หลังจาก XPENG เปิดตัว G6 โดยบริษัท MGC-ASIA หรือบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มียอดจองไปแล้วมากกว่า 400 คัน ล่าสุดกำลังจะมีโมเดลใหม่มาเป็นตัวเลือกให้กับผู้ใช้งานอย่าง XPENG X9 รถตู้ MPV ไฟฟ้า ที่จะมาสู้เจ้าตลาดอย่าง Maxus 9 และ Zeekr 009 รวมถึง Denza D9 ที่ใกล้จะเปิดตัวเช่นกัน ไปดูกันว่า XPENG X9 มีออปชันอะไรมาอวดคู่แข่งบ้าง
ก่อนอื่นทำความรู้จักบริษัท XPENG กันก่อน บริษัทรถน้องใหม่สัญชาติจีนก่อตั้งเมื่อปี 2014 โดยกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ เน้นความทันสมัยและเทคโนโลยี ที่ไม่ได้มีแค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังมีโดรนบินอัจฉริยะ ไปจนถึงโรโบติก ปัจจุบัน XPENG มีโรงงานผลิตรถ EV 3 แห่งในเมืองจ้าวชิง กวางโจวและอู่ฮัน มีกำลังผลิตรวม 600,000 คันต่อปี และมีสถานีชาร์จรวมกันมากกว่า 1,000 แห่งที่จีน
XPENG X9 รถตู้ไฟฟ้ามาในคอนเซ็ปต์ Ultra-smart Coupe MPV พร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Full-featured 800V Silicon Carbide (SiC) Architecture (แบตฯ รับประกัน 8 ปี) ที่ถือเป็นยุคใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะช่วยให้กินไฟน้อยลง ไม่มีต้องติดตั้งอุปกรณ์แปลงไฟ 400V เป็น 800V เพราะใช้กระแสไฟเดียวกับทั้งมอเตอร์และแบตเตอรี่ ความร้อนสะสมจึงน้อยลงด้วย และทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมด้วยการออกแบบแบตเตอรี่ Cell Integrated Body (CIB) ติดกับตัวถัง ขับขี่ได้ไกล 680 km (NEDC) รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 330 kW ชาร์จเพียง 10 นาที ขับไกล 280 km
จุดเด่นของ XPENG X9 คือระบบเลี้ยว 4 ล้อ หรือเลี้ยวล้อหลัง ทำให้แม้ตัวรถจะมีฐานล้อยาวกว่า 3,160 mm (5,293 x 1,988 x 1,785 mm) แต่มีรัศมีวงเลี้ยวแค่ 5.4 เมตรเท่านั้น ถือว่าแคบที่สุดในรถเซกเมนต์เดียวกัน นอกจากนี้ยังใช้ระบบช่วงล่างถุงลม ที่ปรับความสูงต่ำของตัวรถได้สูงสุด 90 mm (ขึ้นสูงสุด 40 mm / ลงสูงสุดตอนจอด 50 mm)
XPENG X9 รุ่นที่นำเข้ามาขายในประเทศไทย คาดว่าจะทำตลาดด้วยมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลัง 236 kW อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.7 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 200 km/h มาพร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ADAS ระดับเดียวกับ XPENG G6 และระบบช่วยจอดอัตโนมัติแบบไร้คนขับ Remote Parking Assist ที่ใช้สมาร์ตโฟนควบคุมรถให้จอดอัตโนมัติ แต่ XPENG X9 เพิ่มฟีเจอร์ให้กดจากรีโมตได้ด้วย
ดีไซน์ภายนอกตัวรถเหมือนยานอวกาศ ใช้วัสดุตัวถังที่มีอะลูมิเนียมผสมกว่า 54% และวัสดุเกรดเดียวกับเรือดำน้ำบริเวณเสา A และ B จึงมีความแข็งแกร่งทนทาน ตัวรถเส้นสายตามหลักอากาศพลศาสตร์ มีค่า CD เพียงแค่ 0.227 พอ ๆ กับพวกรถตระกูลซีดานเลยก็ว่าได้ ซึ่งสังเกตได้จากความลาดของหลังคา และท้ายลาดสไตล์คูเป้ ไฟหน้าและไฟท้ายเป็นเส้นลากยาวคล้ายหน้าของหุ่นยนต์
ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหราพรีเมียมบนพื้นที่ 7×7 ตร.ม. ตั้งแต่การเลือกเบาะปรับไฟฟ้าทุกที่นั่ง และเลือกใช้วัสดุ Nappa สำหรับที่นั่งแถวสองที่ออกแบบมาเป็น Zero-gravity Seat รองรับระบบนวดจริงจัง หน้าจอกลางขนาด 17.3 นิ้ว ที่รวบรวมฟีเจอร์ควบคุมรถต่าง ๆ ไว้ รวมถึงจอดิจิทัลบนหลังคาขนาด 21.4 นิ้ว ระบบเสียง 23 ตำแหน่ง รองรับการสั่งการด้วยเสียง พร้อมรีโมต และยังมีตู้เย็นที่รักษาอุณหภูมิตั้งแต่ 0-50 องศา ที่ชาร์จไร้สาย 50W และช่องเสียบ USB-C 60W สำหรับที่นั่งแถวสอง (แถวสามกำลังไฟ 15W)
ที่นั่งแถวสามก็มีพื้นที่ Headroom และ Legroom นั่งได้สบาย ๆ ปรับเอนนอนได้สูงสุด 176 องศา รวมถึงมีปุ่มพิเศษสำหรับการปรับเป็น Magic Storage กดค้าง 3 วิ จะเป็นการปรับเบาะอัตโนมัติให้กลายเป็นพื้นที่ราบสำหรับบรรจุของกว่า 2,554 ลิตร สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทาง 30 ลิตรได้สูงสุด 4 ใบ พร้อมกระเป๋าเดินทางใบเล็ก 20 ลิตร 5 ใบ และกระเป๋ากอล์ฟอีก 4 ใบ ได้แบบสบาย ๆ
ปัจจุบัน XPENG X9 ที่นำมาจัดแสดงโดย MGC ยังคงเป็นรถพวงมาลัยซ้ายอยู่ ส่วนรถคันเวอร์ชันผลิตจริงที่ใช้พวงมาลัยขวาคาดว่าจะมาในปี 2025 และทำตลาดได้ในราคาต่ำกว่า 2.9 ล้านบาท จะเป็นรถตู้ไฟฟ้าอีกรุ่นที่เข้ามาทำให้ตลาดรถตู้ไฟฟ้าในไทยสะเทือนอีกครั้งแน่นอน
นอกจากนี้ยังได้ข่าวว่า XPENG กำลังซุ่มก่อสร้างโรงงานผลิต Xpeng AEROHT รถบินได้ ที่เคยมีภาพปล่อยออกมาเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งโรงงานแห่งนี้รองรับการผลิตสูงถึง 10,000 คันต่อปี ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นรถบินว่อนฟ้าแบบไม่เกินจริงในช่วงทศวรรษนี้ก็เป็นได้