ปัจจุบันมีเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับมนุษย์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ช่วยลดระยะเวลาในการเดินทาง เครื่องบินหรือเรือโดยสาารที่ย่นเวลาการเดินทางที่มีข้อจำกัดอย่างถนน หรือระบบขับขี่อัตโนมัติไม่ต้องอาศัยคนขับ (Autopilot) ซึ่งเป็นจุดขายของ Tesla ยนตรกรรมไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่ช่วยสร้างความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง Tesla ก็มาพร้อมปัญหาต่าง ๆ นานา หนึ่งในนั้นคือเจ้าระบบขับขี่ไรคนขับที่ว่านี้ แทนที่จะสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ ดันทำให้งานเข้าและเดือดร้อนจนตำรวจต้องปิดถนนจับเลยทีเดียว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา เจ้าของรถ Tesla รายหนึ่งต้องการกลับบ้าน แต่ด้วยอาการมึนเมาจึงเปิดระบบขับขี่ไร้คนขับให้รถ Tesla เป็นผู้บังคับพวงมาลัยแทน ทว่าระหว่างทางกลับบ้านดันมีด่านตรวจอยู่ ซึ่งระบบขับขี่ไร้คนขับนี้เป็นที่ถกเถียงกับทางรัฐบาลอยู่ว่าควรนำมาใช้จริงหรือไม่ ทำให้ตำรวจจำเป็นต้องเรียกให้ผู้ขับขี่ (เจ้าของรถที่กำลังเมาหลับอยู่) จอดรถ แต่ดูเหมือนว่าระบบนี้ดูจะไม่ได้ว่านอนสอนง่ายเท่าไหร่นัก
สำนักข่าว ABC7 Los Angeles รายงานว่ารถคันดังกล่าวพุ่งเข้าชนที่กั้นของตำรวจและขับไปเรื่อย ๆ บนทางหลวงโดยไม่มีที่ท่าจะหยุด ซึ่งภายในคลิปวิดีโอจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัดจับรถ Tesla คันดังกล่าว โดยใช้รถตำรวจ 2 คันเพื่อปิดล้อมหน้าและหลังด้วยวิธีการลดความเร็วลงช้า ๆ จนกระทั่งรถ Tesla จอดสนิท
เห็นได้ว่าแม้เทคโนโลยีจะมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน แต่บางครั้งอะไรที่มันสบายเกินไปก็สร้างปัญหาได้ไม่แพ้กัน เพราะระบบไร้คนขับหรือ Tesla Autopilot เคยทำให้เกิดอุบัติเหตุรถชนมากกว่า 10 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าระบบไร้คนขับ แต่ผู้ขับขี่เองก็ควรที่จะมีสติและจับพวงมาลัยไว้ตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย ทว่าในความจริงผู้ใช้รถ Tesla หลายรายกลับไม่ได้ทำเช่นนั้นหน่ะสิ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส