แม้ Tesla จะไม่ได้เป็นผู้ผลิตรถยนต์โดยตรง แต่ก็ขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแกร่งของตัวถังและซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการขับขี่ ที่สามารถบันทึกข้อมูลการขับขี่ได้แบบละเอียดยิบ จนถึงขั้นสามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการสืบสวนได้ ดังเช่นกรณีนี้เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้เกิดอุบัติเหตุ Tesla พุ่งลงเขาลึกเกือบ 80 เมตร แต่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถกลับรอดชีวิตได้ราวปาฏิหาริย์ หลังการสืบสวนสาเหตุไม่นานกลับพบว่า นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็นการ ‘พยายามฆ่า’ ต่างหาก
จากเหตุการณ์รถ Tesla พุ่งตกเขาสูง 250 ฟุต (ประมาณ 76 เมตร) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2023 เวลาประมาณ 10.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น บริเวณจุดเกิดเหตุนี้ถูกขนานนามว่า ‘ทางลาดปิศาจ (Devil’s Slide)’ เนื่องจากเป็นพื้นที่ลาดชัน ขนาบข้างด้วยหน้าผาลึกและกระแสลมแรง จึงมักเกิดอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยสภาพรถ Tesla หลังประสบเหตุพับยับเยินทั้งคัน แต่ผู้โดยสารจำนวน 4 คน ประกอบด้วย คนขับที่เป็นสามีหรือนายแพทย์ ดาร์เมช พาเทล (Dharmesh Patel) วัย 41 ปี ภรรยาและลูกสองคนวัย 4 และ 7 ขวบ กลับรอดชีวิต
ภายหลังการสืบสวนของตำรวจทางหลวงแคลิฟอร์เนีย พบว่า มีความเป็นไปได้ที่ทำให้เชื่อได้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นโดยเจตนา พร้อมกับตั้งข้อหา ‘พยายามฆ่า’ แก่ผู้ขับขี่ เนื่องจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุแสดงภาพรถ Tesla ที่นายพาเทลขับขี่มาจากอุโมงค์ ขึ้นไปบนเนินเขา มีการเลี้ยวหักศอกแบบกะทันหันไปทางขวา จากนั้นตัวรถก็หายไปจากกล้องในทิศทางที่มุ่งไปทางขอบหน้าผา
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเสริมอีกว่า พาเทลจงใจขับรถลงเขา เพราะไม่ปรากฏสัญญาณไฟเบรกขณะพุ่งไปในทิศทางลงเขา ไปจนถึงตัวเขายังถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า ใช้ความรุนแรงกับคนในครอบครัว ทั้งภรรยาและลูกสาววัย 7 ขวบ ตามบันทึกของศาลอีกด้วย
อย่างไรก็ตามทางอัยการเขตยังไม่ได้สัมภาษณ์ภรรยาของผู้ต้องสงสัย ซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนลูกทั้ง 2 คนของพวกเขาได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เราคงติดตามกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะจบลงเช่นไร แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยี ที่สามารถบันทึกรูปแบบการขับขี่มาใช้เป็นประโยชน์ในการสืบสวนได้จริง ๆ แล้วนะ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส