เอิร์ฟ กอร์ดอน (Irv Gordon) และรถยนต์คู่ใจของเขา VOLVO P1800 ปี 1966 ได้สร้างสถิติโลกด้วยการขับรถคันนี้ได้ระยะทางสะสมรวมแล้วกว่า 4.8 ล้านกิโลเมตร เทียบแล้วเท่ากับระยะทางเดินทางไป-กลับ ระหว่างโลกและดวงจันทร์ (384,400 กม.) ถึง 7 รอบ เท่ากับระยะวนรอบโลก 120 รอบ
เอิร์ฟ กอร์ดอน พาเจ้า VOLVO P1800 ของเขาแตะระยะที่ 3 ล้านไมล์หรือ 4.8 ล้านกิโลเมตร เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2013 ที่เมืองกริดวูด ทางตอนใต้ของรัฐอลาสกา สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2014 หนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ ได้ทำพิธีบันทึกชื่อของเขาไว้ว่าเป็นชายคนแรกที่ได้เป็นเจ้าของเพียงคนเดียวกับรถคันเดิมแล้วสามารถขับรถได้เป็นระยะทางสะสมสูงที่สุดในโลก ในวันนั้นที่ทำพิธีมอบประกาศณียบัตรจากกินเนสส์นั้น เลขไมล์ของ Volvo P1800 ก็ขยับขึ้นเป็น 3,039,122 ไมล์ไปเรียบร้อยแล้ว
กอร์ดอนเล่าว่าเขาไม่เคยคาดหวังที่จะสร้างสถิติโลกอะไรแบบนี้เลย เขาเพียงแค่อยากจะมีรถสักคันที่ทนทานไว้ใจได้ เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยมีประสบการณ์แย่ ๆ กับรถมาแล้ว 2 คัน เอิร์ฟ กอร์ดอน เดินเข้าโชว์รูม Volvo ในเดือนมิถุนายน ปี 1966 แล้วเขาก็ได้ทดลองขับ P1800 ซึ่งเขาประทับใจมาก แล้วเขาก็เห็นราคาของเจ้าคันนี้อยู่ที่ 4,150 เหรียญ (138,000 บาท) นั่นเท่ากับเงินเดือนของเขาทั้งปีเลย
“ผมตัดสินใจไปยืมเงินพ่อมา บวกกับเงินที่ขายรถ Corvair คันเก่าไปด้วย”
พอเขาซื้อ P1800 คันนี้มา แค่ในสัปดาห์แรกเขาก็ขับมันไปไกลถึง 2,4xx กิโลเมตรแล้ว อ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอิร์ฟ กอร์ดอน ทำอาชีพอะไรถึงจำเป็นต้องขับรถระยะทางไกลขนาดนี้ แต่เปล่าเลยกอร์ดอนเป็นแค่ครูสอนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนประถมศึกษา เขาขับรถไปโรงเรียนแล้วกลับบ้านในแต่ละวันก็ประมาณ 200 กิโลเมตร/วัน แต่เขาเป็นคนที่รักการขับรถเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว
“มันเห็นกันชัด ๆ อยู่แล้วนะครับ ว่าผมชอบขับรถมาก มันเป็นวิธีการที่ผมใช้พักผ่อนหย่อนใจตัวเอง หลุดพ้นไปจากเรื่องต่าง ๆ นานา”
กอร์ดอนยังเล่าอีกว่าเขาก็แค่ขับรถไปเรื่อย ๆ ไม่ได้เคยสนใจมองเลขไมล์ด้วยว่าวิ่งไปเท่าไหร่แล้ว มาสังเกตอีกทีรถก็วิ่งไป 402,336 กิโลเมตรแล้ว โดยที่ไม่เคยเสียถึงกับต้องเข้าอู่ซ่อมเลย มีแค่เอาเข้าศูนย์ตรวจเช็กตามระยะทางกำหนดแค่นั้นเอง กอร์ดอนประทับใจกับสมรรถนะของ Volvo P1800 คันนี้ของเขาอย่างมาก ถึงกับเขียนไปขอบคุณบริษัท Volvo
“ตั้งแต่ผมใช้รถคันนี้มา ผมไม่เคยต้องซ่อมเลยสักครั้ง แต่ถ้าเรื่องบำรุงรักษาน่ะก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่ผมไม่เคยต้องเปลี่ยนปั๊มน้ำหรืออะไรพวกนั้นเลย”
ซึ่งทางบริษัทก็มีจดหมายตอบกลับมาว่า
“เรายินดีมากที่คุณมีความสุขกับรถของเรา แล้วอย่าลืมคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยนะครับ”
กอร์ดอนเขียนไปอีกครั้งเมื่อทะลุหลัก 800,000 กิโลเมตร และอีกครั้งเมื่อทะลุหลัก 1,600,000 กิโลเมตร (1 ล้านไมล์)
พอถึงตรงนี้ Volvo ไม่ได้มีจดหมายตอบกลับแล้ว แต่ส่งรถยนต์คันใหม่เอี่ยม 780 Coupe มาเป็นของขวัญให้ เอิร์ฟ กอร์ดอน เลย ซึ่งคันนี้กอร์ดอนก็ขับไป 700,xxx กิโลเมตร ก่อนจะขายไป
พอถึงตรงนี้ชื่อของ เอิร์ฟ กอร์ดอน ก็เริ่มเป็นที่รู้จักแล้ว เขาถูกเชิญไปโชว์ตัวทั่วโลก ซึ่งเขาก็รักที่จะขับรถไปด้วยตัวเอง สถานะของเอิร์ฟ กอร์ดอน เหมือนกับแบรนด์ แอมบาสเดอร์ของ Volvo ไปแล้วในตอนนั้น กอร์ดอนพาเจ้า P1800 ของเขาไปโชว์ตัวตามโชว์รูมของ Volvo ทั่วทั้งยุโรป ทาง Volvo ก็ให้เกียรติเชิญกอร์ดอนไปเที่ยวโรงงานที่เคยผลิตเจ้า P1800 คันนี้ออกมา ไม่เพียงแค่ Volvo เท่านั้นที่เชิญกอร์ดอนไปโชว์ตัว Castrol แบรนด์น้ำมันเครื่องระดับโลกก็ยังเชิญกอร์ดอนไปโชว์ตัวที่แอฟริกาใต้อีกด้วย เพื่อโปรโมตประสิทธิภาพและความน่าเชื่อมั่นของน้ำมันเครื่องคาสทรอล
คำถามที่กอร์ดอนโดนถามบ่อยสุดก็คือ ดูแลรักษารถอย่างไรถึงคงทนได้ขนาดนี้ คำแนะนำของกอร์ดอนก็ง่าย ๆ เลยคือ ยึดหลักตามคู่มือดูแลรักษาของบริษัทเท่านั้น ถ้าในคู่มือระบุไว้ว่าถึงระยะที่เท่าไหร่แล้วต้องเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นไหน ให้รีบเปลี่ยนทันที รถของตัวเองควรขับเองคนเดียว อย่าให้ใครยืมขับ แล้วก็ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง ให้สัญญาณเพื่อนร่วมทางเสมอ แล้วที่สำคัญ เอิร์ฟ กอร์ดอน เองก็เป็นคนขับรถที่มีความระมัดระวังสูง ขนาดที่ว่าเขาขับรถได้ระยะทางไกลที่สุดในโลก แต่เขาไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ตลอดระยะเวลาที่กอร์ดอนใช้ P1800 มา เขาได้เปลี่ยนอะไหล่เครื่องยนต์ไปตามอายุการใช้งาน แน่นอนว่าเครื่องยนต์ย่อมเสื่อมสภาพและสึกกร่อน แต่กอร์ดอนก็ใช้วิธีกลึงใหม่ แต่เสื้อสูบและระบบเกียร์ก็เป็นตัวดั้งเดิมล้วน ๆ มีคำถามจากแฟน ๆ ของ เอิร์ฟ กอร์ดอน ว่า ถ้าวันหนึ่งเจ้า P1800 คันนี้เสีย ถึงขั้นสตาร์ตไม่ติดแล้ว เขาจะเลิกใช้มันแล้วเปลี่ยนรถคันใหม่ไหม คำตอบของกอร์ดอนก็คือ
“ผมไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นหรอก เพราะมันจะไม่มีทางเกิดขึ้น ต่อให้มันสตาร์ตไม่ติด ผมก็จะต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าทำไมมันถึงสตาร์ตไม่ติด แล้วก็จะซ่อมมัน”
นอกเหนือจากเรื่องรถแล้ว ก็มีคำถามจากแฟน ๆ ว่า ในฐานะที่เขาขับรถไปทั่วโลกแล้ว เมืองไหนที่เขาประทับใจผู้คนที่ขับขี่รถบนท้องถนนบ้าง
“ผมรู้สึกว่าชาวแคนาเดียนนั่นดูจะมีความสุภาพนอบน้อม ถ้าเทียบคนขับรถในนิวยอร์กแล้วนะ ผมประทับใจมากที่ได้เห็นชาวแคนาเดียนมักจะให้สัญญาณไฟกันเสมอ ซึ่งชาวสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะใส่ใจกันในเรื่องนี้นักหรอก แต่ก็มีข้อเสียนะ ผมบอกได้เลยว่าชาวแคนาเดียนนั้นขับรถกันเร็วมาก เร็วแบบไม่สนใจเลยว่าถนนนั้นจำกัดความเร็วที่เท่าไหร่”
เอิร์ฟ กอร์ดอน เสียชีวิตในวันที่ 15 พฤศจิกายน ปี 2018 ด้วยอาการหัวใจวาย ในระหว่างที่เขายังคงทำงานโปรโมตให้ Volvo ในชนบทห่างไกลในประเทศจีน ก่อนหน้าจะเสียชีวิตได้ไมกี่ชั่วโมง กอร์ดอนได้ส่งข้อความหาลูกสาวของเขาว่า
“นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของพ่อ”
เมื่อทาง Volvo สำนักงานใหญ่ทราบถึงการจากไปของ เอิร์ฟ กอร์ดอน ก็ได้ออกจดหมายแสดงความเสียใจอย่างเป็นทางการ มีใจความว่า
“มันเป็นความเสียใจอย่างใหญ่หลวงที่ Volvo ได้รับรู้ว่า เอิร์ฟ กอร์ดอน ได้จากไปแล้ว
“เรารู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ตลอดมาได้เป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางไกลที่ไม่อาจจะนับได้ของเขา บางทีอาจจะไม่มีนาทีไหนยิ่งใหญ่ไปกว่าช่วงเวลาที่เขาได้พารถ P1800 สีแดงของเขาผ่านหลัก 3 ล้านไมล์ในอลาสกา เมื่อปี 2013 อีกแล้ว มันเป็นสถิติที่ไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จมาก่อนตลอดระยะเวลากว่า 100 ปีที่เราก่อตั้งบริษัทมา”
เอิร์ฟเคยกล่าวถึงสถิติที่เขาได้ทำไว้ เขารู้ว่าวันหนึ่งจะต้องมีคนมาทำลายสถิติของเขา
“ทุกสถิติจะต้องมีคนทำลายได้เสมอ ผมมั่นใจว่าวันหนึ่งก็ต้องมีคนมาทำลายสถิติของผม ผมก็แค่ทำของผมให้ดีที่สุดแค่นั้น ไม่ว่ามันจะยากเย็นแค่ไหนแต่มันก็เป็นไปได้”