ใครที่เป็นแฟนของพรีเมียมสกู๊ตเตอร์อย่าง Vespa คงคุ้นเคยกับ Vespa GTS กันดีอยู่แล้ว แต่ใครที่ยังไม่รู้จัก Vespa GTS เป็นรถสกู๊ตเตอร์เฟรมใหญ่ ดีไซน์สปอร์ต อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี เพิ่งเปิดตัวโฉมใหม่ถึง 3 รุ่น ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป รุ่นไหนเหมาะใครบ้าง?
Vespa GTS โฉมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุด มี 3 รุ่นด้วยกัน เริ่มตั้งแต่
- Vespa GTS Super Tech 300 HPE รุ่นใหญ่จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีผสานดีไซน์สปอร์ต พิเศษหน้าจอแสดงผลแบบ TFT ที่สามารถเชื่อมแอปและใช้ระบบนำทางได้ด้วย
- Vespa GTS 300 HPE รุ่นใหญ่เครื่องยนต์ 300 cc ที่มีคาแรคเตอร์ของความคลาสสิก มี 2 สีแบบ Vespa ดั้งเดิม
- Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS เครื่องยนต์ 150 cc แต่เทคโนโลยีจัดเต็มเช่นเดียวกับรุ่น 300 cc ทั้งสองรุ่นมีระบบรีโมต Keyless System และหน้าจอแสดงผลแบบ Analog-LCD เหมือนกัน พร้อมระบบ ASR ที่ช่วยกันล้อหลังลื่น ซึ่งไม่มีเคยมีมาก่อนในรุ่น 150 cc
Vespa GTS โฉมใหม่เปลี่ยนดีไซน์โคมไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED รอบคัน ให้ความส่องสว่างมากขึ้นกว่าเดิม ดีไซน์ใหม่ ของกระจกด้านข้าง, Tie, โช้คหน้าและล้อแม็กซ์ ให้ความสปอร์ตขึ้น
อีกทั้งในรุ่น Super Sport 150 และ Super Tech 300 ยังมีการปรับเบาะด้วยการเดินด้ายตามสีของลายกราฟิกที่ริมขอบของเบาะนั่งให้ความสปอร์ต แต่รุ่น 300 HPE จะดีไซน์ออกมาเรียบ ๆ เพื่อคงความคลาสสิก มีที่จับหลังติดมาให้ด้วย ในรถรุ่น Vespa GTS นั้นอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ๆ แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น
ระบบ Keyless System
เทคโนโลยีปลดล็อกและสตาร์ทรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ แต่ต้องอยู่ในระยะ 1.5 เมตร ถ้าห่างกว่านั้นรถจะล็อกทันที ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำมาใช้กับรถเวสป้าด้วย จริง ๆ ระบบ Keyless มีในทุกรุ่นของ GTS โฉมใหม่นะครับ ในกรณีที่รีโมตแบตเตอรี่หมดหรือไฟอ่อน สามารถเอารีโมทไปแนบใกล้บริเวณกล่อง Keyless ทางด้านซ้าย ก็จะยังสามารถสตาร์ทรถได้ครับ
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Bike Finder สำหรับคนขี้ลืม สามารถใช้กุญแจรถช่วยหารถของตัวเองได้ด้วย เมื่อกดแล้วไฟทุกดวงของรถเราจะกะพริบขึ้นมา หรือกดรีโมทเพื่อเปิดเบาะที่นั่ง แต่ทั้ง 2 ฟังก์ชันนี้ ต้องอยู่ในรัศมี 50 เมตร
หน้าจอแสดงผลดิจิทัล
หน้าจอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 4.3 นิ้ว ที่เพิ่มมาให้รุ่น Super Tech 300 HPE โดยเฉพาะ รองรับภาษาไทยให้อ่านง่ายขึ้น มีโหมดปรับแสงหน้าจอกลางวัน – กลางคืนแบบอัตโนมัติ เพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็น
เชื่อมแอป Vespa ได้
ตัวรถสามารถเชื่อมกับแอปพลิเคชัน Vespa เพื่อดูค่าต่าง ๆ ของตัวรถได้ด้วย เช่น ระยะทางการขับขี่, ระยะก่อนเข้าศูนย์, ค้นหาตัวรถได้ รวมถึงระบบนำทาง ที่ใช้ได้กับรุ่น Super Tech 300 เท่านั้น แอป Vespa ยังใช้ได้กับ GTS รุ่นอื่นได้ด้วย ซึ่งในอนาคตก็จะพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ รอติดตามได้เลย
แต่ละรุ่นเหมาะกับใคร?
ใครที่อยากขับรถเฟรมใหญ่ของ Vespa หรือกำลังมองหารถสกู๊ตเตอร์สไตล์สปอร์ตคลาสสิกที่มีออปชันครบ Vespa GTS Super Sport 150 i-Get ABS น่าจะตอบโจทย์ด้วยราคาเริ่มต้น 165,900 บาท
ส่วนใครชอบความคลาสสิกฉบับ Vespa ทั้งตัวสีรถ ดีไซน์และเครื่องยนต์แรง 300 cc ก็ต้อง Vespa Gts 300 HPE ราคา 222,900 บาท และสุดท้าย GTS รุ่นใหญ่ที่ทั้งสปอร์ต จัดเต็มเทคโนโลยีไม่มีกั๊กก็ต้อง Vespa GTS Super Tech 300 HPE ที่ราคาเริ่มต้น 241,900 บาท
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ Vespa GTS ในซีรีส์นี้คือระบบระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ ที่จะเข้ามาซัปพอร์ตการเดินทางระยะไกลได้ดียิ่งขึ้น ใครที่ซื้อรถ Vespa GTS ในช่วงนี้ มีโปรโมชัน ฟรี Voucher ราคา 3,000 บาท พร้อมด้วย Vespa Licensing และ ค่า Maintenance ฟรี 1 ปี อีกด้วย สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมของรถ Vespa GTS ได้ที่เว็บไซต์ www.vespa.co.th
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส