี้ไว้เพื่อใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์เกี่ยวกับนักบินกามิกาเซ่ แล้วทั้ง 3 คนก็นำเครื่องบินขึ้น ลำแรกมีมาเอโนะอยู่คนเดียว ส่วนเพื่อนอีก 2 คนอยู่อีกลำหนึ่ง

ไม่แน่ชัดว่าเพื่อนทั้ง 2 คนรู้ถึงแผนการกามิกาเซ่ของมาเอโนะหรือไม่ เพราะทั้งสองลำบินวนบนน่านฟ้าโตเกียวกันอยู่ราว ๆ 1 ชั่วโมง จากนั้นมาเอโนะก็วิทยุบอกเพื่อน ๆ ว่าเขามีธุระแถว ๆ ย่านเซทากายะ เขาจะบินไปแถวนั้นซักหน่อย ซึ่งที่จริงแล้วย่านนั้นคือบ้านของโคดามะ ซึ่งเป็นเป้าหมายของเขา แล้วเขาก็นำเครื่องมุ่งหน้าไปยังจุดหมาย แต่เพื่อนอีกลำหนึ่งก็ขับตามมาด้วย พอมาถึงใกล้บ้านของโคดามะแล้ว มาเอโนะก็ลดระดับเครื่องลง เขาบินวนรอบบ้านโคดามะอยู่สองรอบ ก่อนจะปักหัวดิ่งลงเข้าหาบ้านของโคดามะ เจ้าหน้าที่วิทยุการบินรายงานว่า เมื่อเวลา 9:50 น. เขาได้ยินมาเอโนะพูดมาในวิทยุว่า “จักรพรรดิ์ทรงพระเจริญ” สิ้นคำนั้นสัญญาณก็ขาดหายไป

บ้านของโคดามะ หลังจากถูกเครื่องบินของมาเอโนะพุ่งชน

เครื่องบินของมาเอโนะพุ่งชนเข้าบริเวณระเบียงชั้นสองของบ้าน ทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นฉับพลันจากจุดที่เครื่องบินชน มาเอโนะเสียชีวิตทันที คนรับใช้ 2 คนบาดเจ็บ ส่วนโคดามะนั้นไม่ได้เป็นอะไรเลย เพราะนอนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้าน บรรดาคนในครอบครัวประคองตัวโคดามะออกจากบ้านได้อย่างปลอดภัย ส่วนบรรดาลูกน้องของโคดามะก็ช่วยกันดับไฟได้สำเร็จ

ข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ในวันนั้น

จากการลงมือของมาเอโนะ กลายเป็นชนวนให้เกิดความหวาดระแวงและคาดเดาถึงเบื้องหลังของมาเอโนะกันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็ว่ามาเอโนะได้รับการว่าจ้างจากหัวหน้าแก๊งยากูซ่าแก๊งหนึ่งให้มาสังหารโคดามะ มีข่าวอีกว่ากลุ่มคลั่งชาติที่โคดามะสังกัดอยู่นั้นรู้สึกผิดหวังกับการกระทำเสื่อมเสียของโคดามะ และเรียกร้องให้เขาลงโทษตัวเองด้วยการคว้านท้อง

พอมีแรงกดดันจากรอบด้าน โคดามะก็เลยเรียกชายหนุ่ม 70 คนที่เป็นนักศึกษาการเมืองขวาจัดที่โคดามะสนับสนุนให้มาช่วยกันยืนอารักขารอบบ้านของเขาตลอดช่วงสุดสัปดาห์นั้น เพราะมีกลุ่มคนจำนวนมากที่ต่อต้านโคดามะรวมกลุ่มกันใกล้ ๆ บ้านของโคดามะ กลุ่มนี้เรียกร้องให้โคดามะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แทนที่จะเข้าสู่การไต่ส่วนในรัฐสภา ส่วนโคดามะในวัย 65 ในวันนั้น กำลังป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน ก็อ้างคำวินิจฉัยของแพทย์ว่าป่วยเกินกว่าที่จะเดินทางไปเข้ารับการไต่สวนในสภา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สรรพากรต้องเข้าไปสอบปากคำโคดามะถึงในบ้าน

ก็ถือว่าการพลีชีพของมาเอโนะไม่ถึงกับสูญเปล่านะครับ

อ้างอิง อ้างอิง