ย้อนกลับไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 นั้นรถยนต์บินได้อาจเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันในโลกแห่งมายาเพียงเท่านั้น นับตั้งแต่การปรากฏตัวครั้งแรกของยานยนต์เหาะเหินเดินอากาศ โดยในเวลานั้นก็มีผู้คนมากมายพยายามจะผลิตรถยนต์บินได้ขึ้นมา แต่เราก็ไม่สามารถเรียกได้เต็มปากนักว่าสิ่งที่ผู้คนในยุคเก่าคิดค้นขึ้นนั้นมันคือ ‘รถยนต์บินได้’
เนื่องจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกเป็นรูปภาพให้คนยุคเราได้เห็นกันนั้น ยานพาหนะเหล่านั้น มีความเป็นเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์มากกว่ารถยนต์เสียอีก ทำให้ผู้คนต้องรอมาจนถึงยุค 2020 เลยทีเดียว กว่าที่รถยนต์บินได้ในอุดมคติเหมือนในภาพยนตร์ดัง ๆ อย่าง ‘Back to the Future 2 (1989)’ จะได้ถูกคิดค้นและทำให้เกิดขึ้นจริง ๆ
ทำให้คนทั่วโลกเริ่มหันมาจับตามองรถยนต์บินได้กันมากขึ้น ซึ่งก็พอคาดเดาได้ว่าเมื่อใดที่รถบินได้ดังกล่าวถึงมือผู้ใช้จริง เทรนด์ของโลกเราจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน บทความ BT beartai จึงจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักรถยนต์บินได้ในยุคนี้กัน ว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร ทำงานแบบไหน และมีราคาเท่าไหร่กันบ้าง เพื่อต้อนรับการมาถึงของ Alef Model A ที่ได้ผลิตและเตรียมจัดส่งให้ลูกค้าในปี 2025 นี้
Alef Model A
เกริ่นมาขนาดนี้ก็ต้องเริ่มด้วย Alef Model A รถยนต์บินได้ที่ดีไซน์คล้ายกับรถยนต์ทั่วไปเกือบทุกอย่าง แต่มีความพิเศษตรงที่มีใบพัดซ่อนอยู่บริเวณใต้ท้องรถ เพื่อให้บินขึ้นได้แบบ eVTOL (ขึ้นและลงจอดในแนวตั้ง) คล้าย ๆ กับการขึ้นบินของเฮลิคอปเตอร์ แต่แตกต่างกันตรงที่รถคันนี้ใช้ไฟฟ้า ทำให้แทบไร้เสียงรบกวนโดยสิ้นเชิง และการขับเคลื่อนของรถยนต์คันนี้ใช้พวงมาลัยแทนการใช้คันบังคับแบบเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งรถคันนี้มาพร้อมระบบซอฟต์แวร์กับอุปกรณ์หลายอย่าง ที่ช่วยส่งเสริมการขับขี่บนถนนและทางอากาศให้ดีและปลอดภัยยิ่งขึ้น ทำให้มีมูลค่าสูงถึง 299,999 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 10,281,000 บาท) เลยทีเดียว แต่นี่ยังไม่ใช่รุ่นท็อปสุดของ Alef Aeronautics เพราะในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คนทั้งโลกจะได้สัมผัสกับ Alef Model Z ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า และราคาก็คงจะสูงไม่แพ้กัน



XPENG AEROHT
ต่อมา XPENG AEROHT รถยนต์บินได้สัญชาติจีน ดีไซน์คล้ายรถ Cybertruck มี 6 ล้อ ที่มีความเป็น 2 in 1 อยู่ในตัว รถคันนี้ได้บรรทุกโดรนไฟฟ้าที่ซ่อนอยู่หลังคันรถ มี 2 ที่นั่ง ซึ่งหากผู้ใช้ต้องการจะขึ้นบินโดรนดังกล่าว จำต้องจอดรถยนต์ที่บรรทุกโดรนมาทิ้งไว้และนำโดรนออกมาจากด้านหลังรถ

โดยระบบควบคุมการบินจะใช้คันโยกในการบังคับและขึ้นบินแบบแนวตั้งคล้ายการขับเฮลิคอปเตอร์ แต่ต่างกันตรงที่ XPENG ใช้ระบบไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้ไม่เกิดเสียงดังเวลาทำงาน

XPENG AEROHT ถูกออกแบบเพื่อให้ใช้ในพื้นที่แถบชานเมือง เหมาะสำหรับการบินชมทิวทัศน์ในสถานที่เปิดโล่งที่รัฐบาล (จีน) อนุญาต เปิดตัวในราคา 280,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 9,610,000 บาท) คาดว่าจะผลิตแล้วเสร็จปี 2025 พร้อมจัดส่งในปี 2026

AeroMobil 4.0
AeroMobil 4.0 คันนี้เป็นการผสมผสานระหว่างการออกแบบและวิศวกรรมยานยนต์และอวกาศ จนกลายเป็น AeroMobil 4.0 สีเหลืองสดใส สามารถกางปีกออกมาได้เมื่อต้องการบิน และสามารถเก็บปีกได้เมื่อต้องการขับบนท้องถนน ใช้พื้นที่ในการบินขึ้นและลงจอดค่อนข้างเยอะ ต่างจาก 2 คันแรกตรงที่ใช้ปีกคล้ายเครื่องบินเจ็ตที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ แถมรถคันนี้ยังคงหวังพึ่งเครื่องยนต์สันดาปอยู่ ทำให้เกิดเสียงดังในการใช้งานคล้ายเครื่องบินทั่วไป โดยรถยนต์คันนี้เปิดตัวในราคาอยู่ที่ประมาณ 1.3 – 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 44,590,000 – 54,880,000 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับรถยนต์บินได้คันอื่น ๆ ทำให้ในปัจจุบันยังไม่พบเห็น AeroMobil 4.0 ขับบนถนนหรือบินผ่านหน้าบ้านใคร ณ เวลานี้




ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรถบินได้ที่เกิดขึ้นจริงแล้วบนโลกของเรา และหลายบริษัททั่วโลกกำลังพัฒนารถบินได้ที่จะเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางของผู้คนไปตลอดกาล
ท้ายที่สุดแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวรอชมความดุเดือดของวงการรถบินได้ ซึ่งอาจระห่ำยิ่งกว่าการแข่งขันของวงการรถ EV ในช่วงที่ผ่านมา พร้อมจับตารอความไซไฟที่กลายเป็นจริงนี้กันต่อไป ว่าในแต่ละประเทศจะมีมาตรการ หรือกฎหมายมารองรับการจราจรบนฟากฟ้านี้อย่างไร ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปแค่ไหนถ้ามีรถบินได้อยู่ทั่วไป หรือจะโดนตำรวจไทยรวบไปก่อนกันแน่