วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม สมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน (CPCA) รายงานข้อมูลว่าเทสลา (Tesla) มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนของเดือนเมษายน จำนวน 75,842 คัน ซึ่งลดลงจากยอดในเดือนมีนาคม 14% แต่ก็ยังสูงกว่าเดือนเมษายนของปีที่แล้ว ซึ่งส่งมอบ Model 3 และ Model Y ที่ผลิตในจีนได้แค่ 1,512 คัน เนื่องจากปัญหาการล็อกดาวน์จากโควิด – 19
ส่วน BYD คู่แข่งรายใหญ่ในจีนมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดในซีรีส์ Dynasty และ Ocean ของเดือนเมษายน รวมกันทั้งหมด 209,467 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 1.6%
เทสลาได้ลดราคารถยนต์ในตลาดทั่วโลกรวมทั้งในจีนนับตั้งแต่ต้นปีหลายครั้ง ซึ่งเป็นเหมือนการประกาศสงครามราคาที่ค่ายรถยนต์กว่า 40 แบรนด์เข้าร่วมลดราคาแข่งขันด้วย และส่งผลให้เทสลามียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในไตรมาสที่ 1 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ก็ต้องแลกกับรายได้สุทธิที่ลดลงถึง 24%
ล่าสุดเทสลาได้ปรับแผนใหม่ วันจันทร์ที่ผ่านมาได้ปรับขึ้นราคารถยนต์ไฟฟ้า Model 3 และ Model Y เพิ่มขึ้น 290 เหรียญ (8,445 บาท) ทั้งในแคนาดา จีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น และเมื่อวันศุกร์ได้ปรับขึ้น Model S และ Model X ในจีนเพิ่มอีก 19,000 หยวน (9,770 บาท)
นอกจากนี้มีรายงานว่าเทสลากำลังเตรียมพร้อมที่จะส่งมอบ Model Y จากโรงงานจิกะเซี่ยงไฮ้ไปยังแคนาดาในปีนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะส่งรถยนต์ที่ผลิตในจีนไปขายที่อเมริกาเหนือ ทั้งนี้ไม่ได้เปิดเผยเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร ทั้งที่โรงงานในสหรัฐฯ นั้นใกล้กว่าจีน
ที่มา : reuters.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส